เอไอยังไม่สามารถตอบโจทย์นักลงทุน
วันนี้ใครๆ ก็ต้องพูดถึงเอไอ และหลายคนก็คงได้เอาเอไอไปใช้งานในลักษณะต่างๆ เช่น การค้นหาข้อมูลหรือการใช้ปรับแต่งคำบรรยาย ช่วยเขียนรายงาน หรือการทำให้ CV กระชับยิ่งขึ้น เป็นต้น ซึ่งคงจะใช้เอไอกันจาก 3 ค่ายหลักๆ คือ Chat GPT, Gemini หรือ Claude
ผมทดลองนำเอา Claude มาใช้ในการวิเคราะห์การลงทุน แต่พบว่า แม้ Claude จะมีข้อมูลมากมาย และสามารถใช้เหตุผลมาประกอบคำอธิบาย และคำแนะนำการลงทุนได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีพอ ดังที่ผมจะขอนำเอา สรุปบทสนทนาของผมกับ Claude เกี่ยวกับการคาดการณ์แนวโน้มว่า ดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงใน 3 ปีข้างหน้า
ผู้ที่เป็นนักลงทุนจะรู้ดีว่า หากดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น คนที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะขาดทุน (เพราะราคาพันธบัตรจะลดลง) ในขณะที่ราคาหุ้นอาจจะขึ้นหรือลงก็ได้ เพราะดอกเบี้ยระยะยาวที่สูงขึ้นอาจสะท้อนเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี กล่าวคือ ดอกเบี้ยต้องปรับตัวสูงขึ้นตามการขยายตัวของจีดีพีที่สูงขึ้น
แต่ในอีกกรณีหนึ่ง ดอกเบี้ยระยะยาวที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลง เนื่องจากดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และการขาดทุนงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาล ทำให้ต้องกู้ยืมเงินมากขึ้นและต่อไปอาจต้องเก็บภาษีเพิ่มขึ้น โดยที่จีดีพีไม่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ถาม : Claude ในอีก 3 ปีข้างหน้า ผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี จะปรับขึ้นหรือลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 4.6%
ตอบ: โอกาสที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้น = 45% (โดย Claude อ้างเหตุผล 3-4 ประการที่น่าฟังทั้งสิ้น) และในกรณีนี้ระบุว่า ดอกเบี้ยจะไปอยู่ที่ 5.0-5.25% แต่โอกาสที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวลง = 55% (โดยให้เหตุผลที่น่าฟัง 4 เหตุผล) และฟันธงว่าดอกเบี้ยจะไปอยู่ที่ 3.75- 4.0% ใน 3 ปีข้างหน้า (2570) และวิเคราะห์ต่อไปว่า มีความเป็นไปได้สูง (most likely) ที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นไปที่ 4.8-5.0% ในต้นปี 2568 และเริ่มลดลงตอนปลายปี 2568 และลดลงต่อเนื่องจนกระทั่งเหลือ 4.0-4.25% ตอนปลายปี 2569
(จะเห็นว่า Claude วิเคราะห์และให้คำแนะนำ “เป็นตุเป็นตะ” หากเชื่อก็ต้องเตรียมเงินเอาไว้รอซื้อพันธบัตรสหรัฐตอนต้นปี 2568 แล้วคงจะได้ผลตอบแทนโดยรวมประมาณ 10%)
ถาม: Claude คุณแน่ใจมากเพียงใด จะเอาบ้านไปใช้กู้เงินมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้เลยใช่ไหม
ตอบ: อย่าไปกู้เงินโดยใช้บ้านค้ำประกันเพื่อการนี้โดยเด็ดขาด เพราะนักเศรษฐศาสตร์ไม่มีความแม่นยำเลยในการคาดการณ์ดอกเบี้ยระยะยาว (notoriously inaccurate forecast) โดยเฉพาะหากต้องคาดการณ์ยาวไปไกลถึง 3 ปี
Claude ยอมรับว่า มีความมั่นใจในการคาดการณ์ เพียง 20-25% เท่านั้น เพราะมีตัวแปรมากมาย ดังนั้น คำตอบที่มาจากใจจริง (honest answer) คือใครที่อ้างว่าคาดการณ์ได้แม่นยำ เป็นคนที่ไร้เดียงสา (naive) หรือไม่พูดความจริง (not being truthful)
ถาม: แต่คำตอบของคุณย้อนแย้งกันเอง เพราะคุณเพิ่งบอกว่าเป็นการคาดการณ์ที่ “เป็นไปได้สูง” ซึ่งควรจะแปลว่าโอกาสเกิดขึ้นน่าจะเกินกว่า 50% และคุณเองก็ให้ความเป็นไปได้ถึง 55% แต่ทำไมมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 20-25%?
ตอบ: You make an excellent point about logical consistency. You’re right…. จึงขอเปลี่ยนคำตอบว่า มีทั้งหมด 5 ฉากทัศน์ (scenario) โดยให้โอกาสเกิดขึ้นของทั้ง 5 กรณีเกือบเท่าๆ กัน และขอขอบคุณที่ได้ “catch this logical inconsistency”
(มาถึงกลุ่มนี้จึงสรุปได้ว่า: Claude บอกตอนแรกว่า ดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มลดลง 55% แต่ต่อมา ก็เปลี่ยนคำตอบ เป็นว่า ไม่ได้มั่นใจมากนัก เพราะมีถึง 5 ฉากทัศน์)
ถาม: รัฐบาลสหรัฐจะลดการขาดดุลงบประมาณในระยะยาวได้โดยวิธีใดบ้าง เพราะประเด็นนี้ ย่อมต้องกระทบกับแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐในระยะยาว
ตอบ: Claude “ร่างยาว” เกี่ยวกับแนวทางที่จะลดการขาดดุลงบประมาณ และลดการขยายตัวของหนี้สาธารณะของสหรัฐ เช่น ต้องเพิ่มภาษี ลดรายจ่าย เพิ่มอายุเกษียณ เร่งให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น ฯลฯ ซึ่งถูกต้องทั้งหมด แต่ยอมรับว่า แนวโน้มคือ หนี้สาธารณะของสหรัฐซึ่งปัจจุบันเท่ากับ 100% ของจีดีพี มีแต่จะเพิ่มขึ้นไปถึง 150% ของจีดีพีในปี 2577 และยอมรับว่า ภาระหนี้ดังกล่าว จะทำให้ดอกเบี้ยระยะยาวจะต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เนื่องจากประเมินอีกว่า โอกาสที่สหรัฐจะปฏิรูประบบการคลังอย่างมีประสิทธิผลใน 5 ปีข้างหน้านั้น มีน้อยกว่า 20% ดังนั้น Claude จึงสรุปบรรทัดสุดท้ายว่า “upward pressure on yields likely to persist”
ถาม: แต่เมื่อตอนเริ่มต้น คุณเพิ่งบอกผมว่าโอกาสที่ดอกเบี้ยระยะยาวจะลดลงใน 3 ปีข้างหน้าเท่ากับ 55%
ตอบ: “You’ve caught another inconsistency in my analysis -thank you.” จากนั้น Claude ก็ปรับการคาดการณ์ใหม่โดยสรุปว่า
-ดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับเพิ่มขึ้นใน 3 ปีข้างหน้า = 65%
-ดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับลดลงใน 3 ปีข้างหน้า = 35%
โดยอ้างว่า 35% มาจากกรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรง มีการเผชิญหน้ากันในเชิงของภูมิรัฐศาสตร์ (คงจะหมายถึงการรบกัน) หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอย่างที่ไม่คาดฝัน
จึงทำให้ผมต้องกลับมาคิดเอาเอง (และคงจะพึ่ง Claude ไม่ได้) การลงทุนในปี 2568 และปีต่อๆ ไปนั้น จึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอนครับ