กฟผ. ผุดสถานีชาร์จอีวีทั่วไทย ปั้นแอปฯ EleXA ผู้ช่วยค้นหาสถานีแสนสะดวกเสริมทัพบริการ
กฟผ. ผุดสถานีชาร์จอีวีทั่วไทย ปั้นแอปฯ EleXA ผู้ช่วยค้นหาสถานีแสนสะดวกเสริมทัพบริการ
กระแสตื่นตัวรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคชาวไทย รวมทั้งผลพวงจากมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ในช่วง “ขาขึ้น” แบบฉุดไม่อยู่
โดยเฉพาะเวลานี้ การเปิดตัวต่อเนื่องของค่ายผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่พาเหรดเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยต่อเนื่องทั้งแบรนด์จากเอเชียและตะวันตก โดยยังมีทีท่าว่าจะไม่แผ่ว ซึ่งล้วนแสดงถึงแนวโน้มการเติบโตอุตสาหกรรมอีวีในไทยที่กำลังเดินตามเทรนด์โลก แต่อีกสิ่งที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถไฟฟ้าในการเลือกใช้ยานยนต์ไฟฟ้า คือการมี Ecosystem ที่รองรับการเติบโตของธุรกิจ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นองค์กรหลักด้านพลังงานไฟฟ้าที่ประกาศเป้าหมายร่วมผลักดัน EV Ecosystem ของประเทศ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้อีวีทุกกลุ่ม ภายใต้ธุรกิจ EGAT Group EV Business Solution เพื่อเดินหน้าประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนในอนาคต และสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการเร่งให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในไทยตามนโยบาย 30@30
รุกสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวในพิธีเปิดบูธ EGAT Group EV Business Solution ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 (Motor Expo 2022) ว่า ปัจจุบัน กฟผ. เปิดให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้ว 87 สถานีทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายให้ได้ 120 สถานีภายในไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อครอบคลุมการเดินทางของผู้ใช้อีวีในทุกภูมิภาค พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจด้านอีวีอื่น ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการแบบครบวงจร อาทิ การพัฒนาแอปพลิเคชัน EleXA เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้อีวีในการค้นหาสถานีชาร์จ ขยายการให้บริการระบบปฏิบัติการ BackEN ช่วยบริหารจัดการสถานีชาร์จอย่างครบวงจรแก่ผู้ที่สนใจลงทุนสถานีชาร์จ ส่วนการจำหน่ายเครื่องชาร์จอีวี Wallbox กฟผ. ได้มอบหมายให้บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม กฟผ. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีวีในอนาคต
เดินหน้าเพิ่มสถานีชาร์จเร็วรองรับเดินทางทั่วไทย
นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ กฟผ. ให้ข้อมูลเสริมว่า สถานี EleX by EGAT ของ กฟผ. มุ่งเน้นตอบโจทย์การให้บริการตามลักษณะการใช้งานใน 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มที่เดินทางข้ามจังหวัดและกลุ่มลูกค้าในเมือง
สำหรับในกลุ่มที่เดินทางข้ามจังหวัดส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณทางหลวง ซึ่งการติดตั้งสถานี EleX by EGAT จะทำให้ผู้ใช้อีวีสามารถเดินทางจากเหนือจรดใต้ได้อย่างมั่นใจ โดยเน้นการติดตั้งเครื่องชาร์จแบบเร็ว (DC Fast Charger) ในเส้นทางที่มีจำนวนคนเดินทางผ่านมาก ใช้เวลาชาร์จไม่นาน เน้นชาร์จไวและเดินทางไปต่อ และสำหรับกลุ่มลูกค้าในเมือง เน้นการตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง โดยติดตั้งเครื่องชาร์จแบบปกติ (AC Normal Charger) ในสถานที่ชุมชนและแหล่งไลฟ์สไตล์สำคัญ อาทิ ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล สนามกอล์ฟ หรือหน่วยงานราชการ เหมาะสำหรับการจอดรถทิ้งไว้เพื่อไปทำกิจกรรมต่าง ๆ และจอดชาร์จประมาณ 2-3 ชั่วโมง
“ปัจจุบันมีสถานี EleX by EGAT และพันธมิตรที่เข้าร่วมในแอปพลิเคชัน EleXA รวม 87 สถานี ซึ่งคาดว่าไตรมาสแรกของปี 2566 น่าจะขยายเพิ่มได้อีก 30 กว่าแห่งทั่วประเทศ อาทิ แม่ฮ่องสอน บึงกาฬ ปัตตานี ระนอง เพราะเป้าหมายของเราต้องการทำให้คนใช้รถอีวีเดินทางได้อย่างสบายใจและมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ ดังนั้น แต่ละสถานีที่มีเครื่อง DC Fast Charge ควรห่างจากสถานีเฉลี่ยรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตร หลังจากนั้นเราจะดูว่าในจุดไหนมีการใช้งานปริมาณก็จะเพิ่มหัวชาร์จเข้าไป โฟกัสทั้งแหล่งท่องเที่ยวและผู้ใช้ในชีวิตประจำวัน”
ย้ำตลาดรถอีวียัง “ขาขึ้น”
ส่วนทิศทางตลาดอีวีในประเทศ นายวฤตให้ทรรศนะว่า ตลาดอีวียังเป็นขาขึ้น ซึ่งการชาร์จอีวีที่บ้านยังถือเป็นการชาร์จหลัก 80% ของผู้ใช้อีวี ส่วนการชาร์จนอกบ้านเป็นเรื่องเสริมเวลาเดินทาง มีคนเคยบอกว่า หากในอนาคตแบตเตอรี่อีวีมีความจุมากขึ้นคนอาจไม่ชาร์จรายทาง แต่ผมมองว่าสิ่งที่จะเป็นข้อจำกัดไม่ใช่แบตเตอรี่ แต่เป็นผู้ใช้อีวีซึ่งปกติจะขับรถประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็ต้องแวะพักระหว่างทางและชาร์จไฟทิ้งไว้
“เป็นเรื่องปกติสำหรับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องเรียกว่าเป็นธุรกิจ S-Curve ดาวรุ่ง ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตเร็วในช่วงนี้ เราจะเห็นได้จากปริมาณอีวีที่เข้ามาในไทยมีหลากหลายแบรนด์ สถานีชาร์จก็ต้องสร้างขึ้นมารองรับให้ทัน”
ชูแอปฯ EleXA ผู้ช่วยค้นหา จอง จ่าย สถานีชาร์จทั่วไทย
อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ใช้อีวีคือ แอปพลิเคชัน EleXA ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาสถานี การจองคิวเพื่อชาร์จล่วงหน้า และจ่ายเงินได้เลย โดยปัจจุบัน กฟผ. ได้ร่วมกับผู้ให้บริการสถานีชาร์จรายอื่น คือ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เชื่อมโยงข้อมูลตำแหน่งสถานีชาร์จทุกค่ายในแอปพลิเคชันเดียว เพื่อให้ผู้ใช้อีวีลดความยุ่งยากในการค้นหาสถานีชาร์จ ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหลายแอปพลิเคชัน
เพียงผู้ใช้อีวีเปิดแอปพลิเคชัน EleXA จึงสามารถค้นหาสถานีชาร์จและสถานะความพร้อมใช้งานแบบเรียลไทม์ของทุกค่ายที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งแบบ DC Fast Charge และ AC Normal Charge ประเภทหัวชาร์จ รวมถึงสามารถให้ EleXA ช่วยวางแผนการเดินทาง จองคิวชาร์จ และจ่ายที่รองรับทั้งแบบโอนจ่าย QR Code หรือตัดบัตรเครดิต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้อีวี อีกทั้งภายหลังการชาร์จไฟทุกครั้งยังได้รับ EleXA Point เพื่อสะสมสำหรับแลกรับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ
นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจมองหาธุรกิจสถานีชาร์จอีวี กฟผ. ยังมีบริการระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จ หรือ BackEN ซึ่งเป็นระบบที่ กฟผ. พัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับสถานีชาร์จ EleX by EGAT เพื่อให้บริการแก่ผู้ที่สนใจลงทุนสถานีชาร์จอีวีเชิงพาณิชย์ โดยระบบ BackEN จะช่วยควบคุมบริหารจัดการสถานีชาร์จแบบออนไลน์และติดตามสถานะได้แบบเรียลไทม์ อาทิ การตั้งเวลาเปิด-ปิดสถานีชาร์จ การตั้งราคา ติดตามจำนวนผู้ใช้บริการ ปริมาณการชาร์จ รายได้ ตลอดจนได้รับการดูแลจากทีม Customer Service ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานคอยบริการ ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการก็สามารถสั่งชาร์จไฟฟ้าและชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน EleXA โดยสามารถขอคำปรึกษารูปแบบธุรกิจและรายละเอียดได้ทาง Line Official Account: @BackevEV