Soft Power ของไทย ผลงานของใคร?
จับประเด็นร้อน Soft Power ของไทย ผลงานของใคร?
ติดตามอัปเดตประเด็น Soft Power ของไทย หรือ Thai Soft Power ซึ่งวันนี้บรรดานักการเมืองระดับบิ๊กเนมออกมาพูดถึงกันยกใหญ่ หลังเกิดปรากฎการณ์อย่างต่อเนื่อง จากการเผยแพร่ อาหารไทย ศิลปะวัฒนธรรมไทย นักกีฬาไทย และศิลปินนักแสดงของไทยบนเวทีโลก หรือสื่อระดับโลก
นับตั้งแต่กรณีของนักร้องไทย มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินแรปเปอร์สาว ร่วมงานเทศกาลดนตรีและศิลปะ (Coachella) ที่เมืองแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โชว์การกินข้าวเหนียวมะม่วง เมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็นกระแสความสนใจของสื่อโซเซียลทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ก่อนหน้านี้ ลิซ่า blackpink ลลิษา มโนบาล และ แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปินเกาหลี สัญชาติไทย ที่สร้างปรากฎการณ์มีแฟนคลับทั้งในไทยและทั่วโลกมาแล้ว ยังไม่นับรวม ภาพยนตร์ไทย ตัวอย่างล่าสุด "ร่างทรง" และศิลปะวัฒนธรรมไทย ที่สร้างกระแสมาแล้ว
วันนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย 2 ราย อย่าง ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Soft Power ของไทย เริ่มอดีตนายกฯทักษิณ อธิบายว่าเห็นโมเดลเกาหลีใต้ทำ Soft Power ตั้งแต่ปี 2544 เป็นนายกฯสมัยแรก เล็งเห็นสมาคมภาพยนตร์ฯในไทยแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเหมือนจะบอกว่าผู้นำจะเริ่มแต่ภาคเอกชนยังไม่พร้อมหรือไม่ ทำให้ใช้กลไกภาพยนตร์ไทยทำซอฟท์ พาวเวอร์ไม่คืบหน้านับตั้งแต่ตอนนั้น
ส่วนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ อ้างว่ายกระดับผ้าไทยให้เป็น Soft Power ว่าสามารถทำได้ผ่านการประยุกต์การตัดเย็บที่เป็นสากลทันสมัย ตอนเป็นนายกฯได้ใช้โอกาสนี้ใส่ชุดผ้าไทย ผ้าขาวม้าที่ชาวบ้านผูกเอวรับขวัญ มาตัดชุดใช้ในการพบกับผู้นำนานาประเทศ เพื่อที่จะบอกว่าผ้าไทยสวยและมีฝีมือประณีต ซึ่งพยายามจะบอกว่ามุ่งใช้ซอฟท์ พาวเวอร์ของไทยด้วยผ้าไทยในเวทีผู้นำประเทศ
บทความของ นิติราษฎร์ บุญโย ที่เกี่ยวข้อง
- ข้อเสนอ..ยุทธศาสตร์การนำ 'ภาพยนตร์' มาใช้ในมิติ Soft Power
- ภาพยนตร์คือความมั่นคง? ไทยต้องมียุทธศาสตร์รับมือ ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
- จุดกระแส "ส่งออก" ภาพยนตร์ไทยไปตลาดโลก ด้วย "Soft Power"
- Soft Power กับภาพยนตร์ไทย ล่าสุด วธ. กำลังทำอะไรบ้าง
ขณะที่พรรคเพื่อไทย สอดรับได้รุกเข้าพบ มุน ซึง-ฮย็อน (H.E. Mr. Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทย แลกเปลี่ยนความเห็นทางเศรษฐกิจและทิศทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเกาหลีใต้และประเทศไทย ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจของไทยได้ขอความเห็นจากเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ในเรื่อง Soft Power ที่ประเทศเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จอย่างมาก และประเทศไทยน่าจะดูบทเรียนและเดินตามแบบอย่าง
ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลนั้น ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจตัวเลขการส่งออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการนำนโยบายของรัฐบาล ไปขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยสนับสนุนตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นคือ การส่งเสริมและผลักดัน Soft Power ของรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งรัดการส่งออกสินค้าใน 4 หมวดสำคัญ ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์สุขภาพความงาม และสินค้าอัตลักษณ์ไทย การจัดทำมาตรการเชิงรุกผลักดันการส่งออกผลไม้การผลักดันการค้าชายแดน ซึ่งมีคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และอาเซียน ที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบาย Soft Power ของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า กรมได้ตั้งเป้าหมายผลักดันการส่งออกใน 4 กลุ่มสินค้าเกี่ยวข้อง ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพความงาม และสินค้าสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย โดยมีผลการดำเนินการในช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564 - มี.ค.2565) สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการไทยได้ 1,878 ราย สร้างมูลค่าการค้ารวม 3,905 ล้านบาท เป็นการส่งออกสินค้า 4 กลุ่มข้างต้น 1,258 ล้านบาท และส่งออกผลไม้ 2,647 ล้านบาท
สำหรับผู้เขียนเอง ตั้งคำถามง่ายๆ ว่า Soft Power ของไทย ที่เห็นอยู่เป็นผลงานของใคร อนุมานคำตอบตั้งแต่รัฐบาลทักษิณจนถึงรัฐบาลประยุทธ์นั้น ดูเหมือนผู้มีอำนาจยังใช้นโยบายที่ให้ "ต้นทุนเดิม" นับตั้งแต่สังคม ศิลปะวัฒนธรรมไทย และแหล่งท่องเที่ยว โดยระบบรัฐราชการในการขับเคลื่อน ซึ่งยังขยับเขยื้อน Soft Power ของไทยไม่คืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น การที่คนไทย อาหารไทย และแหล่งท่องเที่ยวไทย ถูกรับรู้และพูดถึงบนเวทีโลกเป็นครั้งเป็นคราวเหมือนไฟไหม้ฟางซึ่งไม่ต่อเนื่องจะถือเป็นผลงานฝ่ายการเมืองนั้น อาจค้านสายตาประชาชนหรือไม่
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า การที่นักการเมืองพูดถึงนโยบายผลักดัน Soft Power ของไทย เพราะจะหาเสียงเพื่อเลือกตั้งสมัยหน้าก็ดี ยังถือเป็นการสื่อสารกับประชาชนให้เห็นทิศทางของประเทศที่จะก้าวไป และจะรู้เหมือนกันว่านักการเมืองคนใดมีนโยบาย Soft Power ของไทยเป็นเช่นไร และจะทำงานอย่างไร เป็นผลให้ประชาชนมีข้อมูลในการตัดสินใจเวลาเลือกตั้งด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้ Soft Power จะประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ เอกชนทำอย่าง ภาครัฐทำอีกอย่าง อาจมีผลงานแต่ไม่ยั่งยืนในเวทีโลก ดังนั้นอำนาจรัฐโดยนักการเมือง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมภาครัฐ และเอกเชน สังคมและสถาบันการศึกษา ในการเปิดโอกาสแหล่งทุนและแหล่งความรู้ให้คนในประเทศและต่างชาติได้รับการสนับสนุนจนกลายเป็นพลังเป็นผลงานของรัฐบาลอย่างแท้จริง
สำหรับผลงาน Soft Power ของไทย ในขณะนี้ คือพลังความมุ่งมั่น สร้างสรรค์ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่!?
....
อ้างอิง