Man Money Material…Management

สื่อมวลชนก็พลอยอ่วมกันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ หรือวิทยุ ก็โดนกันไปหมด ยังนึกไม่ออกว่า บรรดาทีวีดิจิทัลจะทำยังไง เนื่องจากเพิ่งมาเริ่มลงทุนในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ว่ากันว่า ภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เริ่มคงจะทราบว่าใครจะอยู่ใครจะไป เพราะช่องที่ประมูลทีวีดิจิทัลได้ไปแล้วนั้น จะต้องโดนเรียกเก็บเงินค่าประมูล รอบที่ 2

เศรษฐกิจไม่ดีก็คงเป็นเพราะปัจจัยอย่างที่ทราบกันครับ ทั้งด้วยปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ บ้างก็สืบเนื่องมาจากการบริหารงานผิดพลาด ในเรื่องนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ รถคันแรก ค่าแรงขั้นต่ำ ประกันราคาข้าว แต่กลับขายข้าวไม่ได้ ขาดทุนเป็นแสนล้าน ตอนนี้กลายเป็นรัฐบาลรักษาการทำอะไรก็ไม่ได้ แถมยังต้องเจอกับม็อบกกปส.เข้าไปอีก ผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ คงต้องหาทางช่วยตัวเองให้มากเข้าไว้ ลองกลับมาทบทวนตัวเองว่าจะปรับตัวอย่างไร ให้อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และคาดการณ์ไว้เลยว่าเป็นแบบนี้จนสิ้นปี จะได้ปรับตัว เพื่อไว้ปีหน้า โดยต้องอยู่ด้วยความไม่ประมาท

4 M เป็นทฤษฎีที่สอนอยู่ทั่วไป ที่คุณทักษิณเคยพูดเอาไว้สมัยที่เป็นนายก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก และนำมาใช้ได้จริง ซึ่งได้อธิบายไว้ว่า คนไทยชอบใช้แค่ 3 M คือ คน (Man) เงิน (Money) และวัตถุดิบ (Material) ที่ไม่ค่อยได้ใช้ M อีกตัวคือ การบริหารจัดการ (Management) เพราะยามเศรษฐกิจดี คุณจะเริ่มจาก money man material หรืออาจจะกลับไปมายังไงก็ได้

แต่สำหรับยุคนี้ M - Management สำคัญมาก ต้องกลับมาพิจารณาเป็นลำดับแรก เพื่อนำไปบริหารจัดการ M ที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น คน เงิน หรือวัตถุดิบก็ตาม เหตุที่เราคงต้องใช้ M - Management กันอย่างหนักก็เพื่อมาบริหารต้นทุน องค์กร และต้นทุนในหน่วยงานต่างๆ ให้องค์กรเราอยู่รอดจากภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ

ในคราวนี้ ผมเองเคยภูมิใจที่นำองค์กรผ่านช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งมาแล้ว แต่คราวนี้แตกต่างกันทั้งขนาด (scale) ขององค์กร และเงื่อนไขอื่นๆ ที่ต่างกันออกไป นำสิ่งที่เคยทำเอาไว้ตอนนั้นมาใช้ตอนนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องหาทางจัดการกับองค์กรด้วยเงื่อนไขในการบริหาร ณ ปัจจุบัน

M - Money หรือเงิน คุณต้องมาพิจารณาทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายปีที่แล้วโดยจะต้องกลับมารีวิวใหม่ทั้งหมด ในเมื่อภาพไม่ได้เป็นตามที่วางแผนไว้ เงินเข้ามาลดลง จะทำอย่างไร จะสามารถหาเงินจากแหล่งอื่นได้หรือไม่ ลองหันมองรอบๆ ตัว และต้องมาบริหารต้นทุนด้วย ต้องลงไปดูอย่างจริงจัง คิดจะทำอย่างที่เราเคยๆ นั้นไม่ได้อีกต่อไป อะไรที่ลดได้รีบลด ประหยัดไว้ก่อน ก่อนจะต้องเฉือนเนื้อตัวเอง ธุรกิจใหม่ๆ หรือธุรกิจที่มีความเสี่ยง งดหรือเลื่อนออกไปก่อน เห็นนรกรออยู่ข้างหน้า อย่าเพิ่งหาเรื่องเจ็บตัว ถนอมตัวเอาไว้เพื่อเจอปัญหาหนักๆ ซึ่งปัญหาที่เราคาดเดาไม่ได้ผมว่ายังมีอีกเยอะครับ จะได้มีเงินไว้ทำสงครามหลักต่อได้ อย่าดึงสงครามหลายด้านเข้ามาในภาวะแบบนี้

M - Material หรือวัตถุดิบ หรือสิ่งที่ต้องใช้ในการผลิตสินค้าหรือบริการ บริษัทที่ต้นทุนอยู่ที่ Material รีบทบทวน จะหาสิ่งที่ทดแทนกันได้ หรือ หาแหล่ง Material ใหม่ๆ ก็จงเร่ง หรือคิดจะไปต่อรองกับ Vendor หรือ Supplier ให้ช่วยกันยามเดือนร้อนให้ผ่านภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายแบบนี้ไปด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ควรพิจารณาอย่างเร่งด่วนเช่นกันครับ

M - Man อย่างหน่วยงานของผม เป็น people company นั่นคือ ธุรกิจต้องดำเนินไปด้วยคน ต้นทุนส่วนใหญ่ขององค์กรอยู่ที่เงินเดือน และสวัสดิการ ผมปรับตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว คนออกไม่รับเพิ่ม และโยกย้ายคนไปยังหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานที่ทำเงินมากขึ้น หรือหน่วยงานต้องการกำลังเสริมเพื่อเดินหน้าต่อสำหรับงานใหญ่ๆ อย่างหน่วยงาน ต่างประเทศ ของผมปีนี้น่าจะทำเงินได้มากขึ้น ก็ย้ายคนไปยังหน่วยงานนั้นๆ เราย้ายคนไปอยู่ในส่วนต่างประเทศกว่า 20 คน ลดต้นทุนบริษัทแม่ คำนวณคร่าวๆ ว่าหน่วยงานนี้ทำรายได้เข้าประเทศปีละประมาณ 250 ล้านบาท

นี่คงเป็นแค่หลักคิดเบื้องต้น สำหรับทุกๆ หน่วยงานที่ต้องหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอย่างเต็มที่ เพื่อให้หน่วยงานของคุณอยู่รอด หรือแม้กระทั่ง การดึงเอา M - Management มาบริหารจัดการเรื่องของตัวคุณ กระเป๋าคุณเอง ก่อนที่ 3M ที่เหลือ จะไม่เหลือให้คุณบริหารจัดการอีกต่อไป

ขอให้โชคดีนะครับ