บทบาทของนักศึกษากับการทำ 'กิจกรรม'
หากจะกล่าวว่า ชีวิตในช่วงวัยเรียนระดับอุดมศึกษานั้น เป็นช่วงที่สามารถทำอะไรหลายๆ อย่างได้ ที่ไม่เคยทำ
หรือที่ใครหลายๆ คนเรียกว่า “ลองผิดลองถูก” ก็คงจะไม่ผิดสักเท่าไหร่นัก ด้วยเพราะเหตุที่ว่าในช่วงวัยนี้ ถือเป็นช่วงวัยที่กำลังเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่กับชีวิตของความเป็นนักศึกษา ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งภายในห้องเรียนและภายนอกห้องเรียน เรียกได้ว่าทุกๆ ที่ ที่ประสบพบเจอล้วนแต่เป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การเก็บเกี่ยวทั้งสิ้น
ยิ่งในสมัยนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า หากสำเร็จการศึกษาไป และไปสมัครงานตามบริษัทหรือองค์กรต่างๆ สิ่งที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจในการรับเข้าทำงาน นอกจากผลการเรียนแล้วนั่นก็คือ ประสบการณ์ในการทำกิจกรรม หรือที่ใครหลายๆ คนเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “กิจกรรมนักศึกษา” กิจกรรมเช่นนี้เปิดกว้างให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยได้ทำการค้นหาสิ่งตนเองถนัด สิ่งที่ตนเองชอบ อีกทั้งยังสามารถดึงศักยภาพของตนเองในการทำงาน เสมือนเป็นการเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ที่เมื่อเราสำเร็จการศึกษาไปก็ต้องพบเจออย่างแน่นอน
กิจกรรมนักศึกษาจึงเป็นกระบวนการทางการศึกษาที่มหาวิทยาลัยจัดให้มีขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้รู้จักสนิทสนม ปรึกษาหารือ ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือกันทางด้านวิชาการ อันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของนักศึกษา โดยมีอาจารย์ที่ดูแลและรับผิดชอบนักศึกษา คอยแนะนำและให้คำปรึกษาเพื่อให้การดำเนินการจัดกิจกรรมของนักศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม นอกจากกิจกรรมทางด้านวิชาการแล้ว มหาวิทยาลัยยังส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษารู้จักคิดและสร้างสรรค์กิจกรรมในแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกด้วย
ประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมนักศึกษานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในอนาคตค่อนข้างมาก เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ไม่ได้ต้องการเพียงแค่คนเก่งทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังต้องการคนที่มีความสมบูรณ์ทั้งความรู้ทางวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์ จึงเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า ผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาทำให้ได้รับประโยชน์ที่มีคุณค่ามากมายหลายประการ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะมีใครหลายๆ คนกลับมองว่า นักศึกษาที่ทุ่มเทเวลาให้กับการทำกิจกรรมอย่างมากนั้น เป็นนักศึกษาที่ไม่สนใจเรียนใช่หรือไม่ หรือการทำกิจกรรมของนักศึกษา จะส่งผลกระทบต่อการเรียน ทำให้ไม่สามารถเรียนรู้ตำราในห้องเรียนได้อย่างเต็มที่หรือเปล่าเพราะในบางครั้งถึงแม้การเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษานั้นทำให้ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่ามากมายก็จริง แต่ก็มิได้หมายความว่าจะได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่ตนเองเสมอไป บางคนทำกิจกรรมจนเสียการเรียน เสียเพื่อน เสียคนที่รัก ฯลฯ เพราะไม่รู้จักแบ่งเวลา ไม่รู้จักหน้าที่หลักของความเป็นนักศึกษา คือ การเรียน บางคนก็แยกไม่ออกว่าการเรียนกับกิจกรรมอะไรสำคัญกว่ากัน บางคนก็เพลินกับการทำกิจกรรมจนทำให้การเรียนเสียหาย
ดังนั้น เมื่อต้องเข้ามาทำกิจกรรมพิเศษเราจึงต้องทำความเข้าใจกับตนเองว่า ในฐานะนักศึกษาแล้ว การเรียนต้องถือว่ามีความสำคัญมากที่สุด และกิจกรรมนอกห้องเรียนถือเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ช่วยพัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้นักศึกษามีคุณลักษณะของความเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์ได้ แต่หากใครที่สามารถแบ่งเวลาทั้งการเรียนและการทำกิจกรรมได้ดี จะเห็นว่าการทำกิจกรรมนักศึกษานั้นให้อะไรต่างๆ มากมายที่เป็นประโยชน์ เพราะการทำกิจกรรมพิเศษนี้ จะทำให้นักศึกษาจะมีอิสระในการคิดและตัดสินใจด้วยตัวของเราเองมากขึ้น
แต่กระนั้นก็ตามในโลกของการทำงานเราจำเป็นต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ดังนั้น เราจำเป็นต้องปรับตนเองให้เข้ากันได้กับบุคคลที่หลากหลายประเภทที่ต้องพบเจอระหว่างการทำกิจกรรม เพื่อให้ผลการดำเนินกิจกรรมที่เรารับผิดชอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดังนั้น เมื่อต้องทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นที่มีธรรมชาติและลักษณะที่หลากหลาย จะบ่งบอกได้ว่าเราจะสามารถทำงานกับใครๆ ได้หรือไม่ ซึ่งการทำกิจกรรมพิเศษนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เราได้รู้จักเรียนรู้และเข้าใจในความหมายของความแตกต่างของแต่ละคนมากขึ้น คนที่มีความเข้าใจธรรมชาติมนุษย์มากเท่าใดย่อมประสบปัญหาน้อยในการทำงาน ซึ่งกิจกรรมนักศึกษาจะช่วยในประเด็นนี้ได้มาก
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของการทำกิจกรรมนักศึกษาก็คือ จะทำให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น เพราะการทำกิจกรรมนั้น จะทำให้เราสามารถประเมินตนเองได้ว่า ตัวเรานั้นมีจุดเด่นหรือจุดบกพร่องที่ยังต้องแก้ไขในเรื่องใดบ้าง บางคนอาจค้นพบสิ่งที่ตนเองถนัด เช่น ทักษะการพูด ทักษะในการออกแบบความคิดสร้างสรรค์ หรือทักษะในการคิดวิเคราะห์ เป็นต้น บางคนอาจพบว่า ยังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขและพัฒนาตนเองอีกมากมายเพื่อที่เปลี่ยนตนเองให้เป็นบุคคลที่สามารถเข้ากับคนอื่นได้ เช่น เป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองมากไป ไม่ค่อยรับฟังผู้อื่นหรือเป็นคนที่เข้ากับบุคคลอื่นๆ ได้ยาก ซึ่งถ้าหากได้เข้ามาทำกิจกรรม ก็จะทำให้สามารถพัฒนาปรับปรุงตัวตนของได้ดีอีกเช่นเดียวกัน
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการทำกิจกรรมของนักศึกษานั้น มิได้มีผลกระทบต่อการเรียนของนักศึกษาแต่อย่างใด หากมีการแบ่งเวลาที่เหมาะสม เพียงพอ และสามารถแยกแยะได้ว่า เวลาไหนคือเวลาของการทำกิจกรรมพิเศษ เวลาไหนคือเวลาของการเรียนหนังสือ เพราะในยุคปัจจุบัน เวลากลายเป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมาก คนที่บริหารเวลาได้เก่ง ย่อมได้รับสิ่งที่มีค่าต่อตนเองมากกว่าผู้อื่น ทั้งๆ ที่ในแต่ละวันเราทุกคนจะมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน การเข้าร่วมดำเนินกิจกรรมจะทำให้เรารู้จักแบ่งเวลาในแต่ละกิจกรรมของตนเองอย่างเหมาะสม เช่น ต้องมีเวลาให้แก่ตนเองในกิจกรรมทางวิชาการ กิจกรรมร่วมหลักสูตร เรื่องส่วนตัว กิจกรรมครอบครัว และกิจกรรมนักศึกษาที่ตนต้องรับผิดชอบ
การเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาจะชี้ให้เห็นว่า ถ้าต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เราจะมีศักยภาพในการดำเนินการเพียงใด และหากเราสามารถผ่านจุดจุดนี้มาได้ จะทำให้เรากลายนักศึกษาที่รอวันเป็นบัณฑิต เพื่อที่จะออกไปทำงานกับสังคมภายนอก และเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถปรับตัวกับการอาศัยอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่น หรือปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของสภาวะสังคมในปัจจุบันได้ดีมากยิ่งขึ้น