"โค้งอันตราย ภูมิรัฐศาสตร์เดือนพ.ย."
ส่งความรักและความปรารถนาดีถึงท่านผู้อ่านทุกท่าน จากรัฐวอชิงตันสหรัฐอเมริกาครับ ผมมีโอกาสช่วงนี้มาดูแลเรื่องการฟื้นฟูแม่น้ำลำธาร เพื่อช่วยปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ปลาแซลมอน ว่ายทวนน้ำขึ้นมาออกไข่ที่แหล่งกำเนิด
ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติก็คือ การที่ปลาอายุประมาณสามถึงห้าปี สามารถจำลำธารเล็กๆหรือแม่น้ำที่ตนเองเกิดใด้ หลังจากที่ออกไปใช้ชีวิตในมหาสมุทรซึ่งกว้างมหาศาล เช่นในกรณีของกลุ่มปลาแซลมอนนี้ ว่ายน้ำไปถึงรัสเซียและญี่ปุ่น ก่อนที่จะหวนกลับมาถิ่นเดิม
แหล่งน้ำลำธารในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ ปัจจุบันได้รับความสนใจจากผู้ที่มีใจอนุรักษ์ ให้ความรู้ และขอความร่วมมือจากเจ้าของที่ดินหรือผู้อยู่อาศัยริมน้ำ ให้ความสะดวกเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำและสัตว์ป่า รวมทั้งอาสาสมัครเยาวชนต่างๆ ตรวจดูแลไม่ให้มีสิ่งกีดขวางการว่ายน้ำของปลาแซลมอน ซึ่งเกิดขึ้นจากกิ่งไม้ล้มขวางโดยธรรมชาติ หรือบีเวอร์ที่ทำเขื่อนกั้นน้ำ หรือแม้กระทั่งกิจกรรมของมนุษย์เชิงเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
ลำธารที่ผมช่วยรับผิดชอบดูแลอยู่มาเป็นเวลากว่า30ปี ที่ Port Townsend ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ปีนี้นับจำนวนปลาแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัว และคาดว่าในฤดูนี้จะมีปลาแซลมอนทวนน้ำมาถึงจุดกำเนิดไม่ต่ำกว่า 7,000 ตัว (ก่อนฟื้นฟูลำธาร จำนวนปลาลดลงเหลือเพียงแค่ 50 ตัวต่อปี)
เมื่อมีเวลาออกจากป่ามาดูข่าวสารบ้านเมือง เห็นประเด็นใหญ่น่าเป็นห่วงถึงขั้นโค้งอันตราย เช่นอเมริกาจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมวันที่ 8 พ.ย.นี้ และกระแสคือฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันพรรคเดโมแครตอาจสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ หมายความว่าทำเนียบขาวและวุฒิสภา ซึ่งเป็นของพรรคเดโมแครตก็จะต้องเจอเรื่องปวดหัวกับฝ่ายตรงข้าม นโยบายสำคัญของสหรัจะชะงักหรือโดนเตะถ่วง สหรัฐมีภาระใหญ่เป็นผู้นำของกลุ่มพันธมิตรโดยเฉพาะสมาชิกนาโต้ กรณีสงครามในยูเครนซึ่งระยะนี้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น และระบบการเงินการธนาคารระหว่างประเทศ ซึ่งกำลังระส่ำระสาย
จีนจะมีการประชุมใหญ่สภาคองเกรส เลือกเป็นทางการให้ประธานาธิบดีคนปัจจุบันต่อไปอีกหนึ่งสมัย เป็นครั้งที่3 เศรษฐกิจจีนปัจจุบันแม้น่าเป็นห่วง แต่หากผู้นำคนปัจจุบันรับหน้าที่ต่อไปอีก ความมั่นใจของประชาชนและนักลงทุนทั่วโลกก็คงจะพอประคับประคองไปได้ คาดว่าอีกไม่นานทางการจีนจะผ่อนปรนความเข้มงวดของนโยบายโควิด ซึ่งหากเป็นจริงก็จะทำให้จีนมีความคล่องตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น เงินตราต่างประเทศและการลงทุนยังมีกระแสไหลออกจากจีนอย่างต่อเนื่อง ความกดดันจากอเมริกาและตะวันตกเรื่องเทคโนโลยีชิปคอมพิวเตอร์เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ความตึงเครียดขึ้นไต้หวันยังต่อเนื่อง
รัสเซียค่อนข้างคับขัน ทางเลือกกรณียูเครนเหลือน้อยลง ผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกสรุปว่าผู้นำรัสเซียกำลังสูญเสียโมเมนตัมในประเทศ ชาวรัสเซียกล้าต่อต้านการเกณท์ทหารไปรบในยูเครน ผู้นำคงสั่งเพิ่มการใช้ความรุนแรง ถล่มยูเครนมากขึ้น และจะไม่จำกัดเฉพาะเพียงแค่เป้าหมายทางทหาร ผลคือประชาชนทั่วไปจะเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ความเสี่ยงเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ยังเป็นเรื่องที่วางใจไม่ได้ รัสเซียเดินหมากเศรษฐกิจโดยการหาพันธมิตรเรื่องพลังงาน
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป กลุ่มโอเปคและเครือข่ายอีก 10 ประเทศแถลงว่าจะลดการผลิตน้ำมันดิบลงวันละ 2,000,000 บาร์เรล จากปัจจุบันซึ่งผลิตประมาณ 10,000,000 บาร์เรลต่อวัน เรื่องนี้ผู้นำสหรัฐฯฉุนเฉียวมาก ท่าทางจะมีการตอบโต้อย่างรุนแรงต่อซาอุดิอาระเบีย ซึ่งสหรัฐคิดว่าเป็นผู้นำชักชวนให้กลุ่มกดดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น และจะเป็นการช่วยรัสเซียโดยปรนัย กลุ่มตะวันตกเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการรวมหัวเพื่อสร้างความเดือดร้อนในฤดูหนาวที่จะมาถึง และหากราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น จะเกิดความแตกร้าวระหว่างกลุ่มพันธมิตรโดยเฉพาะในยุโรป
มาตรการลงโทษของสหรัฐฯและพันธมิตรในยุโรปกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐฯต้องล็อบบี้ประเทศสำคัญที่จะเป็นตัวแปรต่างๆ โดยเฉพาะอินเดียและแอฟริกาใต้ รวมทั้งการผลักดันนโยบายล็อบบี้สมาชิกสหประชาชาติ หาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกให้ได้ไม่ต่ำกว่า 100 ประเทศ จากสมาชิกกลุ่มทั้งสิ้น 193 ประเทศ ซึ่งเป็นจำนวนที่ลงมติร่วมประณามรัสเซียกรณีบุกยึดครอบครองไครเมียปีค.ศ. 2014 จับตามองการรุกของอเมริกาเรื่องพลังงาน โดยการใช้เสียงข้างมากในสหประชาชาติเป็นเครื่องมือ
ตลาดหุ้นของสหรัฐฯอยู่ในขาลง Jamie Dimon ผู้นำเจพีมอร์แกน ออกแถลงย้ำเตือนอย่างจริงจังว่า เศรษฐกิจของสหรัฐแม้จะยังมีพื้นฐานที่ดีอยู่ แต่ภายในหกถึง 9 เดือนนี้ โอกาสเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจะเป็นไปได้มาก เขาตำหนิผู้นำธนาคารกลางของสหรัฐ(FED) ที่ดำเนินการควบคุมเงินเฟ้อช้าเกินไป หุ้นของกลุ่มเจพีมอร์แกนปีนี้ลดลงไปแล้ว 33% และ Jamie Dimon บอกว่าหากดัชนีหุ้นสหรัฐตกไปอีก 20% ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ
การประชุมเอเปกที่เมืองไทยเดือนพ.ย.นี้ ต่อเนื่องจากการประชุมกลุ่มจี 20 ที่ที่บาหลี อาจจะเป็นการพลิกโผอะไรหลายอย่าง ผู้นำรัสเซียและผู้นำซาอุดิอาระเบียตอบตกลงเป็นทางการว่าจะมากรุงเทพฯ แต่ทางสหรัฐฯจะส่งรองประธานาธิบดีมาแทน และประธานาธิบดีจีนยังอยู่ในระหว่างการรอยืนยัน ฉะนั้นบรรยากาศในบาหลีและกรุงเทพเดือนพ.ย.นี้ เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของโลกได้ หรือถ้าโลกเราโชคดี เดือนพ.ย.ที่จะมาถึงนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนไปในทางบวกก็ได้
มนุษย์มีความเฉลียวฉลาดเกินสัตว์ทุกอย่างในโลก เราเป็นสัตว์ประเสริฐซึ่งได้เปรียบ มีโอกาสตักตวงใช้ทรัพยากรตามความอำเภอใจ ระเบียบโลกปัจจุบันซึ่งกำลังถูกท้าทายปรับเปลี่ยนขั้ว จากความได้เปรียบมหาศาลของกลุ่มพันธมิตรตะวันตก มาสู่ข้อต่อรองของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาซึ่งเริ่มจะเข้มแข็งมากขึ้น
คำถามคือเราจะมีความสามารถอยู่ร่วมกันโดยสันติได้หรือไม่ เพิ่มความยุติธรรมและความคล่องตัวของระบบ ให้ประเทศที่เสียเปรียบมาตลอดมีโอกาสแข่งขันตามกติกา หรือมีการจัดระเบียบโลกใหม่ที่ทุกประเทศยอมรับได้ แทนที่จะเป็นสองขั้ว นำไปสู่การปะทะกัน เป็นสงครามทำลายล้าง อย่างที่เรากำลังวิตกกัน
ผมมั่นใจว่าท่านผู้อ่านทุกท่านมีกิจกรรมหลายอย่างนอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจสังคม โดยเฉพาะการตื่นตัวบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อม เรื่องน้ำท่วมที่สร้างความลำบากให้กับพี่น้องประชาชนหลายแห่งในประเทศไทยระยะนี้ เป็นสิ่งตื่นใจอีกครั้งว่านอกเหนือจากการเยียวยาแก้ไขกันเฉพาะหน้า เราต้องไม่ลืมการวางแผนระยะยาว และร่วมมือกันปฏิบัติลงทุนตั้งแต่เดี๋ยวนี้
เราอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ก็สามารถมีส่วนร่วมทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ดูแลระบบนิเวศครบถ้วนทั้งพืชและสัตว์ ทำเท่าที่เราสามารถทำได้ แต่ต้องทำเดี๋ยวนี้ อย่ารอแก้ไขเมื่อภัยเฉพาะหน้ามาถึง น้ำท่วม ไฟป่า มลภาวะทางอากาศ ฯลฯ เป็นสิ่งที่เรารู้ปัญหาและวิธีแก้ไข ขึ้นอยู่กับเราทุกคนว่าจะลงมือทำหรือไม่ และประสานงานกันได้ดีแค่ไหน
เมื่อเราระดับรากหญ้า ร่วมมือกันแก้ปัญหาระยะสั้นและยาวได้ บรรยากาศแห่งความร่วมมือซึ่งเราสร้างขึ้น อาจส่งกระแสให้ผู้นำทางการเมืองของประเทศทั้งหลาย หันมาใช้เป็นแนวในการปฏิบัติ หาทางอยู่พร้อมกันโดยสันติ ทุกอย่างไม่ควรเกินความสามารถของเรา แม้ปลาแซลมอนยังฉลาดพอที่จะหาทางกลับมาสู่ลำธารแหล่งกำเนิด มนุษย์เราก็คงจะมีปัญญาพอที่จะเลิกแข่งขันทำลายซึ่งกันและกัน และใช้ความร่วมมือพากันผ่านโค้งอันตรายช่วงนี้ครับ