ยุคโคบาลสังหารหมู่
เหตุการณ์สังหารหมู่ในรัฐเท็กซัสและรัฐโอไฮโอซึ่งมีผู้เสียชีวิต 31 คน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คงเป็นที่รับรู้กันแล้ว
ความพยายามจะทำการสังหารหมู่เกิดขึ้นบ่อยในสหรัฐ บางครั้งไม่มีคนตาย บางครั้งตายนับสิบ ปีนี้เกิดขึ้นแล้ว 250 ครั้งส่งผลให้คนตาย 277 คนและบาดเจ็บกว่า 1 พันคน ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น สังคมอเมริกันจะถกเถียงกันถึงมาตรการป้องกันต่างๆ อย่างเข้มข้น แต่เหตุการณ์เมื่อวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายืนยันว่ามันไร้ผล ปัจจัยมีหลายอย่าง แต่ชาวอเมริกันเห็นต่างกันมาก จากสายตาของผู้ไปอาศัยอยู่ในบ้านเขา ผมเห็นประเด็นเหล่านี้
ขอบคุณภาพ จาก AFP.com
ในเบื้องแรก สหรัฐเกิดจากปากกระบอกปืนเนื่องจากผู้อพยพจากยุโรปไปตั้งหลักแหล่งที่นั่นอาศัยปืนในการดำรงชีวิต ทั้งเพื่อการรุกรานชาวพื้นเมืองและการล่าสัตว์ การมีปืนไว้ในครอบครองถูกมองว่าเป็นสิทธิ์เบื้องต้นของชาวอเมริกันส่งผลให้พวกเขามีมันไว้ในครอบครองอย่างแพร่หลายและใช้ปืนกันอย่างง่ายดายในสถานที่ต่างๆ ในตอนต้น พวกเขามีเทคโนโลยีที่สร้างได้เพียงปืนแก๊ป การสังหารหมู่โดยคนๆ เดียวจึงเกิดได้ยาก ต่อมาเกิดปืนลูกโม่ 6 นัด ดังที่เรามักเห็นในภาพยตร์คาวบอย หรือโคบาล การสังหารหมู่ทำได้ง่ายขึ้น มาถึงยุคปัจจุบัน ชาวอเมริกันจำนวนมากครอบครองอาวุธปืนยิงเร็วที่ใช้ในการสงครามจำพวก M-16 และ AK-47 อาวุธเหล่านี้มักถูกใช้ในเหตุการณ์สังหารหมู่ขนาดใหญ่
ต้นตอของการก่อการสังหารหมู่มีมากนอกเหนือจากการมองว่าเป็นกรรมสนองกรรม นั่นคือ สหรัฐก่อกรรมจากการใช้ปืนสังหารชาวพื้นเมืองเพื่อชิงที่ดินของเขาและฆ่าสัตว์ขนาดใหญ่จำพวกควายป่าจนแทบสูญพันธุ์ ชาวอเมริกันรุ่นนี้จึงต้องใช้กรรม ชาวอเมริกันผิวขาวส่วนหนึ่งยังเกลียดชังแบบฝังอยู่ในกระดูกดำผู้ที่มีหน้าตาไม่เหมือนพวกเขา แม้สหรัฐจะยอมให้บุคคลผิวสีมีเสรีภาพเท่ากับผู้อื่นมาเกือบ 170 ปีและโลกนี้เดินเข้าสู่ยุคไร้พรมแดนมาหลายทศวรรษแล้วก็ตาม การสังหารหมู่ในรัฐเท็กซัสดูเหมือนจะมีเรื่องนี้เป็นปัจจัยสำคัญแม้จะยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการก็ตาม
แม้โดยทั่วไปสังคมอเมริกันจะมั่งคั่งขึ้น แต่ความมั่งคั่งนั้นกระจุกตัวสูงส่งผลให้ชาวอเมริกันจำนวนมากมิได้มั่งคั่งขึ้นในอัตราเดียวกัน หรือซ้ำร้ายกลายเป็นคนยากจนเนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น สภาพเช่นนี้สร้างความผิดหวังและคับแค้นใจให้ส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้มากเนื่องจากชาวอเมริกันถูกสอนให้เชื่อว่า ตนต้องมั่งคั่งและสามารถใช้จ่ายได้มากกว่ารุ่นพ่อแม่ ชาวอเมริกันผิวขาวที่อยู่ในชนบทและมีการศึกษาโดยทั่วไปไม่สูงนักมักรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย พวกเขาเป็นฐานเสียงสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งโทษชนชาติอื่นที่อพยพเข้าไปในสหรัฐในช่วงหลังๆ นี้ว่าเป็นผู้ก่อปัญหาแม้พวกเขาจะอพยพเข้าไปอย่างถูกกฏหมายก็ตาม นโยบายและวาทกรรมป้ายร้ายแบบแทบรายวันของเขาปลุกเร้าให้เกิดการเกลียดชังเพิ่มขึ้น
อาจมีผู้ถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ห้ามมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง คำตอบคือสมาคมปืนต่อต้านและการเมืองอเมริกันถูกครอบงำโดยทุนสามานย์มานานแล้ว
ดังที่อ้างถึงในตอนต้น ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีส่งผลให้ชาวอเมริกันมีอาวุธร้ายแรงขึ้นจากปืนแก๊ปที่ยิงได้นาทีละราว 4 นัดเป็นอาวุธสงครามที่ยิงได้นาทีละนับร้อยนัด ผลออกมาเป็นการสังหารหมู่เพราะความก้าวหน้าทางโทคโนโลยีทำให้อาวุธมีศักยภาพสูงขึ้น เหตุการณ์สังหารหมู่ดังกล่าวจึงมองได้ว่าเป็นคำสาปของเทคโนโลยีซึ่งคอลัมน์นี้อ้างถึงบ่อยครั้ง
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เหตุการณ์สังหารหมู่ในสหรัฐน่าจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับสังคมที่พยายามเดินตามก้นอเมริกันชนิดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ความคาดหวังและความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นนับวันจะยิ่งเอื้อให้ทุนสามานย์ครอบงำการเมืองได้ง่ายขึ้นและปัญหาสาหัสยิ่งขึ้น เทคโนโลยียิ่งก้าวหน้าคำสาปของมันยิ่งร้ายแรง ฉะนั้น เราต้องการฐานด้านคุณธรรมที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย เหตุการณ์ในสหรัฐชี้ชัดว่า ฐานด้านคุณธรรมของเขามิได้แข็งแกร่งขึ้นตามอัตราของความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ในสังคมอื่นล่ะเป็นอย่างไรรวมทั้งในสังคมไทยด้วย ?