‘พาณิชย์’ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กับความท้าทายในยุค‘โควิด’

ครอบคลุมงานด้านเศรษฐกิจ ดูแลเกษตรกร ประชาชนและผู้ประกอบการโดยในส่วนของการดูแลเกษตรและประชาชน ก็จะเดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตร ปี 2 ซึ่งโครงการดังกล่าวที่ดำเนินการมาในปีแรก ถือว่าโดนใจและเป็นที่ชื่นชอบเกษตร จากการดำเนินการใน 1 ปี พบว่า มีเกษตรกรได้ประโยชน์ 3.6 ล้านครัวเรือน วงเงินประกันรายได้รวม 71,210 ล้านบาท จ่ายส่วนต่างแล้ว 58,313 ล้านบาท ขณะที่เฟส 2 ก็จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ตามด้วยโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน โดยดึงผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ทั่วประเทศ ลดราคาสินค้า เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยในปี 2563 กระทรวงพาณิชย์ได้ทำไปแล้ว 7 ครั้ง และปีนี้เดินหน้าทำอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 64

ภารกิจสำคัญคือการผลักดันการส่งออกมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกประสบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้กิจกรรมส่งเสริมการค้าทำได้ยากขึ้น ดังนั้นรูปแบบของการส่งออกต้องเข้ากับยุคNew Normalโดยกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าปี 64 การส่งออกไทยจะกลับมาขยายตัวได้ 4 % หลังจากที่ปี 63 การส่งอออกไทยติดลบ 6 % แผนงานหลักๆที่วางไว้ทั้งการการค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ควบคู่ไปกับออฟไลน์ เดินหน้าการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนเชิงรุก

เร่งรัดการเจรจาการค้าเพื่อขยายการค้าของไทยไปยังตลาดโลกในทุกรูปแบบ ทั้งการให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เปิดเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหภาพยุโรป (อียู) สหราชอาณาจักร (ยูเค) EFTA สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย และอาเซียน-แคนนาดา และเร่งรัดนโยบายทำมินิเอฟทีเอกับรัฐและมณฑล รวมทั้งนำระบบบล็อกเชนมาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับ

รวมทั้งจะเร่งผลักดันโครงการอาหารไทย อาหารโลก ที่จะมุ่งเน้นขยายตลาดอาหารไทยไปตลาดโลก และจะเน้นเพิ่มการส่งออกอาหารฮาลาล มังสวิรัติ และอาหารแนวใหม่ที่เป็นเทรนด์สำคัญของโลก จากข้อมูลของ Salaam Gateway สถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจโลกอิสลาม คาดว่าในปี 2567 ตลาดอาหารฮาลาลจะมีมูลค่าถึง 1,972 พันล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ย (CAGR) ปีละ 6.3 % ขณะที่ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลก ในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไทยมีมูลค่าส่งออกถึง 35,037 ล้านดอลลาร์คิดเป็น 2.44 % ของมูลค่าตลาดอาหารฮาลาลโลก ซึ่งข้อมูลดังบ่งชี้ว่าไทยมีศักยภาพในการส่งออกอาหารฮาลาล สามารถที่จะแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดฮาลาลของโลกได้

จุรินทร์ได้ มอบหมายให้กรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปวางแผนการดำเนินการเพื่อให้เป็นตามแผนงานหลักที่วางไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า แผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่วางไว้ตลอดปี 64 เป็นแผนงานเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ มีจุดเน้นเรื่องของการเข้าถึงการตลาดออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับการค้ารูปแบบใหม่

คงต้องจับตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นในปี 64 ที่กระทรวงพาณิชย์ต้องมีแผนรองรับโดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาอีกครั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งอาจจะกระทบต่อแผนการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับกระทรวงพาณิชย์ ที่มีหัวหน้าทีมเซลล์แมนชื่อ"จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์”