ม็อบ 14 ตุลา ชนะแบบวิน-วิน?

การปะทะกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อช่วงบ่ายโมงของวันนี้ (14 ต.ค.) แบบทะเลาะเบาะแว้งยังไม่ถึงขั้นรุนแรง ทำให้หลายฝ่ายหวั่นวิตกถือเป็นการส่งสัญญาณเหตุความรุนแรงก่อตัวปกคลุมราชดำเนิน

พลันที่แกนนำประกาศเคลื่อนมวลชนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งสู่ทำเนียบรัฐบาล ด่านแรกเจรจาผ่านสะพานผ่านฟ้าลีลาส ด่านที่สองบริเวณแยกเทวกรรม มุ่งสู่สะพานแยกนางเลิ้ง

เวลาล่วงเกือบ 5 โมงเย็น ม็อบเคลื่อนมวลชนถึงแยกพาณิชยการ และเข้าสู่ถนนพิษณุโลก และย่ำค่ำมวลชนต่างเข้าพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลได้สำเร็จ

สถานการณ์การเคลื่อนมวลชนของกลุ่มคณะราษฎร 2563 มีการกระทบกระทั่งจากคนเห็นต่างเสื้อต่างสี มีคลิปให้เห็นอยู่บ้างแต่ยังไม่ถึงขั้นต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บรุนแรงสาหัส

ย่อมสะท้อนว่า การขับเคลื่อน "ทดสอบมวลชน" ของแกนนำคณะราษฎร์ 2563 ถือว่ามีประสิทธิภาพ เป็นเอกภาพขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563

ปัจจัยที่ทำให้ม็อบเคลื่อนไปอย่างเป็นเอกภาพ ดูมีพลังขึ้นนั้น

ประการแรก การกำหนดมอบหมายชัดเจน คือการนำมวลชนไปเคลื่อนทำเนียบรัฐบาล แม้ว่าช่วงบ่ายวันนี้มวลชนยังไม่หนาตามากนัก

ประการที่สอง การเคลื่อนมวลชนเป็นอีเว้นท์น่าติดตามในสื่อโซเชียล ทำให้มวลชนในไซเบอร์เห็นถึงความมุ่งมั่นเอาจริงของแกนนำ ลบภาพเก่าเมื่อการชุมนุม 19 ก.ย. ทำให้มวลชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงเย็น

ประการที่สาม การหลีกเลี่ยงและห้ามปรามไม่ให้มวลชนยั่วยุและปะทะกัน ทำให้คนที่ลังเลมีความมั่นใจอยากเข้าร่วม

ประการที่สี่ เจ้าหน้าที่และมวลชนที่เห็นต่างม็อบ โดยส่วนใหญ่ไม่ได้มาเพื่อปะทะ และแกนนำประกาศชัดว่าไม่หนุนสร้างความรุนแรง

ประการที่ห้า ม็อบได้ขับเคลื่อนมวลชนไปยังจุดหมายสำเร็จ ส่วนกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็ได้แสดงออกทางการเมืองเช่นกัน

นี่เป็น "ยกแรก" ที่ม็อบสามารถเคลื่อนมวลชน "ทดสอบการนำ" สามารถเข้าล้อมพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลได้ ขณะเดียวกัน กลุ่มคนเสื้อเหลืองก็ได้ "ทดสอบระดมมวลชน" เช่นกัน โดยใช้เวลาระยะสั้น ว่าจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน

ยกสอง! น่าจับตาม็อบพักค้าง จะคุมเกมอย่างไร

ถึงกระนั้น การชุมนุมของคนสองกลุ่มบนพื้นที่เดียวกัน ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย ถือว่าคนไทยด้วยกันชนะกันแบบวิน-วิน ไม่สูญเสียเลือดเนื้อพี่น้องมิตรร่วมชาติเป็นเรื่องที่ดีที่สุด!!