ซูซูกิ เปิดเพิ่ม ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี ตั้งเป้าปีหน้าครบ 50 แห่ง
แม้จะประกาศยุติการผลิตรถยนต์ในโรงงานประเทศไทยอย่างเป็นทางการช่วงสิ้นปี 2568 แต่ซูซูกิ ยืนยันว่าจะคงเดินหน้าด้านการตลาด และการบริการหลังการขายต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ล่าสุดเปิดศูนย์ซ่อมตัวถังและสีเพิ่มเติมอีก 7 แห่ง
ทั้งนี้การประกาศยุติการผลิตรถในไทยของซูซูกิ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐจะเลิกมาตรการสนับสนุน อีโค คาร์ ตั้งแต่ต้นปี 2569 ขณะที่ซูซูกิ รถที่ทำตลาดปัจจุบันส่วนใหญ่เป็น อีโค คาร์ ไม่ว่าจะเป็นสวิฟท์, เซียส และเซเลริโอ
โดยหลังจากเลิกผลิต ซูซูกิจะหันไปนำเข้ารถจากต่างประเทศมาทำตลาดแทน โดยเฉพาะจากฐานการผลิตเพื่อนบ้าน อินโดนีเซีย ที่จะได้สิทธิพิเศษด้านภาษีนำเข้า 0% จากเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA (อาฟต้า)
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้าจากญี่ปุ่น รวมถึง อินเดีย ซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่ของซูซูกิ รวมถึงกรผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อีกด้วย
และแน่นอนว่าเมื่อมีข่าวว่าจะหยุดผลิตรถยนต์ในไทย ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของซูซูกิในไทย ทำให้ซูซูกิต้องออกมายืนยันหลายครั้งว่าจะยังเดินหน้าทำตลาดต่อไป เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการนำเข้าเท่านั้น พร้อมกางแผนทั้งเรื่องของทิศทางผลิตภัณฑ์ ตัวแทนจำหน่าย และการบริการหลังการขาย ซึ่งทำให้ความกังวลผู้บริโภคลดลงไป
ทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ซูซูกิยังคงเดินหน้าทำธุรกิจในไทยด้วยวิสัยทัศน์ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้จำหน่ายให้สามารถแข่งขันกับตลาดได้อย่างแข็งแรงในอนาคต ด้วยการยกระดับงานบริการรูปแบบใหม่ทุกด้าน
หนึ่งในแผนงานสำคัญคือแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ด้วยการร่วมมือกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน โดยที่่ผ่านมามีผู้ที่ให้บริการที่ได้การรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปแล้ว 32 แห่ง และล่าสุดเปิดเพิ่มเติมอีก 5 ราย 7 สาขา รวมเป็น 39 สาขา
"นอกจากการขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีแล้ว ซูซูกิยังยกระดับไปอีกขั้นด้วยงานบริการแบบ S-Solution ซึ่งเป็นการเสริมให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เตรียมจะนำมาจำหน่ายในอนาคต ทั้งรถไฮบริดและ อีวี ซึ่งเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน"
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 บริษัททำพิธีแต่งตั้งศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิอย่างเป็นทางการ 7 สาขา ประกอบด้วย
1 บริษัท เอ็น ซี เอ็ม ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ่นนทบุรี
2 บริษัท มาพรพาณิชย์ จำกัด (สาขาระยอง)
3 บริษัท ซูซูกิลพบุรี จำกัด ลพบุรี
4 บริษัท อินเตอร์เทรด ซูซูกิ จำกัด สิงห์บุรี
5 บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด (สำนักงานใหญ่) ขอนแก่น
6 บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด (สาขาเมืองขอนแก่น) ขอนแก่น
7 บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด (สาขาชุมแพ) ขอนแก่น
วัลลภกล่าวว่า สำหรับศูนย์ทั้งหมด ใช้เครื่องมือมาตรฐานซูซูกิ เป็นเครื่องมือเฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจากซูซูกิ และใช้สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของซูซูกิ ทำให้สีรถสวยงามและทนทาน เหมือนใหม่จากโรงงาน
พร้อมทั้งรับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และอะไหล่รับประกัน 1 ปี หรือ 20,000 กม.
"ซูซูกิยังมีแผนงานที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ เพิ่มเติมให้เป็น 50 แห่ง ภายในเดือน มีนาคม 2568"
นอกจากนี้ยังยกระดับด้านอื่นๆ เช่นการพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้แบบ Real Time ช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการ และสามารถประเมินความต้องการ ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ