“ภาษีทรัมป์” ทำลายระบบเศรษฐกิจโลก

การหวนคืนสู่นโยบายกีดกันทางการค้าอย่างแข็งกร้าวภายใต้เงาของ “ภาษีทรัมป์” กำลังสั่นคลอนเสาหลักของระบบเศรษฐกิจโลกที่สร้างสมมานานหลายทศวรรษ จากแนวคิด “America First” ที่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง พร้อมการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศต่างๆ ในอัตราที่สูงลิ่ว ที่ไม่ใช่เป็นแค่มาตรการทางการค้า แต่เป็นการจุดชนวนความขัดแย้งทางการค้าครั้งใหญ่ ที่อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางการค้าในวงกว้าง สร้างความปั่นป่วนให้กับห่วงโซ่อุปทานโลก และบ่อนทำลายกลไกการค้าเสรี ที่เป็นรากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันทั่วโลก
ผลกระทบที่ตามมาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่คู่ค้าของสหรัฐเท่านั้น แต่ยังแผ่ขยายไปถึงทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจโลก การขึ้นภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการทั่วโลก ท้ายที่สุดคือการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวม ที่สำคัญความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายที่ผันผวนและคาดเดาได้ยากของคนอย่าง “ทรัมป์” ที่นึกจะเสกมาตรการแปลกประหลาดอะไรขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้เกิดการชะลอลงทุน และตัดสินใจทางธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและโอกาสทางเศรษฐกิจในระยะยาว ระบบเศรษฐกิจโลกที่เคยเชื่อมโยงและพึ่งพาอาศัยกันกำลังถูก “ภาษีทรัมป์” กัดกร่อนจนเกิดรอยร้าวที่ยากประสาน
หันมามองสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ท่ามกลางสารพัดปัจจัยลบ ภาษีทรัมป์ที่เล็งเป้ามายังสินค้านำเข้าจากประเทศไทยด้วยอัตราสูงถึง 36% คือ แรงกระแทกครั้งสำคัญที่นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักต่างออกมาเตือนถึงผลกระทบอันรุนแรง ซ้ำเติมสถานการณ์ด้วยภัยพิบัติ “แผ่นดินไหว” ที่อาจเกิดขึ้นอีก เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้ามได้ เศรษฐกิจไทยจึงหมิ่นเหม่จะร่วงลงเหวเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่ต้องงัดทุกกระบวนท่าแก้เกมสงครามการค้าครั้งนี้ให้รอดไปได้แบบเจ็บตัวน้อยที่สุด
ในระยะยาว ผลกระทบของ “ภาษีทรัมป์” อาจรุนแรงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจและการหันกลับไปสู่ลัทธิชาตินิยมทางเศรษฐกิจที่เน้นการแทรกแซงควบคุม มากกว่ากลไกตลาดแบบอื่น จะเป็นตัวบ่อนทำลายความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ซับซ้อน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแพร่ระบาดของโรค และความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ระบบเศรษฐกิจโลกที่เคยขับเคลื่อนด้วยการค้าเสรีและกฎเกณฑ์ที่เป็นสากล กำลังถูกท้าทายอย่างหนักจากนโยบายที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก ซึ่งอาจนำไปสู่ยุคสมัยแห่งความขัดแย้งทางการค้า การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และท้ายที่สุด คือ การถดถอยของเศรษฐกิจโลกโดยรวม “ภาษีทรัมป์” จึงไม่ใช่แค่มาตรการทางการค้า แต่เป็นระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังเพื่อทำลายระเบียบเศรษฐกิจโลกที่เราคุ้นเคย...