ชี้เป้า หลังโควิด คิดจะขาย ขายใครดี ?
ทุกวิกฤติมีโอกาสอยู่เสมอ อยู่ที่ฝีมือในการชี้เป้าว่าโอกาสอยู่ตรงไหน
ซึ่งจะชี้ เป้าให้แม่นยำ ข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ในช่วงโควิดนี้ ทางบริษัวิจัยตลาด เอ็นไวโร ไทยแลนด์ ได้วิจัยกับผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลช่วยให้นักการตลาด ชี้เป้าของ สินค้าตัวเองได้อย่างแม่นยำขึ้นนะคะ
กลุ่ม baby boomer (อายุ 53+)
เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโรค และ มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าวัยอื่น จึงเป็นกลุ่มที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ดังนั้นจะเป็นกลุ่มที่ประหยัด และ เก็บเงินมากที่สุด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ baby boomer ดูจะเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้เงิน ที่นักการตลาดทั้งหลายต่าง หมายปอง เพราะว่ามีตังค์ และ มีเวลา แต่หลังโควิดกลุ่มนี้ยังไม่คิดจะออกนอกบ้านไปหาความสุข ไปเที่ยว ไปดูหนัง ฟังเพลง อย่างมากคือ ออกไปซื้อของ และ ทานข้าว ไม่ใช่ไม่มีตังค์ แต่ยังไม่คิดจะใช้ตังค์ ดังนั้นนักการตลาดที่ขายสินค้านอกเหนือปัจจัยสี่ อาจต้องรีบเปลี่ยนเป้าหมายด่วน เพราะว่ากลุ่มนี้ยังไม่พร้อมใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนอกจากปัจจัยสี่ จริงๆ อาจต้องรอออกไปอย่างต่ำ 6 เดือน หลังเหตุการณ์คลี่คลาย เพราะคนกลุ่มนี้จะรอดูสถานการณ์จนกว่าจะมั่นใจว่ามั่นคง จึงจะควักตังค์ใช้จ่ายปรนเปรอตนเอง อย่างไรก็ดี ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ดังนั้นสินค้ากลุ่มไหนที่จะขายดีกับคนกลุ่มนี้ ในตอนนี้? ให้ลองศึกษาเพิ่มเติม สินค้าที่เกี่ยวกับ ความมั่นคง และ ปลอดภัย เช่น ประกันสุขภาพ อาหารเสริม การออมทรัพย์ หรือ ผลิตภัณฑ์ รักษาความสะอาดต่างๆ อย่าง น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น
กลุ่ม gen x (อายุ 38-52)
เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน และ เสี่ยงต่อการตกงานในช่วงโควิด จึงเป็นกลุ่มที่ยังไม่พร้อมใช้จ่าย เช่นเดียวกัน กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ดิ้นรน ที่จะต้องทั้ง reskill และ upskill ตัวเองไปทำมาหากินนอกจากอาชีพประจำ เช่น เคย เป็นไกด์ เป็น แอร์โฮสเตส ตอนนี้ก็ต้องหันมาทำ ขนม ทำอาหาร เครื่องดื่ม ส่งขาย เป็นต้น เป็นกลุ่มที่จะง่วนอยู่กับการทำอาชีพเสริม และ ขายของ ออนไลน์ หรือส่งตามกลุ่ม marketplace, ตามไลน์กลุ่ม หมู่บ้าน คอนโด จึงเป็นกลุ่มที่ยากจะทำมาหากินด้วยในช่วงนี้ จะยุให้เที่ยวก็ไม่มีทั้งตังค์ ทั้งเวลา แถมไม่มีอารมณ์อีก กว่าจะรอให้ลงตัว ก็ไม่ต่ำกว่า 3-6 เดือน หลังสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งสินค้าที่จะขายได้ ก็จะเป็น คอร์ส เสริมอาชีพต่างๆ เช่น ทำขนม พัฒนาทักษะ หรือ สินค้า DIY อย่างปลูกผักสวนครัวเอง หม้อทอดไร้น้ำมัน เป้นต้น เพราะอย่างที่กล่าวตอนต้น เป็นกลุ่มที่พร้อม reskill upskill เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคตมากขึ้น
สองกลุ่มนี้ Gen X กับกลุ่ม Baby Boomer มีแนวโน้ม พึ่งพาตัวเองมากขึ้น เช่น หันมาทำอาหารทานเองมากขึ้น หรือปลูกผักทานเอง รวมถึงอาจจะทำของใช้เอง เช่น ทำสบู่ เป็นต้น
เป็นกลุ่มที่ออกนอกบ้าน น้อยลง อย่างมากไปซื้อของ ทานข้าวแล้วก็กลับ กลุ่มหนึ่งกลัวไม่ปลอดภัย อีกกลุ่มก็ไม่ค่อยมีเวลา จะออกนอกบ้านก็ไปแบบมีวัตถุประสงค์ มากกว่าไปเอ้อระเหยใช้เวลา ใช้เงิน แบบเมื่อก่อน
ดังนั้นการตลาดหลังโควิด จึงต้องปรับตามพฤติกรรมดังกล่าว ยังเหลืออีกสองกลุ่มทีแซ่บมาก แต่เนื้อที่หมดแล้ว ติดตามต่อ ฉบับหน้านะคะ