นโยบายเพื่ออเมริกาที่ดีกว่า… ของโจ ไบเดน
บทความนี้ จะขอนำท่านมารู้จักกับธีมหลักของไบเดน นั่นคือ Build Back Better หรือ นโยบายอเมริกาที่ดีกว่าของไบเดน
หลังจากที่มีความชัดเจนแล้วว่า โจ ไบเดน กำลังจะได้เป็นผู้นำสหรัฐคนใหม่ บทความนี้ จะขอนำท่านมารู้จักกับธีมหลักของไบเดน นั่นคือ Build Back Better หรือ นโยบายอเมริกาที่ดีกว่าของไบเดน ที่จะนำพาเศรษฐกิจและภาคธุรกิจของอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เนื้อหาประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก อันประกอบด้วย หนึ่ง นโยบาย Buy American สอง นโยบาย MAKE IT IN AMERICA และ สาม นโยบาย SUPPLY AMERICA ซึ่งเมื่อนำไปปฏิบัติจริงในอีก 4 ปีข้างหน้า ในยุคของไบเดน คาดว่าภายหลังจากที่สถานการณ์ของโควิดคลี่คลายลง อเมริกามีโอกาสที่จะกลับมาเป็นยักษ์ที่ตื่นและดีกว่าเดิมอีกครั้ง ดังนี้
ยุทธศาสตร์แรก ได้แก่ นโยบาย Buy American ประกอบด้วย
หนึ่ง การเพิ่มกฎว่าด้วยการเพิ่มปริมาณวัตถุดิบที่ผลิตในประเทศให้มากขึ้น สำหรับสินค้าสำคัญๆที่ใช้วัตถุดิบ จากประเทศต่างๆ
สอง ทำการปิดช่องโหว่ต่างๆที่ต่างชาติจะใช้ในการเลี่ยง ทำตามนโยบาย Buy American และในการโฆษณาหลอกว่าเป็น Buy American แม้ที่แท้จะผลิตในจีน
สาม เพิ่มนโยบาย Buy American ให้รวมถึงด้านวิจัยด้วย ทั้งในอุตสาหกรรมเหล็กและโครงการด้านขนส่งและแร่ธาตุ
สี่ ทำการปรับปรุงกฎเกณฑ์ด้านการค้าสำหรับ Buy American อันประกอบด้วย Ship American หรือ ร่างกฎหมายเพื่อช่วยด้านการขนส่งทางเรือให้กับบริษัทในสหรัฐ เพื่อความมั่นคงของประเทศด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ นโยบาย MAKE IT IN AMERICA ด้วยการทวงคืนความยิ่งใหญ่ของอเมริกาในภาคอุตสาหกรรม อันประกอบด้วย แผนของไบเดนที่จะสร้างงาน 2 ล้านตำแหน่ง และทำให้จีดีพีเพิ่ม 5 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2025 โดยไบเดนจะมีนโยบายในส่วนนี้ คือ INNOVATE IN AMERICA ที่จะสร้างงานในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้สหรัฐเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็น ด้าน advanced materials ด้านสุขภาพและยารักษาโรค ไบโอเทค พลังงานสะอาด รถยนต์ไฟฟ้า AI และโทรคมนาคม ดังนี้
- เพิ่มงบด้านวิจัย ให้กับหน่วยงานใหม่ๆอย่าง National Institutes of Health, National Science Foundation และ Department of Energy นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานใหม่ที่แกะกล่องของไบเดน ที่รวมถึง Advanced Research Projects Agency for Health (ARPA-H) และ Defense Advanced Research Projects Agency (DARPA) โดยทั้งหมดเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆที่กล่าวข้างต้น
- ลงทุนด้านงานวิจัยให้กับบริษัทขนาดเล็ก ผ่านการขยายผลของโครงการ Small Business Innovation Research (SBIR) ซึ่งถือได้ว่าเป็น Seed Fund ใหม่ของอเมริกาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ INNOVATE IN AMERICA ยังได้เสริมสร้างนวัตกรรมในยุคของไบเดน ด้วยการเสนอแผนการลงทุนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วงระยะเวลา 4 ปี เพื่อที่จะสร้างงานใหม่เพิ่มกว่า 3 ล้านตำแหน่งดังที่กล่าวไว้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมใหม่ๆให้กับสหรัฐ
ท้ายสุด แผนสร้างนวัตกรรมให้อเมริกาของไบเดน ยังรวมถึงการลงทุนด้านการศึกษา ด้านอาชีพให้กับเด็กมัธยม และ ให้ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.25 แสนดอลลาร์ สามารถได้รับการศึกษาระดับปริญญาตรีฟรี เพื่อเป็นการสร้างงานให้กับภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงการใช้งบ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการฝึกอบรมให้แรงงานสามารถมีทักษะใหม่ๆในการเข้าตลาดแรงงานอีกครั้ง
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ได้แก่ นโยบาย SUPPLY AMERICA ด้วยการดึงห่วงโซ่อุปทานหรือ Supply Chain ในระดับยุทธศาสตร์ กลับมาสู่ดินแดนอเมริกาอีกครั้ง โดยที่ไบเดนจะทำให้ Supply Chain ของอเมริกากลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิม ด้วยนโยบายที่ปิดช่องว่างในเซกเตอร์หลักๆ ดังนี้
- ทำการมอบหมายให้หน่วยงานหลักๆของรัฐบาลอเมริกามีส่วนเป็นผู้ผลิตสินค้าที่สำคัญต่อยุทธศาสตร์ของประเทศ
- เปลี่ยนระบบภาษีที่สนับสนุนให้บริษัทยาย้ายฐานการผลิตออกไปต่างประเทศ
- สร้างสินค้าคงคลังเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีสินค้าไว้ใช้อย่างเพียงพอในช่วงวิกฤต
- ร่วมมือกับพันธมิตรในการลดการพึ่งพาต่อคู่แข่ง อย่าง จีน ในขณะเดียวกัน ก็ปรับปรุงกฎเกณฑ์ด้านการค้าโลกให้ตนเองมีระบบ Supply Chain ที่ดีขึ้น
- เน้นนโยบาย Buy American ให้การผลิตกลับมาสู่ในประเทศในทุกขั้นตอน
นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนด้านการจัดหาวัสดุและสินค้าต่างๆ (Procurement Investment) ซึ่งประกอบด้วย
- การซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มูลค่าหลักหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้สหรัฐเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด
- การซื้อเหล็ก ปูน วัสดุการก่อสร้าง และคอนกรีต เพื่อช่วยบริษัทในอเมริกา
- การซื้ออุปกรณ์การแพทย์และยารักษาโรคในสหรัฐ เพื่อให้มั่นใจว่าจะยังมีไว้ใช้ในช่วงวิกฤต
- การซื้อปัจจัยที่ใช้ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต อย่างโทรคมนาคม และ AI เพื่อสร้างงานและรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและความมั่นคง
โดยสรุป Build Back Better คือการลับคมเครื่องมือต่างๆที่เคยเป็นจุดแข็งของอเมริกา และปลุกภาคอุตสาหกรรมของอเมริกาให้กลับมาตื่น เพื่อให้วิ่งฉิวแบบดีกว่าเดิมอีกครั้ง โดยพร้อมจะนำการจ้างงานที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจในมิติต่างๆกลับมาสู่อเมริกาอีกครั้ง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต