‘Deepal S05’ 2 ทางเลือกไฟฟ้า แรง แอบนุ่ม แต่คุมได้ กว้าง นั่งสบาย

ฉางอาน (Changan) เปิดเกมรุกในตลาดรัว ๆ หลังจากเปิดตลาดครั้งแรกในไทยกับ ดีพอล แอล 07 (Deepal L07) รถซีดาน พลังงานไฟฟ้า (EV) และ “เอส 07” เอสยูวีที่ได้รับความนิยมสูงไม่น้อย
หลังจากทำตลาด 2 รุ่นแรกมาสักพัก จากนั้นฉางอาน (Changan) ก็เสริมตลาดด้วย Deepal E05 (ดีพอล อี05) เอสยูวี หัวใจปิกอัพ ก่อนที่ปีนี้จะมาอีก 2 รุ่น 3 เวอร์ ชั่น คือ S05 (เอส 05) ที่มีทั้งเวอร์ชั่นพลังงานไฟฟ้า (EV) และ REEV (Range Extended Electric Vehicle) ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และมีเครื่องยนต์สำหรับทำหน้าที่ปั่นไฟ
และจากนั้นไม่กี่วันก็ตามมาด้วยปิกอัพ Hunter K50 (ฮันเตอร์ เค50) ปิกอัพ REEV รุ่นแรก
การเปิดตลาด เอส05 การตอบรับดีทีเดียว หนึ่งคือ รถเอสยูวี นั้นกำลังได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย ขณะที่โครงสร้างราคาของ เอส 05 ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า เอส07 แต่ความสามารถในการใช้งานไม่แตกต่างกันนัก
โดยเอส05 พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม EPA1 มี 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
อีวี
- S05 BEV LITE ราคา 799,000 บาท
- S05 BEV Plus 849,000 บาท
- S05 BEV Max 899,000 บาท
REEV
- S05 REEV Plus 949,000 บาท
- S05 REEV Max 999,000 บาท
ผมมีโอกาสไปลองขับสั้น ๆ ที่ลานปูนริมทะเลสาบเมืองทองธานี ซึ่งทำเป็นสเตชั่นให้ได้ลองสัมผัสกันเบื้องต้น ซึ่งสิ่งแรกที่สัมผัสคือ หน้าตาของรถที่การออกแบบเน้นความโค้งมนของตัวถังภายนอก โดยดีพอลระบุว่าดึงแรงบันดาลใจมาจากหลายส่วน เช่น หน้ารถที่ยื่นไปข้างหน้าแบบจมูกฉลาม และตกแต่งด้วยรูปทรงของปีกยานอวกาศ เป็นต้น
ส่วนช่องดักอากาศกระจังหน้าแบบแอคทีฟ เปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยไฟฟ้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เปิดเพื่อระบายความร้อน และปิดเพื่อให้ได้อากาศพลศาสตร์หากไม่จำเป็นต้องระบายความร้อน
ไฟท้าย LED แบบเส้นคาดเต็ม กันชนหลังเสริมดิฟฟิวเซอร์ ซึ่งช่วยให้ค่าสัมประสิทธิ์ลดลง โดยค่า Cd อยู่ที่ 0.25
ภายในห้องโดยสารยังไม่ได้สำรวจอะไรมาก เพราะขึ้นรถรอบแรกคือลองนั่งเบาะหลัง จากนั้นก็ลองขับกันอย่างรวดเร็วคันละ 2 รอบ
แต่เอาเป็นว่าเบื้องต้นห้องโดยสารกว้างขวางครับ นั่งเบาะหลังก็โปร่งโล่ง มีพื้นที่วางเท้า พื้นที่ช่วงเข่าเหลือ ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่แพลทฟอร์มนี้มีระยะฐานล้อที่ค่อนข้างยาว 2,880 มม.
เอส05 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบกันสะเทือน ด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลัง อิสระมัลติลิงค์ ซึ่งทีมงานระบุว่าปรับเซ็ทใหม่ให้เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย ขณะที่การกระจายน้ำหนัก หน้า : หลัง สมดุล 50 : 50
การลองขับประกอบไปด้วย การลองอัตราเร่งจากหยุดนิ่ง การขับสลาลอม, เลนเชนจ์ และการขับบนเส้นทางขรุขระที่จำลองโดยใช้แท่งวัสดุขวางทางเอาไว้ เพื่อดูการดูดซับแรงสั่นสะเทือน
ซึ่งตรงนี้ทำได้ดีครับ เก็บความกระด้างได้ดีเพิ่มความสบายให้กับผู้ที่อยู่ในห้องโดยสาร
อีกสิ่งหนึ่งก็คือ การเก็บเสียงโดยรวมที่ทำได้ดีทั้ง 2 รุ่น
ส่วนสมรรถนะที่ได้ การออกตัวถือว่ารวดเร็วไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าดมาก แต่ก็ทันใจ และการกระจายกำลังทำได้ดี รถนิ่งในจังหวะกดคันเร่งแบบทันที
การขี่สลาลอม สามารถควบคุมรถให้อยู่ในเส้นทางที่ใกล้ชิดกับกรวยที่ตั้งไว้ได้น่าพอใจ แต่ก็รู้สึกว่าการให้ตัวของตัวถังจะมากไปสักหน่อย อาจมาจากความนุ่มของช่วงล่าง
รวมถึงช่วงการลองเลนเชนจ์ที่หักพวงมาลัยแรง ๆ เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน 2 จังหวะ รับรู้ได้ถึงการให้ตัว และการโยนตัวของตัวถังให้รู้สึกได้ และเมื่อลองเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกจนทำท่าเหมือนว่ารถจะเสียการทรงตัว ท้ายกวาดออกไป
แต่ก็ไม่หลุดครับ สามารถดึงรถกลับมาและผ่านเข้าช่องที่ตั้งกรวยกำหนดเอาไว้ได้ พูดง่าย ๆ คือ สามารถแก้อาการของรถได้
ข้อดีก็คือ ยังสามารถคุมรถให้อยู่ในเส้นทางได้ โดยบางช่วงรับรู้ได้ถึงการเข้ามาแทรกแซงของระบบเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานครับ
และจะว่าไปแล้วเรื่องการขับ ผมชอบมากกว่ารุ่นพี่อย่าง เอส 07 ครับ
ทั้ง 2 รุ่นการขับขี่อารมณ์ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าให้ต้องเลือก ผมให้คะแนน EV นำนิด ๆ ครับ