ลองเที่ยวด้วยกันไปกับ “เป๋าตัง”

แต่ประเทศไทยก็ถือได้ว่ามีระดับการแพร่ระบาดที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เริ่มจะวิกฤติมากขึ้นเรื่อยๆ

ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างประเทศอย่างมาก โดยมีสัดส่วนถึง 10% ของ GDP ในปี 2562 ก็ตกที่นั่งลำบากหนักอย่างที่หลายๆคนทราบกัน แต่เนื่องจากทางเลือกก็ไม่ได้มีมากนัก เพราะการเปิดประเทศก็คือการเปิดประตูรับการแพร่ระบาดของโรค อย่างที่เราเห็นกันอยู่ในหลายๆประเทศที่ไม่ได้ดำเนินนโยบายการป้องกันที่ดีเพียงพอเมื่อแรกเกิดโรคระบาด จึงเป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก และในที่สุดก็ต้องกลับมาใช้นโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นอยู่ดี

ดังนั้น สำหรับผู้ที่ตึงเครียดอยู่บ้านมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ก็น่าจะถึงเวลาลองเก็บกระเป๋าท่องเที่ยวทั่วไทยกันดูบ้าง ซึ่งข้อดีของการเที่ยวไทยในช่วงเวลานี้ มีอยู่หลายข้อด้วยกัน เช่น

• ราคาถูกมาก แน่นอนว่าผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวนั้นลำบากมากจากการไม่มีลูกค้าต่างชาติ จึงลดราคาลงอย่างมากมาย โดยโรงแรมจากคืนละหลักแสน เหลือหลักหมื่น หลักหมื่นเหลือพัน และหลักพันก็เหลือเพียงหลักร้อยเท่านั้น ดังนั้น สำหรับผู้ที่หิ้วกระเป๋าไปยุโรปทุกปี ลองจัดทริปนอนโรงแรม 5 ดาวทั่วไทยดูซักที จะได้รู้ว่าทำไมต่างชาติถึงหลงไหลเมืองไทยขนาดนี้
• ไม่มีคนแย่งจองโรงแรม ปกติโรงแรมดีมากๆ และห้องดีสุดๆในหลายแห่งนั้นมักจะเต็ม เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติจะวางแผนการเดินทางมานานกว่าคนไทย ดังนั้น จึงควรใช้โอกาสนี้ที่จำนวนผู้แข่งขันน้อย หาโรงแรมเก๋ๆ เรตติ้งปังๆมาเข้าพักกัน
• ไม่ต้องเบียดผู้คน นี่เป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่เราคนไทย จะไม่ต้องไปยืนเบียด เดินเบียดกับผู้คนล้นหลามมากมาย ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของไทย เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ฯลฯ และสามารถถ่ายรูปได้ โดยไม่มีคนอื่นอยู่ในรูป เพราะปกติแล้วสถานที่เหล่านี้จะมีความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในระดับที่เกินปกติอย่างเป็นปกติโดยตลอด นอกจากนี้ จังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง เชียงใหม่ อยุธยา สุโขทัย ภูเก็ต หัวหิน ฯลฯ ก็เปิดโอกาสให้เราได้เข้าถึงความสงบสุขร่มเย็นได้มากกว่าที่เคย
• ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ไปในสิ่งที่ไม่เคยไป และได้รู้สึกถึงสิ่งที่เป็นทิพย์ (ขอยืมคำพูดคลาสสิกจากเรื่องโหมโรง) หลายคนชอบไปเดินเที่ยวในเมืองเล็กๆในยุโรป หรือญี่ปุ่น แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเมืองไทยก็มีสถานที่น่ารัก สวยเก๋ มีค่าทางประวัติศาสตร์หลบซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น บ้านโซว เฮง ไถ่ คฤหาสน์จีนโบราณอายุกว่า 250 ปี ย่านตลาดน้อย กรุงเทพฯ หรือจะเดินเยาวราช ทานอาหารอร่อย แวะชมพิพิธภัณฑเรือพระราชพิธี นั่งเรือรับจ้างเลาะคลองบางกอกน้อย ตามหาวิถีชีวิตริมน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่
• มีโปรจากแอป “เป๋าตัง” อันนี้สำคัญมากๆ หลายคนนึกว่าโปรโมชั่นนี้ไม่เกี่ยวกับเรา เพราะคิดไปเองว่าโครงการรัฐฯนั้น จะใช้เฉพาะกับผู้ที่ไม่มีรายได้เท่านั้น ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ใช่เลย เพราะประชาชนคนไทยทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เหมือนๆกัน โดยผู้ที่พอจะมีสตางค์จับจ่าย สามารถจองโรงแรม (ในจังหวัดที่ตนเองไม่ได้มีทะเบียนบ้านอยู่) โดยลดสูงสุดถึง 3 พันบาทต่อคืน (รัฐจ่ายให้ไม่เกิน 40% ของราคา) สูงสุดถึง 10 คืน โดยมีอายุโครงการจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น

ซึ่งโรงแรมที่ราคาห้องพักหลักแสน หลักหมื่นต่อคืน ก็เข้าร่วมในโครงการนี้จำนวนมาก แถมยังได้เงินคืนกลับให้นำไปใช้จ่ายในร้านอาหาร หรือร้านค้าอื่นๆที่เข้าร่วมโครงการอีกสูงสุดถึงวันละ 600-900 บาท (รัฐจ่ายให้ 40% ของราคา) ซึ่งภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น จีน ไทย เด็ดๆในจังหวัดต่างๆ ก็เข้าร่วมโครงการนี้แทบทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังได้ส่วนลดค่าเครื่องบินสูงสุด 2,000 บาทต่อ ทริปการเดินทาง (รัฐจ่าย 40%) เรียกได้ว่ารัฐฯให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้พวกเราคนไทย ได้ออกไปท่องเที่ยวกัน

• ได้ช่วยพวกเราคนไทยทุกคน คนไทยเราไม่เคยทิ้งกัน วันนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่าความรัก ความห่วงใย ที่เรามีให้กันนั้นมีมากเพียงใด การเดินทางท่องเที่ยวของเราและครอบครัวในวันนี้ อาจเป็นการช่วยต่อลมหายใจให้กับคนในท้องถิ่นอีกจำนวนมาก

หากเรายังพอมีกำลัง ไม่เดือดร้อนการใช้จ่าย เที่ยวไทยวันนี้ ได้ทั้งเที่ยว ได้ทั้งถูก ได้ทั้งส่วนลดจาก “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” แถมได้ช่วยชุมชนให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ เรียกได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม มาเที่ยวไทยด้วยกันนะคะ