เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค ลาฟาแยตต์ มีแค่ 3 คัน
อินช์เคป (ประเทศไทย) เปิดตัวเรนจ์ โรเวอร์ รุ่นพิเศษ Range Rover Evoque Lafayette Edition (อีโวค ลาฟาแยตต์ อิดิชั่น) ขุมพลัง ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เคาะราคา 4,199,000 บาท
โดยรถยนต์รุ่นดังกล่าว ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากย่านทันสมัยในนิวยอร์กซิตี้ ซึ่ง อินช์เคป จะนำเข้ามาทำตลาดเพียงแค่ 3 คัน และทำให้ปัจจุบันมีรถที่เป็นทางเลือกในไทย ประกอบด้วย
- Range Rover Evoque Plug-In Hybrid SE Plus ราคา 3,999,000 บาท
- Range Rover Evoque Plug-In Hybrid Lafayette Edition ราคา 4,199,000 บาท
- Range Rover Evoque Plug-In Hybrid R-Dynamic SE Plus ราคา 4,499,000 บาท
Lafayette Edition พัฒนามาจาก Range Rover Evoque S โดยปรับแต่งให้ความพิเศษเช่น การออกแบบภายนอก หลังคาคอนทราสต์ สี Nolita Grey ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียมบุลายสไตล์ Diamond Cut เพิ่มความรื่นรมย์ด้วย Tread Plates แบบเรืองแสง ระบบความบันเทิง Pivi Pro มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว หลังคา Fixed Panoramic Roof เพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่ง แต่ว่าเปิดไม่ได้
ขุมพลังเป็น ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ทำงานร่วมกันระหว่าง เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 200 และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา6.4 วินาที
แบตเตอรี ลิเธียมไอออน ขนาดความจุ 15 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง เพื่อไม่ให้รบกวนพื้นที่ใช้สอยภายในตัวรถ
เมื่อเลือกโหมดขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 55 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
ส่วนการชาร์จไฟ จาก 0-80% ใช้เวลา 30 นาที หากชาร์จด้วยหัวชาร์จ กระแสตรง หรือ DC 32 กิโลวัตต์ และหากชาร์จด้วยตู้ชาร์จติดผนัง ซึ่งใช้ไฟกระแสสลับ 7 กิโลวัตต์ จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที
สำหรับโหมดการขับขี่มีให้เลือก 3 โหมด คือ
- โหมดไฮบริด ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่ตามค่าเริ่มต้น
- โหมด EV
- โหมดประหยัด โหมดนี้เครื่องยนต์จะทำงานเป็นหลัก เพราะเป็นโหมดที่จะช่วยรักษาระดับความจุของแบตเตอรี ตามที่ผู้ขับขี่เลือกไว้ เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในพื้นที่ที่ตนเองต้องการ