สู้ต่อ มาสด้าปรับโฉม BT-50 วางเครื่อง 3.0 ลิตร เทอร์โบ รุ่นขับสอง
ตลาดรถยนต์ไทย ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยเฉพาะรถปิกอัพ ที่ถดถอยอย่างรุนแรง หลังจากเกิดปัญหาหนี้ครัวเรือน และหนี้เสียสูงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เห็นความเคลื่อนไหวของหลายค่าย รวมถึงมาสด้า ที่ปรับโฉม BT-50 เติมความสด สปอร์ต มากขึ้น
โดยปิกอัพ มาสด้า BT-50 รุ่นปรับโฉม มีการปรับเปลี่ยนสำคัญ เช่น
- กระจังหน้า Signature Wing
- ชุดกันชนหน้าสีดำเงา
- ล้ออัลอย 18 นิ้ว
- เบาะหนังทูโทนสีน้ำตาล-ดำ
- ติดตั้ง Sport Paddle Shift
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC แบบ Stop & Go
และยังมีสีใหม่ให้เลือก คือ สีเทา ร็อค เกรย์
นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง Hi-Racer ทั้งรุ่นฟรีสไตล์แค็บและดับเบิ้ล แค็บ
แต่เดิมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรนั้น เดิม บีที-50 มีเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4x4) ซึ่งการนำมาใส่ในรุ่น 4x2 แบบยกสูง หรือ Hi-Racer ทั้งรุ่นฟรีสไตล์แคบ FSC และรุ่นดับเบิ้ลแค็บ DBL เป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายและตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ยิ่งขึ้น
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บรัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถปิกอัพแข่งขันที่ดุเดือด ทั้งสงครามราคา แคมเปญ ส่วนลด แต่มาสด้าจะไม่ลงไปเล่นในสมรภูมินี้ แต่จะใช้วิธีการสร้างพื้นที่ของตนเอง สร้างกลุ่มลูกค้าเฉพาะขึ้นมาใหม่
"มาสด้าเล็งเห็นช่องว่างที่จะเติมเต็มความต้องการของลูกค้า คือ ตลาดขับสองยกสูง นั่นคือสิ่งที่ลูกค้าเรียกร้องมาตลอดและยังไม่เคยได้รับการตอบสนอง ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแฟนพันธุ์แท้มาสด้า การปรับโฉมปิกอัพมาสด้า บีที-50 ใหม่ ในครั้งนี้ จึงให้ความสำคัญทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างาม ดุดัน ภายในสปอร์ตลงตัว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัยถูกใส่เข้ามาแบบเต็มคัน"
ส่วนเครื่องยนต์ ดีเซล 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ก็ยังมีเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเช่นเดิม
ทั้งนี้มาสด้า เชื่อว่าเมื่อรวมกับจุดเด่นอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วจะทำให้ได้รับการตอบรับที่ดี เช่น การออกแบบตามแนวทาง “โคโดะ ดีไซน์” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เหมือนกับรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีตระกูล CX Series
ส่วนออปชั่นอื่นๆ ที่มีมาให้ เช่น หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ใหม่ ถูกติดตั้งมาในรุ่นเริ่มต้น และหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ทั้ง Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ด้านระบบความปลอดภัยติดตั้งถุงลมสูงสุด 6 ตำแหน่ง ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวมสูงสุด 8 ตำแหน่ง กล้องมองหลังตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และยังมีระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advance Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น
- AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ACC แบบ Stop & Go (Adaptive Cruise Control with Stop & Go)
- LDW (Lane Departure Warning ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
- FCW (Forward Collision Warning) ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
- MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว
- AHB (Auto High Beam) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
สำหรับราคาจำหน่าย ปิกอัพ บีที-50 ทั้ง6 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
- Mazda BT-50 FSC 1.9 C Hi-Racer 752,000 บาท
- Mazda BT-50 FSC 3.0 S Hi-Racer 862,000 บาท
- Mazda BT-50 DBL 1.9 S Hi-Racer 922,000 บาท
- Mazda BT-50 DBL 3.0 S Hi-Racer 6AT 992,000 บาท
- Mazda BT-50 DBL 3.0 SP Hi-Racer 6AT 1,172,000 บาท
- Mazda BT-50 DBL 4x4 3.0 SP 6AT 1,272,000 บาท
ส่วนข้อเสนอทางการเงินประกอบด้วย ดอกเบี้ย 0.99% แถมประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี