เบนซ์ ประเทศไทย เรียกรถเปลี่ยนถุงลมนิรภัย Takata
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ประกาศเรียกรถ (Recall) รถยนต์ที่จำหน่ายในไทย ที่เข้าข่ายต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยทาคาตะ (Takata) เข้ารับบริการเปลี่ยนฟรี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย รถยนต์ที่อยู่ในข่ายจะต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยของ Takata คือรถยนต์โมเดลปี ค.ศ. 2004 – 2016 หรือ พ.ศ. 2547 – 2559 ที่ยังไม่เคยเข้ารับบริการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
โดยเจ้าของสามารถตรวจสอบสถานะรถเบนซ์ เปลี่ยนถุงลม ด้วยการกรอกหมายเลขตัวถังรถยนต์ (VIN) 17 หลัก ที่ช่องทางออนไลน์
- http://mb4.me/TH_Recall
- www.checkairbag.com
และหากพบว่าเป็นรถที่เข้าข่ายการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ถุงลมนิรภัย ลูกค้าสามารถนัดหมายวันและเวลาเพื่อเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ส่วนใครที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกคืนผลิตภัณฑ์เพื่อการปรับปรุงคุณภาพ สามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 1250 หรือติดต่อศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
สำหรับปัญหาของถุงลม ทาคาตะ เริ่มต้นเกิดขึ้นในตลาดบางประเทศตั้งแต่ปี 2551 ก่อนจะขยายไปยังหลายๆ ตลาด รวมถึงไทย และได้รับการแก้ไขเป็นระยะๆ ด้วยการเรียกรถกลับไปเปลี่ยนอุปกรณ์ที่บกพร่องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ซึ่งในไทยที่ผ่านมา บริษัทรถยนต์หลายรายก็ส่งจดหมายถึงลูกค้าเพื่อให้กับมารับบริการเช่นกัน นอกจากนี้หลายค่ายก็จัดทำช่องทางให้ลูกค้าตรวจสอบว่ารถของตนเองอยู่ในข่ายที่ต้องเปลี่ยนหรือไม่ เช่น จัดทำเว็บไซต์ ให้เจ้าของรถกรอกหมายเลขตัวถัง เป็นต้น
ทั้งนี้รถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน อาจจะไม่มีปัญหาเหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่าใช้อุปกรณ์ถุงลมล็อตเดียวกันหรือไม่
ที่ผ่านมาบริษัทรถยนต์ทุกแห่งก็ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย รวมถึงการวพยายามส่งข่าวสารเจ้าของรถที่เปลี่ยนมือไปแล้วอีกด้วย แต่พบว่าปัจจุบัน ยังมีเจ้าของรถอีกจำนวนมากที่ยังไม่ดำเนินการ
ทั้งนี้ กรณีเป็นรถใหม่เจ้าของเพิ่งซื้อไป ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะบริษัทรถยนต์มีข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว แต่รถที่ขายต่อเจ้าของมือที่สองมือที่สามหรือมากกว่านั้น บริษัทรถยนต์จะไม่มีข้อมูลของผู้ซื้อต่อ ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งอาจเป็นส่วนที่ยังตกค้าง ไม่ได้เปลี่ยนในขณะนี้
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการ พยายามหาทางแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (TAIA) ซึ่งมีบริษัทรถยนต์ในไทยเป็นสมาชิก ได้หารือและร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อหาทางแจ้งข้อมูลให้เจ้าของรถที่อยู่ในข่ายต้องเปลี่ยนอุปกรณ์นำรถมาเข้ารับบริการ