น้ำมันมวย – จากตำนานสู่แบรนด์ระดับโลก

น้ำมันมวย – จากตำนานสู่แบรนด์ระดับโลก

กว่า 80 ปี ที่ผ่านมา เทวกรรมโอสถ ได้เดินทางจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การเป็น แบรนด์ระดับตำนาน บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2480 โดย หลวงสิทธิ์โยธารักษ์ ซึ่งได้คิดค้น “น้ำมันมวย”

จุดเริ่มต้นของตำนาน

“น้ำมันมวย” ภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดมาจากวงการมวยไทย เดิมที นักมวยใช้ยานวดสูตรเฉพาะนี้เพื่อช่วยป้องกัน และ บรรเทาอาการปวด ฟื้นฟูร่างกาย และเพิ่มความพร้อมก่อนขึ้นสังเวียน

กลิ่นหอมเฉพาะตัวและประสิทธิภาพที่เห็นผล ทำให้น้ำมันมวยไม่ได้เป็นแค่ของใช้ของนักมวยอีกต่อไป แต่กลายเป็น ไอเท็มสามัญประจำบ้าน ของคนไทย และเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก

 ปัจจุบัน น้ำมันมวยกลายเป็นแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น บรรเทาอาการปวดเมื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย และเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่นักกีฬา คนทั่วไป ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม น้ำมันมวยถึง ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยที่แพร่กระจายไปทั่วโลก อีกทั้งทางบริษัทเทวกรรมโอสถ ยังขยาย product portfolio ไปที่กลุ่ม Neobun Neoplast Neotape Kool Patch

ซึ่งทางบริษัทซื้อโรงงานมาจาก บ.3M และนำมารีแบรนด์ใหม่ กลุ่มของ Neobun เป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ด้วยความโดดเด่นของคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้

คุณอธิชาภรณ์ จันทร์ประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทวกรรมโอสถ จำกัด ได้แชร์ปัจจัยหลักที่ทำให้แบรนด์แข็งแกร่ง

1. คุณภาพสินค้าที่เป็นที่ยอมรับ (Product Efficacy)
น้ำมันมวย และ นีโอบันเป็นผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านการทดสอบว่าไม่มีผลข้างเคียง ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย

นอกจากนี้ กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ยังช่วยสร้างการจดจำและกลายเป็นจุดขายสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้กลายเป็น Wishlist ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก


2. ราคาที่เข้าถึงได้ (Affordable Price)
แม้ว่าจะเป็นสินค้าคุณภาพสูง แต่ทั้งน้ำมันมวย และ นีโอบัน ยังคงราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงยาที่มีคุณภาพได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา คนทำงาน หรือผู้สูงอายุ ทุกกลุ่มสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องราคา

3. ครบทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ (Comprehensive Product Line)
เทวกรรมโอสถให้ความสำคัญกับ การคิดค้นและพัฒนา ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

ในด้านนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ - NPD รวมถึงการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม ให้ตอบโจทย์ตลาดได้ดียิ่งขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

บริษัทได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ครบทุกฟอร์ม ทั้ง น้ำมัน ครีม สเปรย์ และแผ่นแปะ โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
• น้ำมันมวย: สำหรับนักกีฬาและคนที่ออกกำลังกาย

• นีโอบัน: สำหรับผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการปวด เช่น ออฟฟิศซินโดรม ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน

4. กลยุทธ์การตลาดและการขายที่แข็งแกร่ง (Strong Sales & Marketing)
น้ำมันมวย และ นีโอบัน ไม่เพียงแค่ขายตัวเองด้วยคุณภาพ แต่ยังมีกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ทำให้แบรนด์ไม่หยุดนิ่งและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้เสมอ นอกจากนี้ การขยายตลาดไปยังต่างประเทศช่วยให้แบรนด์เติบโตและเป็นที่รู้จักในระดับโลก

5. ความสัมพันธ์กับลูกค้า
บริษัทให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของลูกค้าและนำ Feedback มาปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา แผ่นแปะขนาดเล็กสำหรับข้อศอก หรือ แผ่นแปะขนาดใหญ่สำหรับหลัง

หรือ การปวดจากออฟฟิศซินโดรม สามารถเลือกใช้แผ่นแปะ Neobun ได้ครบทุกจุด ทั้ง คอ บ่า ไหล่ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายขึ้น


สำหรับ ESG: รากฐานขององค์กรที่ฝังลึกใน DNA
เทวกรรมโอสถไม่ได้มองเพียงแค่การทำกำไร แต่ยังคำนึงถึง การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) ที่ฝังอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง

โดยสิ่งที่ผู้บริหารให้ความสำคัญที่สุดคือบุคลากร ที่เน้นพัฒนาและให้ความรู้ ซึ่งพนักงานทุกระดับต้องเข้าใจและปฏิบัติตามหลัก ESG อย่างเต็มที่

สิ่งที่บริษัทได้ริเริ่มทำสำหรับการส่งเสริม ESG :
• ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental): การนำบรรจุภัณฑ์ที่ผิดรูปไปผลิตขึ้นรูปใหม่เป็นเก้าอี้ผู้ป่วยและบริจาคให้โรงพยาบาล (Recycle) รวมถึงโครงการประหยัดพลังงานในบริษัท

• ด้านสังคม (Social): สร้างกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของพนักงานและส่งเสริมอาชีพ เช่น มีหมอนวดมาให้บริการในบริษัทโดยใช้น้ำมันมวย เพื่อส่งเสริมสุขภาพและ Well-being ของพนักงาน

• ด้านธรรมาภิบาล (Governance): บริษัทมี GMP, GMDP, ISO 9001, ISO 14001 และกำลังขอรับรอง ISO 45001 เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล

ทั้งนี้ บริษัทเทวกรรมโอสถยังได้รับรางวัล FDA Quality Award 2024 และ 2025 ซึ่งรางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้การันตีถึงความใส่ใจในการมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพสูงสู่ผู้บริโภค

น้ำมันมวย – จากตำนานสู่แบรนด์ระดับโลก

จากผลิตภัณฑ์ไทยสู่ระดับโลก
น้ำมันมวย และ นีโอบัน เป็นตัวอย่างที่ดีของแบรนด์ไทยที่สามารถ เติบโตจากธุรกิจครอบครัว สู่การเป็น แบรนด์ระดับโลกได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์

การตลาดที่แข็งแกร่ง และการให้ความสำคัญกับ ESG ในทุกมิติของธุรกิจ ทำให้แบรนด์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ แต่เป็น ตัวแทนของประเทศไทยที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก

ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้บริหารที่ไม่หยุดพัฒนาและมองหาโอกาสอยู่เสมอ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ “การยึดมั่นในคุณภาพ ใส่ใจลูกค้า และดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม” เพราะความสำเร็จที่แท้จริงคือการเติบโตอย่างยั่งยืนและการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับสังคม.