แอคคอร์ด 1.5 เทอร์โบ ส่วนผสมลงตัว “สปอร์ต-นุ่มนวล”
ฮอนด้าคาดหวัง กับรถธงอย่าง แอคคอร์ด ใหม่ ไม่น้อย ว่าจะสามารถพลิกฟื้นตลาด ดี-เซ็กเมนต์ ให้กลับมาคึกคักได้ แม้ว่าช่วงนี้ภาพรวมกำลังซื้อหรือว่าทิศทางเศรษฐกิจที่ยังค่อนข้างอึมครึมก็ตาม
แอคคอร์ด เจเนอเรชั่นที่ 10 มีรูปทรงที่ดูสปอร์ตขึ้น ขณะที่มิติตัวถัง ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม ต่างกันไม่มากนัก โดยสั้นลง 36 มม. แต่กว้างขึ้น 12 มม. และเตี้ยลง 12 มม.
นอกจากตัวถังจะเตี้ยลงแล้ว ยังออกแบบให้จุดนั่งต่ำลง โดยระยะของสะโพกผู้ขับนั้นลดลง 28 มม. หมายถึงว่าศูนย์ถ่วงของรถลดลง รวมถึงน้ำนักรถที่ลดลง 56 กก. และทั้งหมดคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมบอกว่าช่วงล่างให้ความนุ่มนวลเอาใจลูกค้า แต่ก็สามารถให้ประสิทธิภาพการทรงตัวที่ดี และมีความคล่องตัวในการควบคุมรถ
แต่แม้ว่าตัวถังจะสั้นลง แต่แอคคอร์ดยืดล้อออกไปได้จากการที่ฐานล้อยาวขึ้น 55 มม. ทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้น จุดเด่นของแอคอร์ดสำหรับห้องโดยสาร คือ เบาะนั่งด้านหลังที่กว้าง พื้นที่ช่วงเข่าและพื้นที่วางเท้า เห็นได้ชัดว่าโล่ง โปร่ง ทำให้คนนั่งด้านหลังรู้สึกผ่อนคลาย ไม่อึดอัด อย่างนี้เชื่อว่าผู้บริหารที่มักจะฝังตัวเองไว้ที่เบาะหลังด้ายซ้ายน่าจะชื่นชอบมัน
อย่างไรก็ตาม การทำให้ศูนย์ถ่วงต่ำลง ก็มีผลทำให้การนั่งช่วงแรกๆ โดยเฉพาะเบาะคู่หน้าไม่ชินนัก เพราะรู้สึกว่าตัวต่ำลง และโผล่พ้นขอบประตูมาไม่มากนัก แต่ว่าเมื่อนั่งไปสักพัก ก็ไม่รู้สึกแปลกแยกอะไร และก็ไม่มีปัญหากับทัศนวิสัยของผู้ขับขี่อีกด้วย
ฮอนด้า ปรับเสาเอให้มีองศาการเอนมาด้านหลังเพิ่มมากขึ้น ก็มีผลต่อการลดแรงปะทะกับลม ช่วยทำให้หลักแอโร่ ไดนามิค ดีขึ้น และเมื่อรวมกับองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการใช้เสียงตัดเสียง หรือ "แอคทีฟ นอยส์ คอนโทรล" ด้วยลำโพงเล็กๆ ที่ฝังตัวในห้องโดยสาร 3 ดอก คอยปล่อยเสียงออกมาหักล้างเสียงอื่นที่แทรกเข้า การเชื่อมต่อตัวถัง และสเปรย์ โฟม มันช่วยให้การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ค่อนข้างเงียบทีเดียว ทั้งเสียงลม หรือว่าเสียงยาง
แต่ว่าใครที่ชอบฟังเสียงรถยนต์ แอคคอร์ดมีระบบ Active Sound Control หรือระบบแต่งเสียงเครื่องยนต์ให้ดูสปอร์ตมากขึ้น ก็เพิ่มมาได้เล็กน้อย ไม่มากนัก และส่วนตัวผมก็เห็นว่าไม่จำเป็นสำหรับแอคคอร์ด
ส่วนรูปร่างหน้าตาของรถ ก็แล้วแต่คนชอบครับ แต่สำหรับผม การปรับให้มันดูสปอร์ตเพิ่มขึ้น แถมด้วยกลิ่นเจือๆ ของคูเป้เข้ามา ก็ดูเหมือนว่ามันลดอายุแอคคอร์ดลงได้ไม่น้อย เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้
แอคคอร์ด เปิดตัว 2 รุ่น คือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ราคา 1.475 ล้านบาท และ ไฮบริด อีก 2 รุ่นย่อย ราคา 1.639 ล้านบาท และ 1.799 ล้านบาท แต่ว่าช่วงนี้เริ่มต้นส่งมอบเฉพาะรุ่น 1.5 เทอร์โบเท่านั้น
เครื่องยนต์เล็กลง ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่ามันจะรองรับรถที่มีขนาดใหญ่ได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้ผมมีคำตอบสำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตรที่ 1,500-5,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ซีวีที
เครื่องยนต์ตัวนี้ให้กำลังสูงกว่าเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าซึ่งใช้ในรุ่นก่อนหน้านี้ คือ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร ซึ่งมีกำลังสูงสุด 155 และ 174 แรงม้า นอกจากนี้ฮอนด้าก็บอกอีกว่านอกจากเรื่องของกำลังแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้เพิ่มเข้ามา คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีกว่า
การทดสอบครั้งนี้ ใช้เส้นทาง เชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ไป-กลับ ระยะทางประมาณ 170 กม. สลับกันขับ 2 คน อาจจะไม่มากนัก แต่ว่ารูปแบบเส้นทางก็ค่อนข้างครบถ้วนให้ได้ลองทั้งเส้นทางไฮเวย์ เส้นทางในเมือง และเส้นทางขึ้น-ลงเขา
การตอบสนองของเครื่องยนต์ใช้ได้ครับ เพียงพอกับการใช้งาน จังหวะออกตัวอาจจะไม่ร้อนแรงนัก ส่วนหนึ่งมาจากอารมณ์ของเกียร์ซีวีที ที่ไม่ได้ให้อารมณ์การออกตัวแบบจัดจ้านนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอืด ออกได้รวดเร็วพอตัว และเมื่อออกตัวไปแล้ว จังหวะการเติมความเร็ว การเร่งแซง ทำได้ดี ทันอกทันใจ ทั้งทางราบและทางบนเขา ช่วยให้ขับสนุก และมั่นใจว่าจะปลอดภัยในการเร่งแซง ซึ่งก็ใช้กันบ่อย โดยเฉพาะเส้นทางบนเขาย่านดอยสะเก็ดที่มีปริมาณรถหนาตา และยังมีช่วงที่สร้างทางซ่อมทางอยู่ด้วย หรือใครอยากสนุกเพิ่มขึ้น ก็ใช้โหมดสปอร์ตได้
ส่วนทางราบช่วงที่พอโล่งๆ บ้าง ลองไล่ความเร็วดู ก็เห็นได้ว่าลื่นไหล นุ่มนวล ซึ่งแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเกียร์ ซีวีที และเผลอแวบเดียว มันขึ้นไปแตะระดับ 180 กม./ชม. ได้ไม่ยาก และก็ย้ำอีกครั้งครับว่าเป็นการลองช่วงสั้นๆ ครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะลดความเร็วลงมา
ส่วนการเปลี่ยนความเร็วบ่อยๆ บนเขา แอคคอร์ดยังตอบสนองได้ดี การเพิ่มความเร็วช่วงขึ้นเนินทำได้ทันใจ ไม่อืด ส่วนการลดความเร็วช่วงลงเขา ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองเพื่อสร้างเอนจิ้นเบรก
สรุปว่าเครื่องยนต์ไม่มีปัญหา รองรับการใช้งานได้สบายๆ ทั้งทางราบ หรือทางเขา แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการขับ 2 คน แต่ก็เชื่อว่าแม้จะนั่งเต็มคัน ก็ไปได้แบบสบายๆ เช่นกัน
อัตราสิ้นเปลือง ตามสเปคอยู่ที่ 16.39 กม./ลิตร การขับวันนี้ ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ 91 (สเปคใช้ได้ถึง อี85) ตัวเลขที่ผมทำได้ประมาณ 10 กม./ลิตร แต่ก็ไม่แปลกใจอะไรเทียบกับลักษณะการขับขี่ที่เรียกกำลังเครื่องยนต์บ่อยครั้ง ขณะที่คนอื่นๆที่ไปขับด้วยกัน บางคนก็ได้ถึง 13 กม./ลิตร
ส่วนเรื่องการขับขี่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน ขับสนุกได้กับเส้นทางแบบนี้ ช่วงล่างนิ่งใช้ได้ และดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมาก เห็นได้จากช่วงที่ต้องขับผ่านถนนลูกรัง ขณะที่พวงมาลัยแม่นยำสูง ทำให้ควบคุมรถในทางโค้งได้ถูกต้อง ไม่ขาดไม่เกิน
อย่างไรก็ตามน้ำหนักพวงมาลัยอาจจะเบาไปสักหน่อยสำหรับใครที่ชอบอารมณ์สปอร์ต เช่นเดียวกับช่วงล่างที่นุ่มไปสักนิด สำหรับคอสปอร์ตเช่นกัน แต่ว่ามันก็เพียงพอที่เราจะขับโดยรู้สึกถึงอารมณ์สปอร์ตและสนุกในการขับขี่ และเชื่อว่าอารมณ์แบบนี้แหละที่ลูกค้าส่วนใหญ่ชื่นชอบ
อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้รถยนต์หลายยี่ห้อหลายรุ่น เซ็ตอารมณ์สปอร์ตมาเต็มๆ ผลคือถูกใจคนทดสอบ แต่ไม่ถูกใจลูกค้าส่วนใหญ่
ดังนั้นผมสรุปสั้นๆ ว่าแอคคอร์ด เป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมของอารมณ์สปอร์ตกับความนุ่มนวลสะดวกสบาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้แบบนี้ แต่แอคคอร์ด ทำได้ครับ
*****