EV คึก สินค้าใหม่ นโยบายรัฐ ดันยอดเติบโตก้าวกระโดด

มาตรการส่งเสริมที่จูงใจมากขึ้น และแนวโน้มที่จะมีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น จะทำให้ภาพรวมการแข่งขัน EV ก็จะรุนแรงขึ้นเช่นกัน  ขณะที่ผู้นำตลาดอย่าง เอ็มจี ก็จะต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาฐานการตลาดเอาไว้ให้ได้

ซึ่งข้อได้เปรียบของ เอ็มจี คือ มีประสบการณ์มากกว่า และมีสินค้าที่หลากหลาย โดยขณะม่ี 2 รุ่นทำตลาดคือ ZS EV และ EP แต่อย่างไรก็ตามเอ็มจีพูดชัดเจนว่า จะต้องเพิ่มความหลากหลายและความสดใหม่ให้มากกว่านี้

โดยปีนี้มีแผนเปิดตัวอย่างน้อย 3 รุ่น ซึ่งรุ่นแรกเปิดไปแล้วในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ก็คือ ZS EV Miorchange ที่ปรับปรุงหน้าตา และสมรรถนะใหม่

ส่วนรุ่นต่อไป จะเป็น EP Mionochange ขณะที่อีกรุ่นหนึ่ง ต้องรอดูว่าจะเป็นตัวไหน นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่า เอ็มจี ยังมี โรดสเตอร์ อีวี อีกรุ่นหนึ่งที่จ่อเข้าตลาดหลังจากนี้ นั่นคือ ไซเบอร์สเตอร์ (Cyberster) ที่ก่อนหน้านี้เปิดให้ผู้สนใจจองด้วยข้อเสนอพิเศษ และปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างมากทีเดียว

นอกจากด้านสินค้า อีกสิ่งหนึ่งท่ี่เอ็มจี ปูพรมมาก่อนหน้านี้ และยังเดินหน้าต่อไป ก็คือ การสร้างสถานีชาร์จแบบชาร์จเร็ว (DC) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะสนับสนุนให้มีการใช้งาน EV เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย 

ส่วนมุมมองต่อทิศทางของตลาด EV พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จะขยายตัวในอนาคต เนื่องจากมีผู้ที่รอจุดที่พร้อมมากที่สุดจำนวนมาก

เช่น หลังจากที่เอ็มจี ประกาศราคาใหม่ทั้ง 2 รุ่น ตามมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ลดลง 2.27-2.46 แสนบาท พบว่าได้รับการสอบถามและสั่งจองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยแค่สัปดาห์แรกหลังประกาศราคาใหมม่ พบว่ามียอดจองกว่า 3,000 คัน ซึ่งถือว่าสูงมากกว่า ถ้าเทียบกับภาพรวมตลาดอีวี ก่อนหน้านี้ เช่น ปี 2564 ที่ม่ียอดจดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก 1,935 คัน โดยเอ็มจี เป็นผู้นำตลาด

 

"ตามแผนงานของเอ็มจี เราจะเริ่มส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่น ได้ตั้งแต่เดือนพ.ค. เป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากมียอดจองเข้ามาเกินความคาดหมาย ทำให้ลูกค้าที่จองเข้ามาในตอนนี้อาจจะได้รับรถในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้"

สำหรับ เอ็มจี " ZS EV Miorchange" ปรับเปลี่ยนรายละเอียดในบางส่วน  และที่เห็นเด่นชัดคือกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ดูหรูหรามากขึ้น และยังมีมุมมองความเป็น อีวี มากขึ้น 

ในด้านสมรรถนะ ZS EV Miorchange เพิ่มความจุแบตเตอรีจาก 44.5 37 กิโลวัตต์ชั่วโมง  เป็น 50.3  กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งทำให้มีระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งเพิ่มขึ้นเป็น 403 กม. จากเดิม 377 กม. 

การเพิ่มขึ้นของระยะทางใช้งาน นอกจากเป็นผลจากการเพิ่มแบตเตอรีแล้ว ยังเป็นผลมาจากปรับให้แรงบิดสูงสุด ลดลงจาก 350 นิวตันเมตร เหลือ 280 นิวตันเมตร มีผลบ้างเล็กน้อยในส่วนของอัตราเร่ง

โดย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพิ่มจาก 8.2 วินาที เป็น 8.6 วินาที
แต่ว่าแรงม้านั้นเพิ่มขึ้นจากเดิม 150 แรงม้า เป็น 177 แรงม้า ความเร็วสูงสุดก็เพิ่มจาก 150 กม./ชม. เป็น 175 กม./ชม.