ตรุษจีน 2023 : เสือผ่านไป กระต่ายมาแทน
วันที่ 18 ม.ค. 2566 ประธานาธิบดี Xi Jinping ออกแถลงข่าวผ่านวิดีโอ สนทนากับประชาชนหลายเมือง ให้คำขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล
เตือนให้ช่วยกันดูแลสุขภาพ ป้องกันการระบาดของโควิด โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปเยี่ยมภูมิลำเนาในชนบทช่วงเทศกาล ผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และให้ทุกคนรณรงค์ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงภายในประเทศ
ในวันเดียวกันนั้นรองนายกรัฐมนตรี Liu He ของจีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ Janet Yellen ได้นำทีมผู้บริหารชั้นสูง ประชุมร่วมกันที่สวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองฝ่ายแสดงท่าทีชัดเจนว่า ประสงค์ที่จะหาทางลดความตึงเครียด ลดเงื่อนไข ปรับปรุงการสื่อสารระหว่างกัน เพื่อนำมาสู่การกอบกู้เศรษฐกิจในปีนี้ ฝ่ายจีนได้เชิญสหรัฐฯร่วมประชุมเป็นทางการในจีนก่อนสิ้นปีนี้ทั้งสองประเทศสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเริ่มลงมือในภาคปฏิบัติ แลกเปลี่ยนข้อมูล และประสานงานกัน
ทัศนคติและบรรยากาศความเป็นมิตรระหว่างสหรัฐและจีนดีขึ้น ต่อเนื่องมาตั้งแต่การประชุมG7ที่บาหลี ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ฝ่ายจีนลดเสียงกร้าวทางการทูต โยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเคยเป็นกระบอกเสียงแบบเผชิญหน้า หันมาใช้บุคลากรที่มีวาทะนุ่มนวลมากขึ้น และฝ่ายสหรัฐฯได้ตอบรับคำเชิญให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไปเยือนจีนเป็นทางการเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ ภายในเดือนก.พ.นี้
ธนาคารโลกแสดงความเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจในปี 2566 ตามที่เคยประเมินว่าเศรษฐกิจจะโตขึ้นประมาณ 3% แต่ไม่กี่วันมานี้ประกาศว่าสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศและเงื่อนไขสำคัญของเศรษฐกิจโลกหลายอย่างทำให้ต้องลดความคาดหวังลง ปรับตัวเลขใหม่ของเศรษฐกิจปี 2566 ว่าจะโตขึ้นเพียง 1.7%
สงครามในยูเครนเป็นเรื่องใหญ่ที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว แม้ความเสี่ยงยังไม่ลดลง และการต่อสู้ยังรุนแรง การหนุนหลังจากทางตะวันตกช่วยเหลือยูเครนทางการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มขึ้น ทางรัสเซียมีการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการทหาร สั่งเกณฑ์ทหารเพิ่มขึ้นอีก 500,000 คน
แสดงว่าสงครามน่าจะยืดเยื้อไปอีก แต่สิ่งที่ดีกว่าที่คาดไว้คือ ฤดูหนาวในยุโรปปีนี้ไม่รุนแรงมากนัก จึงยังไม่เกิดวิกฤติซึ่งเคยกลัวกันว่า หากหนาวมากและพลังงานขาดแคลนหรือราคาสูงเกินไป จะทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง เป็นปัญหาแตกร้าวภายในประเทศและในกลุ่มประชาคมยุโรป
จีนซึ่งเคยประกาศความเป็นมิตรกับรัสเซีย ‘แบบไม่มีขีดจำกัด’ เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ปัจจุบันหันมาย้ำความเป็นกลางและระมัดระวังคำพูด ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ช่วงท้ายปีที่แล้วเป็นต้นมาจีนแสดงท่าทีเปิดเผยมากขึ้น อยากฟื้นฟูความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประชาคมยุโรป จีนไม่ต้องการโดนกีดกันหรือลงโทษ หากถูกมองว่าใกล้ชิดกับรัสเซียมากไป ซึ่งทางประชาคมยุโรปมองว่ารัสเซียเป็นผู้รุกราน และเป็นอันตรายต่อความมั่นคง
สัญญาณที่ดีมากจากจีนอีกเรื่องหนึ่งคือ การเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น ตัวอย่างเช่นวันที่ 14 ม.ค. ทางการของจีนประสานงานกับองค์การอนามัยโลกและสรุปข่าวให้สื่อมวลชนต่างประเทศว่า หลังจากที่เปลี่ยนนโยบายโควิดตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2565 เป็นต้นมา มีผู้ติดเชื้อโควิดแล้วกว่า 900 ล้านคน หรือประมาณ 64% ของประชากรทั้งประเทศ และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 60,000 คน หรือ 2,000 คนต่อวัน เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะตลอดมานั้น ทางการจีนรายงานว่าผู้เสียชีวิตจากโควิดในเดือนธันวาคมนั้นมีเพียงแค่ 37 คน
สิ่งที่น่าสนใจในปีนี้ระหว่างจีนกับไทย คือผลกระทบจากการเปิดประเทศของจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญมากของไทยและภูมิภาค การส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างไทยกับจีน ควรจะมียอดเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ประเภทของสินค้าที่จีนจะนำเข้าจากไทยและกำลังการซื้อนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายในจีนว่าโควิดจะควบคุมได้หรือระบาดเพิ่มเติมมากเพียงใด
หากเราพิจารณาระยะใกล้ ประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าความเสี่ยงเรื่องโควิดจากการเดินทางของประชาชนระหว่างไทยและจีนนั้น ยังไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณการเดินทางยังน้อย แต่ต้องประเมินผลกระทบของการเดินทางช่วงตรุษจีน และนโยบายต้องปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งเรายังไม่ควรประมาท
สิ่งที่ควรพิจารณาระยะยาวนั้นคือ การโยกย้ายถิ่นฐานของชาวจีนออกไปอยู่ต่างประเทศ เพราะสามปีที่ผ่านมาความเข้มงวดของนโยบายโควิดภายในจีน ทำให้หลายคนคิดย้ายภูมิลำเนา ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายระดับต้นๆ นักธุรกิจ ผู้ลงทุน ช่างฝีมือและผู้จบการศึกษาใหม่ๆ
อาจเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อดูลู่ทางในการมาอยู่ระยะยาวหรือถาวร บุคคลเหล่านี้น่าจะเป็นการแก้ปัญหาสำคัญของไทยเรื่องการขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งปัจจุบันแล้วไทยต้องใช้แรงงานจากต่างชาติเข้ามาเสริมถึง 2.5 ล้านคน และอายุเฉลี่ยของคนวัยทำงานของไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
ฮ่องกงมีโครงการเชิญชวนและดึงดูดบุคคลคุณภาพ โดยใช้งบประมาณ 3,800 ล้านดอลลาร์ คนวัยทำงานของฮ่องกงขาดหายไป 140,000 คนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ข่าวเด่น เรื่องทุนจีนสีเทา และอาชญากรรมข้ามประเทศต่างๆรวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องธุรกิจของชาวจีนเช่นร้านอาหารเปิดกิจการทางลัด หลบเลี่ยงกฎหมาย ได้เปรียบเรื่องเงินทุน ไม่มีผลประโยชน์ชัดเจนต่อท้องถิ่น และรุกรานเอาเปรียบสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการเดิมอยู่แล้วในเมืองไทย และความบกพร่องในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ การรับสินบนต่างๆนั้น อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกต่อต้านชาวจีนโดยเหมารวมในทางลบ
เตรียมพร้อมทางบวก รับทุนจีนที่มาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย กระแสชัดเจนแล้ว ปี2565 ที่ผ่านมาบริษัทชั้นนำของจีนร่วมกันนำทุนเข้ามาในไทยถึง 2.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเทียบกับทุกประเทศ
ปีเสือผ่านไปแล้ว ความดุและก้าวร้าวต่างๆขอให้ผ่านไป ปีกระต่ายเป็นโอกาสให้เรารับโชค สร้างสันติภาพและไมตรี ช่วยกันดูแลผู้มาเยือนจากจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนดี ขยันขันแข็ง และประกอบอาชีพโดยสุจริต
เทศกาลตรุษจีนนี้ ขอให้ทุกท่านและครอบครัวจงประสบความสุข กระต่ายเป็นความหมายที่ดีมาก ในวัฒนธรรมของจีนถือว่า กระต่ายเป็นสัตว์ที่นำโชคมากที่สุด มีเมตตา สง่างาม ใจดี อดทน รับผิดชอบ และสวยงาม ใครที่เกิดในปีนี้จะชอบความสงบ หลีกเลี่ยงการต่อสู้ และการทะเลาะเบาะแว้งครับ