สัตวแพทย์ ย้ำเนื้อไก่ไทยมาตรฐานสูง ปลอดสาร ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
สัตวแพทย์ ม.เกษตร เผยอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ในประเทศไทยมีมาตรฐานสูงระดับสากล ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต
สัตวแพทย์ ม.เกษตร เผยอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ในประเทศไทยมีมาตรฐานสูงระดับสากล ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต ตระหนักในหลักสวัสดิภาพสัตว์ มีระบบการป้องกันโรคที่ดีในการเลี้ยง และตรวจสารพิษ สารตกค้าง ก่อนแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจำหน่ายไปยังผู้บริโภคภายใต้การกำกับดูแลของกรมปศุสัตว์ ทำให้ไก่เจริญเติบโตได้เต็มที่ ไม่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนเร่งโต และได้รับการยอมรับในระดับโลก
ผศ.น.สพ.ดร.เกรียงไกร วิฑูรย์เสถียร ภาควิชาเวชศาสตร์และทรัพยากรการผลิตสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีการผลิตและส่งออกเนื้อไก่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ อาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และล่าสุด ประเทศซาอุดิอาระเบีย อนุญาตนำเข้าไก่สดแช่เย็น-แช่แข็ง และแปรรูปจากประเทศไทยถึง 11 โรงงาน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย เพราะซาอุฯ เป็นตลาดที่บริโภคเนื้อไก่ขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก
อุตสาหกรรมการเลี้ยงและผลิตสัตว์ปีกในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานเนื้อไก่ตลอดห่วงโซ่การผลิตของไทย ตั้งแต่วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ไปถึงกระบวนการเลี้ยงไก่ในฟาร์มระบบปิด ภายใต้การปฏิบัติตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีทันสมัย โดยนำมาตรฐาน Good Agriculture Practices (GAP) หรือแนวทางด้านการปฏิบัติที่ดีทางด้านการเกษตรเกี่ยวข้องกับฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลมาเป็นแนวทางปฏิบัติ
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังนำมาตรฐานด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity System) และมาตรฐานการควบคุมและเฝ้าระวังโรค (Disease Surveillance System) มาเป็นส่วนสำคัญในการวางระบบการป้องกันโรค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันไข้หวัดนก ก็มีการนำ "ระบบคอมพาร์ทเมนต์" มาใช้ในการควบคุมและป้องกันโรค ซึ่งระบบคอมพาร์ทเมนต์นี้เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ไทยปลอดจากไข้หวัดนกมานานร่วม 2 ทศวรรษ ตอกย้ำถึงการจัดการการเลี้ยงไก่ของไทยว่ามีความปลอดภัย สามารถส่งออกสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้อย่างต่อเนื่อง
ด้วยความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตไก่ไทย ซึ่งมีการปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์ปีกที่ดี มีการเลี้ยงในโรงเรือนที่เหมาะสม ให้อาหารและน้ำสะอาดเพียงพอ ไม่ทำให้สัตว์รู้สึกเครียด เจ็บป่วย ส่งผลให้ไก่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ตามพันธุกรรม ดังนั้น อุตสาหกรรมไก่ของไทย จึงไม่มีความจำเป็นใดที่จะใช้สารเร่งการเจริญเติบโต ขณะเดียวกัน การใช้สารเร่งโตยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ประกาศเพิกถอนทะเบียนยาฮอร์โมนชื่อ Hexoestrol หรือ estrogen ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ซึ่งหากมีการลักลอบใช้ถือว่ามีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่สำคัญ ประเทศผู้นำเข้าไก่เนื้อของไทย ทั้งญี่ปุ่น และ สหภาพยุโรป ต่างเข้มงวดกฎเกณฑ์ด้านสุขอนามัยสูงมาก (Sanitary and Phytosanitary :SPS) ยังไม่เคยมีการตรวจพบฮอร์โมนเร่งโตตกค้างในไก่ไทยเลย
ในฐานะนักวิชาการขอยืนยันว่า ไก่เนื้อของไทยมีความปลอดภัยทางอาหาร และมีคุณภาพเดียวกันทั้งที่บริโภคในประเทศและส่งออก โดยสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไก่เนื้อจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ เพียงปรุงสุกก่อนรับประทานก็บริโภคได้อย่างสบายใจ