เบนซ์ GLE 350 de 4Matic ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ดีเซล..แรงบิด เพิ่มสนุก ขึ้นเขา ฝ่าโค้ง

บนเนินเล็กๆ ในอำเภอ กะปง พังงา มีกลุ่มอาคารหลังย่อมๆ ตั้งเรียงรายกันอยู่เจ็ดแปดหลัง แต่ละหลังเรียบง่าย แต่ดูลงตัวอย่างมีภูมิสถาปัตย์ และเมื่อรู้ว่าที่นี่คือ "โรงเรียนเยาววิทย์” หลายคนที่มาเห็นอดไม่ได้ที่จะพูดว่า ที่นี่น่าเรียนมาก ทั้งการจัดวางอาคาร ความร่มรื่น และอากาศที่สดชื่น

แต่ที่มาของความสวยงาม คือความเศร้า ความสูญเสียครั้งใหญ่ นั่นคือ เหตุการณ์สึนามิที่กลืนกินชีวิตไปมากมายเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 และมีเด็กจำนวนมากที่กลายเป็นเด็กกำพร้า

โรงเรียนเยาววิทย์จึงเกิดขึ้น จากการก่อตั้งโดยมูลนิธิ "Children's World Academy" ในปี 2548 เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านั้นให้มีที่เรียน ที่พัก และอาหาร มีอาสาสมัครทั้งคนไทย และต่างชาติมาเป็นครูสอนเด็กตั้งแต่อนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 6 เน้นด้านภาษา วิชาชีพแขนงต่างๆ เช่น การโรงแรม อาหาร เกษตรกรรม

จึงไม่ต้องแปลกใจว่าเด็กๆ หลายคนที่นี่ พูดภาษาอังกฤษกันได้เก่ง 
จากนั้นโรงเรียนก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทรถยนต์ อย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย 

ถึงวันนี้เป็นเวลา 16 ปี ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีส่วนในการสนับสนุนโรงเรียนนี้มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย แม้ล่าสุด โรงเรียนจะถูกถึงเข้าสู่ระบบของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับงบประมาณจากภาครัฐเหมือนโรงเรียนรัฐทั่วไปแล้วก็ตาม 

2 ปีที่แล้ว ผมก็ลงไปร่วมกิจกรรมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งครั้งนั้นไปมอบเงินสนับสนุน และมอบสนามฟุตบอล เพื่อให้เด็กได้มีพื้นที่ออกกำลังกาย และเพิ่มทักษะทางด้านกีฬา

ล่าสุดคือ ปีนี้ ช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำทีมผู้บริหาร นำโดย โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธาน บริษัท พนักงาน และสื่อมวลชน ล่องใต้ไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนด้วยขบวนรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ หลากหลายรุ่น

ทั้งรถยนต์นั่ง เอสยูวี และรถตู้ ส่วนผมนั้่นควบ เอสยูวี ตัวเก่ง GLE 350 de 4MATIC รถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ดีเซล 

ปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มอบทุนการศึกษา รวม 5 แสนบาท และติดตั้งชุดไฟโซลเซลล์ รวม 43 ชุด ภายในบริเวณโรงเรียน เพื่อเพิ่มความสะดวก และปลอดภัยในยามค่ำคืน 

มีอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เชิญ “วีระเดช คอทนี” หรือโค้ชวิลลี่ โค้ชฟันดาบทีมชาติไทย ดีกรี 2 เหรียญทองแดง ซิดนีย์ เกมส์ ปี 2000 ในนามทีมชาติเยอรมนี ที่ซึ่งโค้ชวิลลี่ตามแม่กับพ่อเลี้ยงไปอยู่และเติบโตที่นั่น 

ส่วนเหตุผลที่ต้องไปอยู่เยอรมนี  เป็นเพราะเหตุการณ์เลวร้ายหลายอย่างที่โค้ชต้องเจอในวัยเด็ก ดังนั้นเมื่อความเห็นของทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และโค้ชตรงกัน คือ การถ่ายทอดเรื่องราวร้ายๆ การรับมือ และนำไปสู่การผลักดันตัวเองด้วยแนวคิด และแนวทางที่ถูกต้อง ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ 

เพื่อเป็นการสร้างพลังใจให้กับเด็กๆ ว่าสิ่งเลวร้าย จัดการได้ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ

และโค้ชไม่ได้มาคนเดียว แต่พาลูกชายที่เป็นนักกีฬาฟันดาบมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจอีกคน ซึ่งถือว่ากิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จทีเดียว เพราะได้รับความสนใจจากเด็กๆ อย่างมาก 

ก่อนจะจบทริป และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยขบวน รถตราดาว อย่างเพลิดเพลิน ปลอดภัย และจิตใจที่แจ่มชื่น

สำหรับพาหนะของผม GLE 350 de 4MATIC มีค่าตัว 4.699 ล้านบาท มีออปชั่นสำคัญๆ เช่น

ไฟหน้า แอลอีดี ไฮ เพอร์ฟอร์แมนซ์ ระบบเพิ่มการส่องสว่างในทางโค้ง ทำให้เห็นทัศนวิสัยที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางคืน ไฟเบรก และ ไฟท้าย แอลอีดี ไฟส่องพื้นสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ช่วยให้เห็นพื้นที่ที่จะก้าวลงจากรถในช่วงค่ำคืน กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ

ฝาเปิด-ปิดด้านท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Hands-Free Access เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน บันไดข้างสแตนเลส ขนาดใหญ่ ช่วยให้ก้าวขึ้นลงได้ง่าย แต่ไม่เทอะทะ 

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ทรงสปอร์ต หุ้มหนัง Nappa ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุโครเมียม มาตรวัด ฟูลดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โวน ม่านบังแดดสำหรับหน้าต่างคู่หลัง

มอนิเตอร์ตรงกลางแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว มีระบบมัลติมีเดีย MBUX ระบบเชื่อมต่อรถยนต์ Mercedes me connect ระบบสั่งงานด้วยเสียง เริ่มทำงานเมื่อพูดว่า "Hey Mercedes”

เชื่อมต่อได้ทั้ง แอ๊ปเปิ้ล คาร์เพลย์ และ แอนดรอยด์ ออโต้ ช่องเชื่อมต่อยูเอสบี แบบไทป์ C ทุกตำแหน่ง ไฟสร้างบรรยากาศ หรือ โดยสาร Ambient Light  64 สี

เบาะหนัง Nappa คู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับขี่มีระบบจำตำแหน่ง (Memory Seat) ขณะที่เบาะแถวหลัง สามารถพับเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ โดยพับแยก 60:40 

ระบบความปลอดภัยหลักๆ เช่น PRE-SAFE  Safety หรือระบบเตรียมการ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ

ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบเตือนแรงดันลมยาง ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ
ระบบช่วยเตือนจุดบอด ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง ระบบช่วยเบรก กล้องมองภาพขณะถอยจอด

ระบบรักษาสมดุลของรถจากลมลมปะทะด้านข้าง ระบบเสียงจำลองขณะขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า ถุงลมรอบคันทั้ง คู่หน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 4 ตำแหน่ง ม่านถุงลม 4 ตำแหน่ง และถุงลมป้องดันหัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง

GLE 350 de 4MATIC ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ อินเตอร์ คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 -2,800 รอบ/นาที

ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่น 3 นี้ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร 

แบตเตอรี ลิเธียม ไอออน ของ GLE 350 de 4MATIC มีขนาดความจุ 31.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งหากชาร์จไฟเต็มที่แล้วสามารถรองรับการใช้งานด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทางสูงสุด 100 กม. 

เรียกว่าถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ระหว่างบ้าน กับที่ทำงาน เชื่อว่าเครื่องยนต์แทบจะไม่ต้องทำงานเลยในแต่ละวัน 
ส่วนความเร็วสูงสุดของการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์อย่างเดียว 160 กม./ชม. 

ระบบเกียร์ 9 สปีด 9G-Tronic ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.8 วินาที 

ตลอดเส้นทางไปกับมากกว่า 1,600 กม. ผ่านเส้นทางที่หลากหลาย สภาพอากาศที่หลากหลายเช่นกัน ทำให้ผมรู้จักรถคันนี้มากขึ้น 
เริ่มจากการเป็นรถที่มีขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่เกินไป และไม่เล็กเกินไปสำหรับการเดินทางไกล นั่งสบาย ที่นั่งกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นเบาะหน้า หรือเบาะหลังก็ตาม

การทรงตัวของรถพูดได้เต็มคำว่า นิ่งมาก แม้จะใช้ความเร็วค่อนข้างสูงก็ตาม

ดังนั้นการอยู่บนรถครั้งละหลายชั่วโมง ก่อนจะแวะพักเข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสาย ต้องบอกว่าไม่รู้สึกเมื่อยล้า หรือเหนื่อยอ่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสารก็ตาม ทั้งที่ต้องตื่นกันแต่มืด ออกเดินทางแต่เช้าตรู่เพราะระยะทางที่ไกล 

ด้วยรูปทรงของรถ มุมมองต่างๆ ที่โปร่งโล่ง เห็นสิ่งรอบตัวได้ชัดเจนและไกล ก็ช่วยได้เยอะกับการเดินทางไกลทำให้ไม่เหนื่อยล้า ขณะที่ช่วงล่างที่เก็บแรงสั่นสะเทือนได้ดีทำให้ผิวทางที่ขรุขระหรือชำรุดในบางช่วงไม่ทำให้คนในรถเกร็งหรือเหนื่อยกับมัน 

และแม้ว่าช่วงล่างจะนุ่มๆ ไปบ้าง แต่การขับขี่ในเส้นทางโค้งทางเขา ที่อาจจะรู้สึกถึงการโยนตัวบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ยังคุมรถได้ไม่เหนื่อย และสนุก 

เส้นทางจากสุราษฎร์ธานีไปพังงา โดยตัดผ่านไปทางระนอง เป็นพยานได้ 

เพราะในขณะที่เพื่อนๆ หลายคนจะเลือกไปไปอีกทาง แต่ผมเลือกจะตัดเข้าเส้นนี้ที่อุดมไปด้วยโค้งมากมาย ที่ให้ทั้งความสวยงาม และความสนุก แม้ว่าจะมีหลายช่วงที่ต้องขับฝ่าสายฝนก็ตาม ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ช่วยให้การเดินทางราบรื่น ขณะที่ระบบไฮบริดช่วยเติมความสนุก

โดยเฉพาะเมื่อเติมน้ำหนักคันเร่งออกจากโค้ง หรือ ช่วงกำลังปีนไต่ขึ้นเนิน กำลังที่พร้อมจะตอบสนองทุกเวลานั่นเองครับ