กระชับพื้นที่ 'โควิด-19' กทม.รุกปิดห้าง ล็อกดาวน์จุดเสี่ยง?

กระชับพื้นที่ 'โควิด-19' กทม.รุกปิดห้าง ล็อกดาวน์จุดเสี่ยง?

มาตรการเชิงรุก กระชับพื้นที่ "โควิด-19" ผู้ว่ากทม.รุกปิดห้าง เดินหน้า "ล็อกดาวน์" จุดเสี่ยงทั่วกรุง ตามแผน "อยู่บ้านเพื่อชาติ"


ทันทีที่ทราบ ผลการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 ประจำวันที่ 21 มี.ค. 2563 ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 89 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 411 ราย

สอดรับกับ ผลการแถลงมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของกทม. ที่มีพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศเตรียมปิดห้างสรรพสินค้าทั่วกรุง เว้นโซนอาหาร ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านยา ให้ซื้อไปกินกลับบ้านเท่านั้น ห้ามนั่งกิน เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. ถึงวันที่ 12 เม.ย. 2563 รวม 22 วัน

นั่นหมายความว่า ห้างใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน บิ๊กซี ซิตี้มอลล์ เทสโก้ โลตัส สยามพารากอน เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า และไอคอนสยาม จะได้รับผลกระทบ สามารถเปิดได้โซนอาหาร ซุปเปอร์มาเก็ต และร้านยา และห้ามนั่งกินต้องเอากลับไปทานที่บ้านเท่านั้น

ขณะที่ สมาคมค้าปลีกไทย ยืนยันสินค้าพอไม่ต้องกักตุน พร้อมเสริมสินค้าได้ภายใน 6-12 ชั่วโมง ยังบอกด้วยเหตุการณ์ดีกว่าปี 2554 ขนส่งได้เส้นทางคมนาคมโลจิสติกส์ไม่ถูกตัดขาด

เสมือนเป็นการ "กระชับพื้นที่จุดเสี่ยง" การแพร่ระบาดในพื้นที่ กทม. เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ 89 คนในวันนี้ สอบสวนประวัติสัมผัสผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับสนามมวย 32 ราย สถานบันเทิง 2 ราย เข้าร่วมพิธีศาสนามาเลเซีย 6 ราย และอีก 11 ราย สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยใหม่มี 38 ราย เป็นกลุ่มเดินทางจากต่างประเทศ

แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามไม่ใช้คำว่า "ล็อกดาวน์" หรือมาตรการปิดเมือง ซึ่งประเทศจีนเคยใช้กับเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ นั่นคือการคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า ตัดการคมนาคมสาธารณะทั้งหมด บริษัท ห้างร้าน สถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตประจำวันถูกปิดหมด ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา เปิดทำการได้ แต่ปิดบริการเร็วกว่าปกติ

"ผู้ว่าฯอัศวิน" อธิบายว่า แนวทางป้องกันประชาชนไม่ให้เกิดการเบียดเสียด 22 วัน เป็นเว้นระยะห่างระหว่างตัวบุคคล ขอความร่วมมือไม่ไปในที่ที่มีคนจำนวนมาก และขอให้อยู่ที่บ้าน ขอประชาชนให้อยู่กับที่ อย่าเดินทางข้ามจังหวัด ด้านบริการขนส่งสาธารณะ ได้เตรียมหารือกับผู้ประกอบการ ให้จำกัดปริมาณผู้โดยสาร ลดความเสี่ยงในการแพร่ของโรคระบาด

อาจเรียกได้เป็น "ล็อกดาวน์ยังไม่เต็มขั้น" เพราะยังเปิดให้สัญจรข้ามพื้นที่และจังหวัดได้ ยังอยู่ในช่วง "ขอความร่วมมือ" แต่อนาคตหากมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น คงถึงเวลา "ปิดเมือง" จริงๆ

แน่นอนว่า การใช้มาตรการตั้งแต่ระดับอ่อน กลาง และเข้มข้น ตามลำดับชั้น เท่ากับ "สื่อสาร" ในคนในสังคมรับรู้และเตรียมตัว หากประกาศคำสั่งเด็ดขาดทีเดียว บางทีต้องระวังกระแสตีกลับเช่นกัน

โปรดเตรียมใจไว้ "ศึกใหญ่หลวง" รออยู่ ยังมีเวลาเตรียมตัว!!