ปูด!! คนการเมืองจ้างบิดเบือน 'สถาบันเบื้องสูง'
"ม.ล.ปนัดดา"ปูด!! คนเอี่ยว "การเมือง" จ้างทำข้อมูลบิดเบือน "สถาบันเบื้องสูง" ชี้เงินทองไม่เข้าใครออกใคร เตือนอย่านำสีเสื้อมาประหัดประหารกัน
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีการจัดอภิปรายในหัวข้อ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคงของชาติ”โดยพล.อ.จรัญ กุลละวณิชย์ นายกสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการและเห็นว่าจำเป็นต้องมี เพราะเมื่อคนไทยเข้ามาในดินแดนนี้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ประชาชนเห็นพ้องและเลือกขึ้น จึงเป็นความต้องการของประชานตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์เกี่ยวข้องกับความมั่นคงในทุกด้าน แต่ในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีการแบ่งงานให้ฝ่ายตุลาการ บริหาร และนิติบัญญัติ จึงหวังว่าต่างชาติจะเข้าใจบริบทตรงนี้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาสมัยที่ตนยังรับราชการเมื่อเกิดเหตุอะไร พอไปอธิบายต่างชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เขาก็มีความเชื่อมั่นเพราะประเทศเรามีประมุขคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีเหตุการณ์อะไรในประเทศท่านก็ห้ามศึกเอง ทั้งที่ไม่ทำก็ได้ แต่ที่ทำเพราะเป็นห่วงประชาชน
ด้านนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ สื่อมวลชนอาวุโส ด้านความมั่นคง กล่าวว่า จากการติดตามการรายงานข่าวของสื่อต่างชาติในช่วงความขัดแย้งทางการเมือง มักมีเจตนาเชื่อมโยงว่ามีสถาบันเป็นคู่ขัดแย้งกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่อธิบายข้อมูลพื้นฐานของสถานการ์ความเป็นมา และนำเสนอไปโดยไม่มีการอ้างอิงบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น และที่น่าตกใจมีการพูดถึงสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง ทำนองว่าอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากต้องการโยงว่าเป็นเรื่องสถาบันฯ การที่สื่อต่างชาตินำเสนอย่อมต้องการให้เชื่ออะไรบางอย่าง เช่นเดียวกับที่พยายามดึง มาตรา112 เข้ามาโดยระบุว่า รัฐบาลใช้กฎหมายนี้เพื่อคุมฝ่ายเห็นต่าง สะท้อนว่าที่ผ่านมามีความพยายามดิสเครดิตให้เสียชื่อเสียง
ขณะที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลละเมิด ลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันฯ ล้วนดำเนินการจากต่างประเทศมีคนที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองจ้างวานให้ทำข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน เพราะเงินทองไม่เข้าใครออกใคร ส่วนที่บางคนพยายามหยิบยก มาตรา 112 มาโจมตีทางการเมืองนั้น อย่าอ้างกันพร่ำเพรื่อ พูดกันบ่อยครั้งไม่น่าจะเหมาะสม ตนไม่อยากให้พูดกันผ่านสื่อมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันเรื่อยเปื่อย หลายอย่างต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผลและมองว่าสีเสื้อมีไว้สำหรับแข่งกีฬา ไม่มีประเทศใด นำสีเสื้อมาแบ่งแยกผู้คนในชาติให้มาประหัดประหารกัน