สูตรสำเร็จการจัดตั้ง​ “นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร”

สูตรสำเร็จการจัดตั้ง​ “นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร”

เป็นที่ทราบทั่วไปในแวดวงการพัฒนาที่ดิน​ โครงการอสังหาริมทรัพย์​ ผู้ใดประสงค์แบ่งแยกที่ดิน​ เพื่อการจำหน่าย​ จำนวนตั้งแต่สิบแปลงขึ้นไป​

ผู้นั้นมีหน้าที่ยื่นขออนุญาตจัดสรรที่ดินตามกฏหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน​ และเมื่อผู้จัดสรรที่ดินขายกรรมสิทธิ์ที่ดิน​ สิ่งปลูกสร้างได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของแปลงจำหน่ายทั้งหมดตามที่ได้รับอนุญาต​ จัดทำสาธารณูปโภคตามแผนผังโครงการสอดคล้องกับคำขอ​ และวิธีการจัดสรรที่ดิน​ ตามที่ได้รับอนุญาต​ ได้รับหนังสือรับรองการตรวจสอบสาธารณูปโภคจากคณะอนุกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด​ ประกอบกับผู้จัดสรรที่ดินต้องการพ้นภาระหน้าที่การบำรุงรักษาสาธารณูปโภคตามที่ได้รับอนุญาต​ หรือจัดทำขึ้น​ ด้วยการโอนสาธารณูปโภคให้แก่ผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ ไปบำรุงรักษาต่อจากผู้จัดสรรที่ดิน​ หรือด้วยกันเอง​ ผู้จัดสรรที่ดิน​ มีหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรทราบ​ เพื่อจดทะเบียนจัดตั้ง​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ตามกฏหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน​ หรือจดทะเบียนตามกฏหมายอื่น​ เพื่อดำเนินการเรื่องดังกล่าว​ โดยมีระยะเวลาดำเนินการเรื่องดังกล่าวไม่น้อยกว่า​ 180​ วัน​ หรืออาจกล่าวโดยสรุป​ โครงการซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน​ สามารถจดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ​ได้นั้น​ จำเป็นต้องอาศัย​ องค์ประกอบ ดังต่อไปนี้

1.​ขายกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงย่อยได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของแปลงจำหน่ายตามแผนผังโครงการได้รับอนุญาต

2.​จัดทำสาธารณูปโภค​ ครบถ้วน​ ถูกต้อง​ ตามที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด

3.​บำรุงรักษาสาธารณูปโภคตามที่ได้รับอนุญาตครบ​ หรือไม่น้อยกว่า 1​ ปี​ และสาธารณูปโภคอยู่ในสภาพปกติ

4.ได้รับหนังสือ​ หรือใบรับรองการตรวจสอบสาธารณูปโภคจากคณะอนุกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด​ เป็นหลักฐาน

5.​ผู้จัดสรรที่ดินแสดงความประสงค์เป็นหนังสือขอพ้นหน้าที่การบำรุงรักษาสาธารณูปโภคแจ้งผู้ซื้อที่ดินจัดสรรทราบ

กรณีไม่ครบองค์ประกอบดังกล่าวข้างต้น​ ย่อมไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ได้​ อย่างไรก็ดี​ ขั้นตอนปฏิบัติการจัดตั้ง​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร​ ตามกฏหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน​ แม้ถูกกำหนดโดยพระระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน​ 2543​ แก้ไข​ เพิ่มเติม​ 2558​ และระเบียบคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางว่าด้วยการโอนสาธารณูปโภคให้แก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร​ หรือนิติบุคคลตามกฏหมายอื่น​ การขออนุมัติดำเนินการเพื่อการบำรุงรักษาสาธารณูปโภค​ หรือการโอนสาธารณูปโภคให้เป็นสาธารณประโยชน์​ 2559 ถูกบังคับใช้เเก่ผู้จัดสรรที่ดิน​ ผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ ตลอดจนพนักงานเจ้าหน้าที่​ กรมที่ดิน ถือปฏิบัติก็ตาม​ ก็มิอาจทำให้การดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้ง​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ประสบความสำเร็จตรงตามเจตนรมณ์ของผู้จัดสรรที่ดิน​ และผู้ซื้อที่ดินจัดสรรได้​โดยง่าย เหตุอาจเกิดจากมุมมองของแต่ละฝ่าย​ แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น​ ผู้จัดสรรที่ดินเห็นว่าการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคของผู้จัดสรรที่ดินได้มาตรฐาน​ ไม่จำเป็นต้องซ่อมแซม​ ปรับปรุงสาธารณูปโภคให้สมบูรณ์​ ก่อนการจดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ตามที่ผู้ซื้อร้องขอ​ หรือฝ่ายผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ ร้องขอผู้จัดสรรที่ดิน​ ดำเนินการจัดทำสาธารณูปโภคเพิ่มเติม​ นอกเหนือรายการที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด​ ซึ่งผู้จัดสรรที่ดินกล่าวปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว​ หรือผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ อ้างว่าตนไม่ได้รับหนังสือขอพ้นหน้าที่การบำรุงรักษาสาธารณูปโภคจากผู้จัดสรรที่ดิน​ และหนังสือเชิญประชุมขอมติจดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งฝ่ายผู้จัดสรรที่ดิน​ อ้างว่าได้ส่งหนังสือดังกล่าวให้เเก่ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรตามภูมิลำเนาแล้ว​ หรือฝ่ายผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ อ้างว่าภาระค่าใช้จ่ายการบริการสาธารณะ​ ซึ่งขาดทุนสะสมเป็นเวลาหลายปี​ติดต่อกัน เป็นเงินหลายล้านบาท ผู้จัดสรรที่ดิน​ จะหักกลบลบหนี้กับค่าบำรุงรักษาสาธารณูปโภค​ (7%) ที่จะมอบให้แก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร​ มิได้​ เป็นต้น

เมื่อมุมมอง​ ความคิดเห็น​ ระหว่างผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ กับผู้จัดสรรที่ดิน​ แตกต่างกัน อีกทั้งไม่สามารถหาข้อยุติ​ ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นดังกล่าวได้​ ท้ายที่สุด​ กระบวนการจดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ก็เกิดขึ้นไม่ได้​ หรือมีความล่าช้า​ โครงการ​ หลายแห่ง​ หรือทั้งสองฝ่าย​ ก็อาศัย​ ใช้สิทธิทางศาล​ เพื่อให้ได้ข้อยุติ​ หรือข้อพิพาทที่เกิดขึ้นต่อไป​ อย่างไรก็ดี​ เมื่อขิงก็รา​ ข่าก็แรง​ หาคนกลาง​ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทไม่ได้​ ความเสียหายที่เกิดขึ้น​ จึงกระทบต่อทั้งสองฝ่าย​ ฝ่ายแรก​ ผู้จัดสรรที่ดิน​ ก็ไม่พ้นหน้าที่การบำรุงรักษาสาธารณูปโภค​ จำเป็นต้องควักงบประมาณการบำรุงรักษาสาธารณูปโภค​ ไม่มีวันจบสิ้น​ อีกฝ่าย​ ผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ ก็ไม่อาจจดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ได้​ หรือความเสี่ยงของผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ อาจได้สาธารณูปโภคเป็นสาธารณประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน​ เป็นต้น

เมื่อทั้งสองฝ่าย​ มองอนาคตของตน​ แต่ละฝ่าย​ ไม่ออก หรือฝ่ายใด​ ฝ่ายหนึ่ง​ ขาดการวางแผนการทำงานการขอพ้นหน้าที่การบำรุงรักษาสาธารณูปโภค​ในระยะยาว หรือไม่ทราบข้อดี​ –​ ข้อเสียการจด​ หรือไม่จดทะเบียนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ตามกฏหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน​ เช่นนี้แล้ว​ งานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว​ จะประสบความสำเร็จตรงตามเจตนารมณ์ของทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร​ อาจกล่าวได้ว่ามีโครงการจัดสรรที่ดิน​ ซึ่งมีข้อพิพาทดังกล่าว​ เกิดขึ้นทั้งในอดีต​ และปัจจุบัน​ จำนวนไม่น้อย

ถามผู้เขียนว่ามีแนวทางใดที่จะทำให้ได้ข้อยุติ​ ข้อพิพาทดังกล่าวข้างต้น​ หลายท่าน​ อาจมีแนวทางที่เหมาะสม​ อีกหลายท่าน​ อาจไม่มีแนวทาง​ ข้อคิดเห็นที่เหมาะสม​ เเต่ทั้งหลาย​ ทั้งปวง​ จำเป็นต้องพิจารณา​ ยึดข้อกฏหมายเป็นสำคัญ​ อีกทั้งต้องทราบสิทธิ​ และหน้าที่ของตนเป็นอย่างดีอีกด้วย

บทบาท​ หน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดิน​ ได้แก่​ ความรับผิดชอบในการบำรุงรักษาสาธารณูปโภค​ การจัดทำสาธารณูปโภคครบถ้วน​ ถูกต้อง​ การเปิดเผยค่าใช้จ่ายการบริการสาธารณะให้ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรทราบ​ การปฏิบัติตนสอดคล้องกับแบบ​ หรือแผนผังโครงการที่ได้รับอนุญาต​ เป็นต้น​ สำหรับฝ่ายผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ อาจได้แก่​ การศึกษาข้อดี​ -​ ข้อเสียการจดทะเบียน​ หรือไม่จดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแนวทางการจดทะเบียน​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแนวทางการบริหาร​ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร” หรือการคิดอัตราค่าบำรุงรักษา​ และการจัดการสาธารณูปโภค​ หรือค่าส่วนกลางที่เหมาะสม​ เป็นต้น​ อย่างไรก็ดี​ การให้ความรู้​ *นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร* เเก่ผู้ซื้อที่ดินจัดสรร​ ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น​ สำคัญยิ่ง​ ที่ผู้จัดสรรที่ดิน​ จะปฏิเสธเรื่องดังกล่าวมิได้

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นสอดคล้อง​ มีทิศทางเดียวกัน​ โอกาสประสบความสำเร็จการจดทะเบียนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ก็เกิดขึ้นได้โดยง่าย​ แต่ในทางกลับกัน​ หากทั้งสองฝ่าย​ ไม่เจรจา​ แสวงหาทางออกร่วมกัน​ โอกาสการไม่ประสบความสำเร็จ ก็เป็นไปได้สูงยิ่งเช่นกัน

โดย...

พิสิฐ ชูประสิทธิ์

นายกสมาคมนักบริหารอาคารชุด – หมู่บ้านจัดสรรไทย

“ที่ปรึกษา” ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ

[email protected]