มาสด้า 2 ดีเซล ... เด็กซนบนท้องถนน 

อีโค คาร์ เป็นตลาดที่แข่งขันกันสนุก เพราะมีรถที่หลากหลาย และแต่ละยี่ห้อ ก็มีความน่าสนใจมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่น่าสนใจ และที่สำคัญช่วงปลายปี 2562 ซึ่งครบกำหนดของการเข้าร่วมอีโค คาร์ เฟส 2 ทำให้มีการเคลื่อนไหวกันมาก ทั้งรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวทั้ง ฮอนด้า ซิตี้ นิสสัน อัลเมร่า หรือรุ่นเดิม แต่ปรับปรุงให้เข้ากับเงื่อนไขภาครัฐ เช่น โตโยต้า ยาริส และเอทีฟ ขณะที่กลุ่มที่อยู่ในเงื่อนไขเฟส 2 อยู่แล้ว ก็ขยับปรับปรุง เพิ่มความสดใหม่ให้กับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นมิตซูบิชิ ทั้ง 2 รุ่น คือ มิราจ กับแอททราจ ที่ปรับปรุงโฉมจนน่าคบหามากขึ้น หรือ มาสด้า 2 ก็ขยับตัวเช่นกัน

แต่น่าเสียดาย ว่า ไวรัส โควิด-19 มาลดสีสันของ อีโค คาร์ ไปพอสมควร

สำหรับมาสด้า 2 ไมเนอร์เชนจ์ เป็นการปรับเปลี่ยนทั้งรูปลักษณ์ และการเพิ่มเติมอุปกรณ์ต่างๆ แต่ในด้านเครื่องยนต์ ยังคงเดิม คือมีทั้ง เบนซิน 1.3 ลิตร และดีเซล 1.5 ลิตร 

มาสด้า 2 ไมเนอร์เชนจ์ ครั้งนี้ ถือว่าเปลี่ยนแปลงไม่น้อย มุมมองด้านหน้า ปรับเปลี่ยนทั้งไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวขั้น กระจังหน้าใหม่ กันชนหน้าก็เช่นกัน โดยรวมแล้วทำให้มีบุคลิกร่วมสมัยในตระกูลเดียวกันอย่างมาสด้า 3 มากขึ้น รวมไปถึงซีเอ็กซ์-30 อีกด้วย ส่วนด้านหลังเปลี่ยนกันชนท้ายใหม่ รวมถึงไฟท้ายด้วย ส่วนล้ออัลลอย 16 นิ้ว ใช้ลายใหม่ และยังเพิ่มเติมสีใหม่เป็นทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น คือ สีขาวใหม่ และสีเทาใหม่ที่เรียกว่าโพลีเมทัล เกรย์ ขณะที่ภายในปรับเปลี่ยนเบาะใหม่

ส่วนสิ่งที่เพิ่มเติมเข้าไป เช่น การเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ ระบบเครื่องเสียงที่รองรับแอ๊ปเปิ้ล คาร์เพลย์ และแอนดรอด์ ออโต้ติดตั้งเซนเซอร์กะระยะ 4 ตำแหน่งด้านหน้า เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ก็ติดตั้งเข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในครั้งนี้ 

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ จุดขายหลักตัวหนึ่งที่มาสด้า ประเทศไทย ก็เริ่มต้นใช้กับ มาสด้า 2 นี่แหละ ก็คือ ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง หรือ GVC (G-Vectoring Control) ซึ่งยกระดับขึ้นเป็น G-Vectoring Control PLUS ที่ทำงานได้ดีขึ้น และแม่นยำขึ้น ซึ่งมาสด้า นำมาใช้กับ มาสด้า 3 เป็นรุ่นแรก ก่อนจับมาใส่ใน มาสด้า 2

ซึ่งระบบนี้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า และมีส่วนช่วยอย่างมากในการขับขี่

มาสด้า 2 ดีเซล 1.5 เอ็กซ์ดีแอล ที่อยู่กับผมเป็นตัวท็อป ราคา 7.99 แสนบาท ครับ แต่ว่าดีเซล มีให้เลือกอีกตัว คือ เอ็กซ์ดี ราคา 7.82 แสนบาท 

ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน มี 5 รุ่นย่อย ราคาระหว่าง 5.46-6.9 แสนบาท

 วันนี้มาว่ากันที่ รุ่น เครื่องยนต์ดีเซล คือ สกายแอคทีฟ คลีน ดีเซล (SKYACTIV-D) 1.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด  250 นิวตัน-เมตร กันครับ 

จุดเด่นของเครื่องยนต์ตัวนี้คือสมรรถนะและความประหยัด ซึ่งตามสเปคนั้น สูงสุดคือ 26.3 กม./ลิตร แต่การลองขับของผม ทำได้ไม่ถึงแต่อยู่ที่เกือบๆ 19.3กม./ลิตร แต่ถามว่าพอใจไหม ต้องตอบว่าพอใจครับ จากการขับขี่ที่ต้องเรียกสมรรถนะของรถอยู่บ่อยครั้ง 

เพราะเส้นทางการขับขี่มีทั้งในกรุงเทพฯ ที่มีปัญหาจราจรหนาแน่น (ก่อนโควิดจะรุนแรงขึ้น) ซึ่งรู้กันดีกว่าเป็นการจราจรที่เผาน้ำมันเล่นดีแท้ ส่วนการออกต่างจังหวัด ก็เป็นการเดินทางที่เร่งรีบพอควร และรถก็ไม่ได้บางตา เพราะเป็นเส้นทางที่ผู้คนนิยมเดินทาง

ช่วงเช้าผมเดินทางจากย่านฝั่งธนบุรี ไปร่วมงานสนามปทุมธานี สปีดเวย์ จากนั้นหลังเพลเล็กน้อย ตีรถต่อไปยังสนามพีระ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต พัทยา เสร็จธุระบ่ายแก่ๆ ก็ต้องรีบตีรถเข้ามาอัดรายการทีวีย่านบางนาให้ทันในช่วงเย็น 

ที่เล่าให้ฟังเพราะต้องการให้เห็นถึงความเร่งรีบ ทำให้ต้องพึ่งพาสมรรถนะของมาสด้า 2 อยู่ไม่น้อย ดังนั้น การที่ได้ตัวเลข 19.3 กม./ลิตร จึงเป็นสิ่งที่ผมพอใจมาก 

นอกจากนั้นยังทำให้เห็นว่าสิ่งที่โดดเด่นของมันก็คือ อารมณ์การขับขี่ การควบคุมรถ แม้จะเป็นรถคันเล็กๆ กะทัดรัด แต่ผมว่ามันไม่ใช่แค่ซิตี้ คาร์ ขับกินลมชมวิวในเมือง มันพร้อมไปที่ไหนก็ได้ ที่มีทางให้ไป เพราะให้ความรู้สึกในการขับที่ดี ช่วงล่างดี ทรงตัวและเกาะถนนดี ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางโค้ง  การโยนตัวน้อย พวงมาลัยก็แม่นยำ ช่วยให้การควบคุมทำได้ง่ายๆ คุมพวงมาลัยหลวม เท้าแตะคันเร่งเบาๆ ก็เรียกกำลังของเครื่องยนต์มาได้อย่างรวดเร็ว และความกะทัดรัดของมันยังช่วยให้มีความคล่องตัวสูงในสภาพจราจรที่หนาแน่น หรือว่าจราจรที่ไม่เป็นระเบียบ มีรถกระจายอยู่ทุกเลนบนท้องถนน ทำให้ต้องเปลี่ยนช่องทางไปมาตลอดเวลาในภาวะที่เรากำลังเร่งรีบครับ 

 เครื่องยนต์ดี ช่วงล่างดี แล้วเบรกเป็นอย่างไร ก็ทำได้ดีครับแม้จะเบรกหนักๆ แต่การทรงตัวของรถยังน่าพอใจ ไม่หัวทิ่มท้ายกระดก หรือว่าลื่นไถลเลื้อยเป็นงูครับ 

โดยสรุป ถ้าใครไม่ติดว่ามันมีขนาดเล็ก พื้นที่เบาะนั่งด้านหลังก็อาจเสียเปรียบคู่แข่ง บวกกับราคาที่สูงสักหน่อยของรุ่นดีเซล แต่ก็จะได้เรื่องของความสนุก ความมั่นใจในการขับ และความประหยัด ก็ถือว่ามาสด้า 2 เป็นรถที่เลือกได้ครับ