ศบค.การ์ดอย่าตก(เสียเอง)
เสียงเตือนทุกครั้ง หลังการแถลงข่าวสถานการณ์ และมาตรการแก้ปัญหาเชื้อโรคร้ายโควิด-19
ของโฆษก ศบค. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เรียกร้องพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน การ์ดอย่าตก และสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศ เป็น 0 มาแล้วกว่า 50 วัน
มีผู้ติดเชื้อ ที่รายงานตลอดกว่า 50 วัน ล้วนมาจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่ทุกคนเห็นตรงกันว่า คนที่เข้ามาจากต่างประเทศ ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ไม่ควรออกไปเพ่นพ่านอย่างเสรี จะต้องมีการกักตัว เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดเชื้อไม่น้อยกว่า 14 วัน
คณะที่เป็นแขกของรัฐบาล หรือมาด้วยภารกิจเฉพาะ จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด ไม่ควรปล่อยให้ไปในพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า-ร้านอาหารใดๆ
แต่แล้วเหตุที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ทหารอียิปต์ เล็ดลอดไปเที่ยวห้างในระยอง และครอบครัวนักการทูตซูดาน ไม่กักตัวในสถานที่กักกัน แต่มาอาศัยในคอนโดย่านสุขุมวิท และพบว่าทั้งสองกรณี ติดเชื้อโควิด ทำให้เกิดการระส่ำไปทั้งประเทศ โดยเฉพาะระยองและกรุงเทพ ที่จะต้องมีการปิดโรงแรม-ห้างสรรพสินค้า และโรงเรียน ที่มีความเสี่ยง เกือบทั้งจังหวัด
บทเรียนนี้ คือการ “การ์ดตก”ของเจ้าหน้าที่รัฐ และ ศบค.หาใช่การ์ดตกโดยประชาชนชนไม่
การการ์ดตกนี้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดระลอกสองในประเทศไทย ที่หากเกิดขึ้นจะเกิดความเสียหายกับประเทศไทย-คนไทย อย่างคาดไม่ถึง
การออกมาขอโทษ หรือแสดงความเสียใจของผู้นำประเทศ และในฐานะ ผอ.ศบค.ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือเป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่ง แต่ยังไม่เพียงพอ สิ่งที่จะต้องทำอย่างน้อย 4 เรื่องอย่างเร่งด่วน
หนึ่ง การเปิดช่องว่างให้คณะบุคคลสำคัญ นักการทูต-ทหารต่างชาติ-นักธุรกิจต่างด้าว เข้าประเทศ ต้องทบทวนใหม่
สอง จะต้องหาต้นตอ “รอยรั่ว” ที่ทำให้เกิดความระส่ำ ที่นอกจากจะอุดรอยรั่วแล้ว จะต้องลงโทษผู้ที่ทำให้เกิดรอยรั่ว อย่างรวดเร็ว อย่าขู่แต่ประชาชน จะต้องลงโทษเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบให้เห็น
สาม จะต้องตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนไทย จากสองกรณีอย่างครอบคลุม และทุกคนที่เกี่ยวข้อง จะต้องได้รับการตรวจโดยไม่มีข้อยกเว้น และรัฐต้องอำนวยความสะดวก รวมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
สี่ จะต้องทวงถามความรับผิดชอบจากรัฐบาลอียิปต์ และซูดาน จากความอลหม่านที่เกิดขึ้น อย่าอ้างพิธีกรรมหรือมารยาททางการทูต เพราะนี่คือการสร้างความเสียหายให้ประเทศไทยและคนไทย ที่กระทบทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า การขาย การท่องเที่ยว และการจ้างงานในพื้นที่ รวมทั้งความหวาดวิตกที่เกิดขึ้น
และต่อไปนี้ ศบค.ต้องเรียกร้องภาครัฐกันเองให้เข้มงวด อย่า ”การ์ดตก” อย่าเรียกร้อง และบังคับแค่ประชาชนเท่านั้น!
เหนืออื่นใด ศบค.ต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาว่า ผู้ติดเชื้อเหล่านั้นพำนักอยู่ที่ใด และเดินทางไปที่ไหนบ้าง เพื่อที่ผู้ที่ร่วมแหล่งพักอาศัยเดียวกัน รวมทั้งผู้ที่ไปทำกิจกรรมในสถานที่เดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกัน จะได้รู้ว่าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นต้องมาตรวจพิสูจน์โรค ว่าได้รับเชื้อหรือไม่ และมีโอกาสไปแพร่เชื้อที่ไหนต่อไหม
ศบค.จึงไม่มีสิทธิ ปกปิดข้อมูลในเรื่องนี้