หมดยุค ต่ออายุ ผบ.ทบ.
การเปิดประเด็นต่ออายุราชการให้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ออกไป 1 ปี
จะเป็นการโยนหินถามทาง หรือการตีกันจากบางกลุ่มก็ตาม แต่กลายเป็นประเด็นที่พุ่งตรงใส่ พล.อ.อภิรัชต์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ต้องบอกว่า ประเทศไทยมาถึงยุคนี้ พ.ศ.นี้ การคิด “หมุนนาฬิกาย้อนกลับ” เพื่อจะเอาตัวอย่างการต่ออายุราชการของคนที่กำลังจะเกษียณออกไปอีก 1 ปี คงเป็นเรื่องที่สังคมมิอาจรับได้อีกต่อไป
การต่ออายุราชการของ ผบ.ทบ.คนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ชาติไทย คือการต่ออายุราชการให้
“บิ๊กซัน” พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก เมื่อปี 2528 หรือ 35 ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านั้นมีการต่ออายุราชการให้จอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร คนละ 9 ปี และกลายเป็น “จอมเผด็จการ” ในประวัติศาสตร์ชาติไทยตามที่ปรากฏ
ตามมาด้วยการต่ออายุราชการให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.ออกไป 1 ปี เมื่อ พ.ศ.2523 และปิดท้ายด้วยพลเอกอาทิตย์
มีความพยายามที่จะต่ออายุราชการให้ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ แต่ไม่สำเร็จ ต่อมาความคิด หรือความพยายามต่ออายุราชการให้ ผบ.ทบ. ในยุคต่อมาจึงหมดไป
มาวันนี้ มีการรื้อฟื้นประเด็นต่ออายุราชการให้ ผบ.ทบ. อีกครั้ง จึงถือว่าเป็นการโยนประเด็นที่ “หลงยุค”
หากมีการต่ออายุราชการให้จริง อาจเป็นชนวนที่ทำให้ รัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเผชิญกับแรงต้านจากฝั่งตรงข้าม และแรงต้านภายในกองทัพ ที่จะกลายเป็น “คลื่นใต้น้ำ”
เพราะการต่ออายุราชการของคนระดับ ผบ.ทบ. จะทำให้กำลังพลไม่สามารถขยับขึ้นได้อีกนับสิบราย ความคาดหวังที่จะมีความ “ก้าวหน้า” ทางราชการ จึงถูกดับฝันลง
ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งในฐานะ รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรี ต้องดับกระแสนี้ เพราะการต่ออายุราชการใครก็ตามที่กำลังจะเกษียณออกไป จะเป็นการ “ได้ไม่คุ้มเสีย”
เพราะประเด็นนี้ หมดยุคแล้วลุง!