'วัดกึ๋น' สนามซักฟอก
เปิดเกมเดือด! ตั้งแต่เริ่มต้นสำหรับศึกซักฟอก "6รัฐมนตรี" ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
ต้นตอขอปมเดือดเริ่มต้นที่ข้อกล่าวหาที่ฝ่ายค้านเขียนไว้ในญัตติซักฟอกโดยเฉพาะในส่วนของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมทั้งข้อกล่าวหา ไม่ยึดมั่นและศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มล้างรัฐธรรมนูญ เป็นผู้นำประเทศที่กร่างเถื่อน
ถึงขั้นที่วิปรัฐบาลต้องปล่อยหมัดสวนกลับแกมขู่ไปยังฝ่ายค้านว่า ขอให้กลับไปแก้ไขถ้อยคำดังกล่าวมิเช่นนั้นการอภิปรายอาจจะป่วนตั้งแต่เริ่มต้น ดูจากรายชื่อการตั้งทีมองครักษ์ซึ่งล้วนแต่เป็น “มือประท้วง” ขาประจำในสภาฯ ทั้ง ปารีณา ไกรคุป ,สิระ เจนจาคะ,สายัณห์ ยุติธรรม ผู้เสนอแนวคิดสร้าง“สะพานจันทร์โอชา” รู้ได้ทันทีว่าเตรียมมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ฟากฝั่งฝ่ายค้านเองก็ดูเหมือนจะรู้ดีในส่วนนี้จึงพยายามเดินเกม “ลากยาว” ขอเปิดอภิปรายในช่วงวันที่19ก.พ.ซึ่งจะมีเวลาไปจนถึงวันปิดสมัยประชุมในวันที่29ก.พ.นี้
แต่ขณะเดียวกันฝ่ายรัฐบาลเองก็ดูเหมือนว่า จะพยายามเดินเกม “รวบรัดตัดจบ” บล็อกวันให้เหลือแค่3วันคือวันที่25-27 ก.พ.และลงมติในวันที่28 ก.พ.ชนวันปิดสมัยประชุม
นอกเหนือจากเกม“รุก-รับ-ไล่” ของทั้ง2ฝ่ายแล้ว สิ่งที่จะต้องจับตาคือเสถียรภาพทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะการลงมติโหวต“ไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจ” ที่จะเป็นการพิสูจน์สภาวะงูเห่าในสภาได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะซีกฝ่ายค้านที่ล่าสุด “5ส.ส.เศรษฐกิจใหม่” ออกมาประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยิ่งเป็นการตอกย้ำอย่างกลายๆถึงเกมดูดเสียงเติมแต้มรัฐบาลที่ทะลุไปถึง260เสียง
ในส่วนของ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” แม้ขณะนี้จะดูเหมือนถูก5สส.ลอยแพ และยังยืนยันที่จะเป็น1เดียวในการร่วมพรรคฝ่ายค้าน แต่หากยังจำกันได้หน้านี้ มีเสียงลอยลมแว่วมาโดยตลอดว่า ตัวเขาเองนี่แหละที่เป็นคนเปิดดีลกับ “บิ๊กรัฐบาล” เพื่อต่อรองตำแหน่งสำคัญ
แต่เมื่อดีลล่มมิ่งขวัญจึงต้องอยู่ในสถานะจำใจร่วมฝ่ายค้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทบาทของเขาตอนนี้จึงอาจเป็นเพียงการ “เล่นสองหน้า” เพื่อรอจังหวะเหมาะสม
ศึกซักฟอกครั้งนี้อาจเปรียบได้ว่า เป็นสนามวัดฝีมือของส.ส.โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาล หากผลงานเข้าตา“นาย” ก็อาจส่งผลไปถึงปรับครม.รวมถึงการพิจารณาตำแหน่งต่างๆในระยะเวลาอันใกล้นี้อีกด้วย