ชิดลมจะไปได้อีกไกล

ที่บอกว่าพัฒนาโครงการคอนโดโดยไม่พูดถึงโครงการรูปแบบอื่นๆ นั้น เพราะตอนนี้ราคาที่ดินก็ไปไกลมากกว่า 2.5 ล้านบาทต่อตารางวาไปแล้วและน่าจะขึ้นถึง 3 ล้านบาทต่อตารางวาได้แบบไม่ยากลำบากนัก 

ราคาที่ดินขนาดนั้นไม่สามารถพัฒนาโครงการรูปแบบอื่นๆ ได้อีกแล้วจำเป็นต้องพัฒนาโครงการคอนโดเท่านั้นเพราะมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับราคาที่ดินมากที่สุด โครงการรูปแบบอื่นๆ นั้นไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เหมาะสมกับราคาที่ดิน

นอกจากเรื่องของราคาที่ดินที่ขึ้นไปสูงมากขนาดนั้นแล้ว พื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้าชิดลมยังเป็นอีกทำเลที่มีโครงการมิกซ์-ยูสขนาดใหญ่อยู่ในแผนการพัฒนา ถ้าจะนับตั้งแต่โครงการพัฒนาบนที่ดินของสถานทูตอังกฤษที่มีขนาดมากกว่า 23 ไร่ที่แม้ว่าที่ดินแปลงนี้จะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตมากกว่าแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จจะมีผลต่อพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าชิดลมด้วยเช่นกัน 

ที่ดินอีกแปลงที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตและมีการพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่โดยกลุ่มไรมอนแลนด์ในชื่อโครงการ “วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์” ก็มีผลต่อพื้นที่โดยรอบเช่นกัน 

ที่ดินแปลงใหญ่อีกแปลงที่กำลังพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์-ยูส คือที่ดินโครงการ “หลังสวนวิลเลจ” บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 52 ไร่ใจกลางเมืองใกล้สวนลุมพินีไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าชิดลมเป็นโครงการมิกซ์-ยูสอีก 1 โครงการที่อยู่ในบริเวณนี้ หรือถ้าจะนับโครงการ “วัน แบงค็อก” ด้วยก็ได้เพราะโครงการที่พัฒนาบนที่ดินกว่า 100 ไร่แบบนี้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างแน่นอน และช่วยเพิ่มศักยภาพของที่ดินโดยรอบไปเป็นรัศมีกว้างไกล โดยเฉพาะในเรื่องขอที่อยู่อาศัยเพราะโครงการนี้พัฒนาบนที่ดินเช่าระยะยาว ดังนั้น โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการนี้จึงน่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะเป็นโครงการที่พัฒนาบนที่ดินแบบกรรมสิทธิ์

เรื่องของราคาที่ดินที่มีพูดถึงในตอนต้นนั้นเชื่อว่าหลายคนคงจะรับรู้กันมาแล้วว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นมีการประมูลซื้อที่ดินขนาดประมาณ 2 ไร่บนถนนหลังสวนไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าชิดลมไปในราคา 3 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งทางเอสซี แอสเสท เพิ่งประกาศว่าจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดในราคาขายประมาณ 4 -5 แสนบาทต่อตารางเมตร 

ดังนั้น เมื่อมีที่ดินแปลงหนึ่งขายไปได้ในราคา 3 ล้านบาทต่อตารางวาแล้วนั้น เจ้าของที่ดินแปลงอื่นๆ ในพื้นที่โดยรอบที่รอจังหวะขายอยู่ก็คงจะไม่มีใครบอกขายในราคาที่ต่ำกว่าที่ดินแปลงนี้มากเกินไปแน่นอน แม้ว่าที่ดินแปลงนี้จะเป็นการประมูลแข่งกันก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีที่ดินที่อยู่ในการครอบครองของหน่วยงานอื่นๆ อีกแปลงที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวออกมาในช่วงที่ผ่านมา 

ที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ปัจจุบันเป็นสำนักงานของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ติดกับสถานีรถไฟฟ้าชิดลม ขนาดที่ดิน 12 ไร่ 2 งาน 8 ตารางวา เป็นที่ดินขนาดใหญ่อีกแปลงที่มีศักยภาพแต่ด้วยขนาดที่ดินที่ใหญ่ขนาดนี้นั้นอาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการหาผู้เข้าร่วมประมูล ที่ดินอีกแปลงที่เริ่มมีความน่าสนใจขึ้นมา คือ ที่ดินที่เป็นสำนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักเพลินจิตที่อยู่หัวมุมถนนชิดลมและเพชรบุรีเพราะพนักงานที่ทำงานในอาคารนี้ย้ายไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว และมีแนวโน้มที่อาจจะมีการขายที่ดินแปลงนี้ออกมาในอนาคต

พื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าชิดลมมีความน่าสนใจมากกว่าที่คิดโดยเฉพาะถ้าพิจารณาจากที่ดินหลายแปลงที่อยู่โดยรอบที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในอนาคต โครงการคอนโดหลายโครงการที่ก่อนหน้านี้อาจจะคิดว่าราคาขายสูงเกินไปก็อาจจะกลายเป็นของหายากในอนาคต หลายโครงการทั้งที่อยู่ในพื้นที่ตามแนวถนนชิดลม หลังสวน วิทยุ หรือเพลินจิต ในอนาคตจะไม่มีโครงการคอนโดในราคาที่เปิดขายแบบในปัจจุบันแล้วก็เป็นไปได้ถ้าราคาที่ดินยังขึ้นต่อเนื่องแบบนี้ หรืออนาคตอาจจะไม่มีโครงการคอนโดที่ขายแบบกรรมสิทธิ์อีกแล้วในพื้นที่นี้ เจ้าของที่ดินอาจจะเปลี่ยนใจไม่ขายแต่เลือกให้เช่าระยะยาวแทนเพราะต้องการเป็นเจ้าของที่ดินในพื้นที่นี้ต่อไป