'5 กับดัก' ปฏิบัติการสู่เป้าหมายในวิกฤติ
“ผมยินดีที่จะมีกลยุทธ์ระดับรองแต่ลงมือปฏิบัติชั้นเลิศ มากกว่ามีไอเดียสุดล้ำแต่ฝีมือการบริหารจัดการระดับพื้นๆ”
Jamie Dimon ซีอีโอ JPMorgan Chase เคยกล่าวไว้เช่นนี้
สะท้อนถึงความสำคัญของปฏิบัติการ (Execution) อันเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์หรือแผนการทั้งมวล ไม่ว่าแผนจะเลิศหรูแค่ไหน หากการลงมือปฏิบัติทำได้เพียงแค่ค่าเกณฑ์เฉลี่ย สุดท้ายคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาวิกฤติ ที่ทุกคนต่างมีงานล้นมือ และดูเหมือนว่าทุกงานจะสำคัญเร่งด่วนทั้งหมด ทั้งยังมีปัจจัย มีความไม่แน่นอนต่าง ๆที่อาจทำให้เราหลุดโฟกัสได้เสมอ
บทความนี้ดิฉันจึงอยากนำเสนอ “5 Traps of Execution” หรือ “กับดัก 5 ประการ” ที่ผู้บริหารองค์กรมักพบเจออยู่บ่อยครั้งในการลงมือปฏิบัติการ (EXECUTION) รวมถึงวิธีป้องกัน แก้ไข เพราะกับดักทำให้เกิดความสูญเสียทั้งพลังงานและเวลา จนอาจทำให้หลงทางไปจากเรื่องที่สมควรทำหรือมุ่งเน้น ดังต่อไปนี้
1.กับดักความซับซ้อน ที่เห็นบ่อยๆ คือความไม่สอดคล้องกันของเป้าหมาย จากต่างคนต่างทำ ไม่สนับสนุนซึ่งกันและกัน ขัดแย้งกัน ทำให้การปรับแผนตามสถานการณ์เป็นไปได้อย่างล่าช้า
สาเหตุสำคัญของกับดักนี้คือ การขาดทิศทางที่ชัดเจนจากผู้นำ ในช่วงวิกฤติผู้นำต้องบอกได้ว่าอะไรคือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด (Wildly Important Goal) ถ้าเป้าหมายนี้ล้มเหลว การบรรลุเป้าหมายอื่นใดก็ไม่มีความหมาย เมื่อจัดลำดับความสำคัญชัดเจนแล้ว ตัวชี้วัดของเป้าหมายก็ต้องชัดเจนเช่นเดียวกัน
2. กับดักความกังวล ให้ลองตรวจสอบว่าวันนี้เรามีวิธีคิดอย่างไร เวลาพบเจอปัญหา เราคิด “มุ่งเน้นอุปสรรคและความกังวล” หรือคิดว่าปัญหานี้คงแก้ไขไม่ได้ด้วยเหตุผลร้อยแปด เช่น
“เวลาแบบนี้เราจะขายใครได้ ขนาดขอเข้าพบยังไม่ได้เลย”
“วิธีใหม่นี้ไม่เวิร์คหรอก เพราะคนของเรายังไม่พร้อม”
“สั่งงานมาใหม่เยอะแยะแบบนี้ ทีมงานเราไม่มีทางทำทุกอย่างได้เสร็จทันตามกำหนด เพราะทรัพยากรของเรามีจำกัด”
ด้วยวิธีคิดเหล่านี้จะทำให้เราวนเวียนอยู่กับปัญหา สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการไม่ทำอะไรเลย วิธีคิดที่ดีกว่า คือควรลองทำสิ่งใหม่ ๆหรือคิดหาวิธีที่ดีกว่าเดิมที่ “เน้นการหาทางออก การลงมือทำ”
3.กับดักความไม่ชัดเจน ในช่วงวิกฤติธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบหลายเรื่อง จนอาจลืมว่าเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลานี้ ดังนั้นผู้นำต้องตอกย้ำทำความเข้าใจให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้พนักงานติดอยู่ในกับดักความไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เรื่องไหนที่สำคัญที่ต้องทำก่อน เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอดและก้าวไปข้างหน้า
4.กับดักความเฉื่อยชา ถ้าแค่ยอมรับว่ามีปัญหาและแค่ช่วยกันทำให้ดีที่สุดแค่นั้นพอ แต่ขาดสำนึกความเร่งด่วนและความมุ่งมั่น รับผิดชอบ หากทีมขายไม่ตระหนักถึงผลกระทบของกระแสเงินสดกับความอยู่รอดขององค์กร เขาก็จะขายเท่าที่ทำได้และมีข้ออ้างมากมาย เช่น จำนวนลูกค้าที่ลดลง การพบปะต้องเว้นระยะห่างที่ทำให้ยอดขายไม่กระเตื้องขึ้น
การจะหลุดจากกับดักนี้ต้องทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าเป้าหมายความอยู่รอดของธุรกิจไม่ใช่แค่ทางออกชั่วคราว แต่เป็น“นิวนอร์มอล” ที่ต้องเรียนรู้ ปรับเปลี่ยน ทุ่มเทจริงจัง ไม่ใช่ช่วงเวลาที่สามารถเฉื่อยชาได้ ผู้นำต้องตอกย้ำถึงความสำคัญของการมีรายได้เข้ามา มีการตั้งเป้าแต่ละอาทิตย์ ค่อย ๆเก็บสะสมอย่างสม่ำเสมอเพื่อประคองธุรกิจให้ไปต่อได้
5.กับดักความสิ้นหวัง เวลาเกิดวิกฤติ เราต้องเผชิญกับความยุ่งยากท้าทายในทุก ๆมิติ ทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัว อาชีพ การงาน ธุรกิจ ฯลฯ ชีวิตอาจเป็นเรื่องที่ยากโดยเฉพาะผู้ที่มีจิตใจไม่ค่อยเข้มแข็ง มีความรู้สึกกลัว ไม่ปลอดภัย สับสน สิ้นหวัง เป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้องใส่ใจ ทำความเข้าใจ สร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจเพื่อให้ทีมงานสามารถปลดปล่อยศักยภาพได้ในภาวะยากแบบนี้
สรุปก็คือ ความสามารถในการลงมือทำหรือการปฏิบัติการให้บรรลุผลตามเป้าหมาย (Execution) คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ทุก ๆองค์กรรอดและสำเร็จได้ในช่วงวิกฤติ ผู้นำต้องสร้างความชัดเจน (Focus) ความสอดคล้อง (Alignment) ความรับผิดชอบในผลของการปฏิบัติงาน (Accountability) ..องค์กรท่านกำลังติดกับดักทั้ง 5 ข้อนี้อยู่หรือไม่?
ที่มา: “5 Traps of Execution” โดย the Execution Practice Team ของ FranklinCovey และ PacRim Group