สนไหม! ปิกอัพ อีวี 1.49 ล้าน เอาจริง (น่าจะ) ลดได้

ปิกอัพพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่น้อย คือ ปิกอัพ อีวี ไฮเลอร์ อีวี5 (Hyler EV5) 

ไฮเลอร์ เป็นปิกอัพ อีวี แบรนด์จีน นำเข้ามาทำตลาดโดย บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลลอปเมนต์ จำกัด หรือ ทีทีดี ผู้ทำตลาดรถเชิงพาณิชย์ ที่เน้นการทำตลาดลูกค้าตลาดองค์กร (B2B) เช่น ธุรกิจรถมินิบัส 

และแม้ว่าการเริ่มต้นทำตลาดปิกอัพอีวี ครั้งนี้จะยังมีเป้าหมายคือกลุ่ม B2B เช่นกัน แต่ขณะเดียวกัน ก็มีแผนการที่จะขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าทั่วไป (B2C) ด้วยเช่นกัน 

ไฮเลอร์ อีวี5 เป็นรถปิกอัพดับเบิล แค็บ 4 ประตู 5 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ โดยมิติตัวถังใกล้เคียงกับปิกอัพในตลาด

• ความยาว ..... 5,330 มม.
• ความกว้าง ..... 1,870 มม.
• ความสูง ..... 1,864 มม.
• ระยะฐานล้อ ..... 3,100 มม. 
• ช่วงล้อหน้า/หลัง ..... 1,580/1,580 มม. 
• ขนาดยาง ..... 245/70 R17
• เบรกหน้า/หลัง ..... ดิสค์/ดรัม
• นำหนักรถ ..... 2,000 กก. 
• น้ำหนักรวมสูงสุด ..... 2,875 กก.
• พวงมาลัย ..... เพาเวอร์ ไฮดรอลิค 

ไฮเลอร์ อีวี5 ใข้แบตเตอรี ของ CATL ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แบตเตอรีที่มีชื่อเสียงของจีน และได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตอีวี และตลาด 

• ขนาดความจุ 65 กิโลวัตต์ชั่วโมง 
• ขับขี่สูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 330 กม. 
• หัวชาร์จ แบบ CCS 2

ด้านมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ หรือ ประมาณ 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม.

ค่าตัว 1.49 ล้านบาท อาจจะดูสูงกว่าปิกอัพดีเซลในปัจจุบันพอควร ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริโภคที่จะบวกลบคูณหาร ความคุ้มค่าในการใช้งาน 

สำหรับการทำตลาด หากไม่ใช่กลุ่มลูกค้าองค์กรที่บริษัทมีตลาดอยู่แล้ว ในกลุ่มลูกค้าทั่วไป น่าจะเหมาะก้บการใช้งานเป็นรถส่วนตัวเหมือนกับลูกค้าปิกอัพ  4 ประตูส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันเหมือนรถเก๋ง มีระยะทางต่อการใช้งานไม่มากนัก และรู้ชัดเจนว่าแต่ละวันจะใช้รถเท่าไร ทำให้สามารถบริหารการใช้ และการชาร์จพลังงานได้ถูก

หรืออาจจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถประกอบธุรกิจ ที่ไม่ได้ขนสัมภาระมากนัก สามารถขนอุปกรณ์บางอย่าง พร้อมกับทีมงานบางส่วนไปทำงานพร้อมกันได้ ก็น่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้เร็วขึ้น เพราะหากขับขี่ในแต่ละวันระยะทางมากๆ ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในแต่ละวันได้ชัดเจน

และแว่วๆ มาว่า เอาจริงๆ แล้วหากลูกค้าทั่วไป สามารถที่จะคุยกันในเรื่องของราคาได้ ส่วนจะอยู่ที่เท่าไร ก็ลองคุยกันดูครับ 

ทั้งนี้ แผนธุรกิจของทีทีดี คือ การประกอบรถรุ่นนี้ในประเทศปีหน้า (2567) โดยอาจจะใช้ชิ้นส่วนบางรายการในประเทศ จากบรรดาซัพพลายเออร์ปิกอัพหลายาย 

รวมถึงการปรับรายละเอียดบางอย่างของรถ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าคนไทยมากขึ้น เช่น วัสดุ รายละเอียดบางอย่างด้านนอก และการตกแต่งภายใน