'Life Hacking' ปรับชีวิตให้ดีด้วยเทคโนโลยีใกล้มือ
คำว่า Life Hacking จริง ๆ เป็นการแฮกชีวิตเราเอง เป็นการทำชีวิตของเราง่ายและสะดวกขึ้น ด้วยเทคโนโลยี
คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Life Hacks กันมาบ้างแล้ว จากวันนี้ไปการใช้ชีวิตของเราจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ หลายคนที่ยังไม่เข้าใจอาจจะกลัว ๆ อยู่บ้างเพราะคำว่าแฮก ๆ อะไรนี่ฟังดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่คำว่า Life Hacking จริง ๆ เป็นการแฮก ชีวิตเราเอง เป็นการทำชีวิตของเราง่ายและสะดวกขึ้น ด้วยเทคโนโลยีหรือแอพพลิเคชันใหม่ ๆ ที่อยู่ใกล้ตัว
1. เวลา เรามักไม่ได้วางแผนเรื่องของการใช้เวลาในแต่ละวันมากนัก อยากแนะนำให้ลองใช้แอพพลิเคชันพวก calendar เราสามารถลงตารางกิจกรรมหรือวางแผนกิจกรรมต่าง ๆ ไว้ใน calendar ง่าย ๆ ในมือถือ นอกจากนั้นยังสามารถแชร์ให้คนอื่นได้เห็นตารางนี้ด้วยก็ได้
การที่เราวางแผนต่าง ๆ ไว้ได้ล่วงหน้า จะช่วยให้การทำงานของเราต้องแทบไม่เกิดกาารผิดพลาดเลย หากคุณแฮกเวลาได้จะทำให้ทุกอย่างในชีวิตดีมากขึ้น เช่น คุณสามารถจัดสรรเวลาในการประชุมพร้อมกันได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ง่าย ๆ คือสามารถทำหลายอย่างได้พร้อมกัน
สิ่งที่ต้องทำคือ บริหารจัดการเวลาในการทำงานและกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันให้เหมาะสม หลักการในการบริหารจัดการเวลาที่สำคัญคือ ใช้เวลาให้น้อยสุด แต่เกิดประสิทธิภาพมากสุด
2. งานหรือกิจกรรม แอพพลิเคชัน task เช่น To do ใน Google สามารถลงกิจกรรมไว้ใน calendar ได้ และจะแจ้งเตือนให้เราทราบก่อนกิจกรรมจะเกิดขึ้นตามที่เราตั้งเวลาไว้ และยังช่วยเตือนความจำในเรื่องต่าง ๆ ได้ เช่น หากยังไม่สะดวกในการจดบันทึก คุณสามารถใช้ AI ในโทรศัพท์มือถือที่คุณอาจไม่เคยลองใช้อย่าง Siri หรือ Google Assistant มาช่วยบันทึกด้วยคำสั่งเสียง
ในรถรุ่นใหม่ ๆก็สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้เกือบทั้งหมด อยากให้คุณลองใช้ ทั้งสะดวกทั้งปลอดภัย นอกจากนี้ ในการลงบันทึกในแอพเหล่านี้ควรกำหนดเวลาแล้วเสร็จของการทำงานให้แน่นอนว่าต้องเสร็จเมื่อใด การกำหนดเวลาที่แน่นอนจะช่วยทำให้ได้งานที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
3. งานที่ต้องใช้สมาธิและช่วงเวลาพัก ตัวอย่างการแบ่งเวลา เช่น งานที่ต้องใช้สมาธิควรใช้เวลาประมาณ 48 นาทีแล้วพักสัก 12 นาที สลับกันไปก็ได้ จะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และควรทำทีละอย่าง ที่สำคัญควรปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่มาจากมือถือ ทั้งใน Apple หรือ Android จะมีโหมดหนึ่งที่เรียกว่า do not disturb เป็นโหมดระงับการแจ้งเตือนชั่วคราว หากต้องการโฟกัสที่งานจริง ๆ ควรใช้โหมดนี้
อีกเครื่องมือหนึ่งที่น่าสวนใจที่ทั้งใน Apple และ Android มี ใน Android จะชื่อ Digital Wellbeing ส่วน iOS ให้คุณเข้าไปที่ Setting และไปที่ Screen Time เครื่องมือนี้จะช่วยวิเคราะห์ว่าวันหนึ่ง ๆ คุณใช้เวลากับโทรศัพท์นานแค่ไหนและทำอะไรบ้าง เช่น เปิดหน้าจอ แชท ใช้โซเชียลมีเดีย นานแค่ไหน ฟีเจอร์พวกนี้จะทำให้รู้ว่าเราเสียใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง
ความดีเด่นของมันก็คือ มันตั้งค่าเพื่อควบคุมเวลาการใช้งานได้อีกด้วย ไม่ใช่แค่การควบคุมตัวเราเองแต่ยังสามารถควบคุมเวลาของเด็ก ๆ ได้อีกด้วย เวลาคือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการควบคุมเด็ก ๆ นี่ก็ถือการแฮกวิธีการหนึ่งในเช่นกัน
4. สมดุลของงาน เราควรต้องรู้จักการแบ่งงานในแต่ละวัน งานแบบไหน มากหรือน้อย ยากหรือง่าย ต้องเสร็จเดี๋ยวนี้หรือยังไม่ต้องก็ได้ แอพพลิเคชันพวก Tools ที่เป็นเครื่องมือต่าง ๆ ที่เอามาใช้ได้
นอกจากนี้การแฮกชีวิตตัวเองในเรื่องอื่น ๆ นอกจากที่เล่ามา เช่น การกิน บางคนกินแบบ Intermittent Fasting แบบคีโต หรือการกินที่ต้องควบคุมเวลา คุณสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันที่ช่วยควบคุมเวลาในเรื่องเหล่านี้โดยตรงมาใช้ได้เลย หรือเรื่องการนอน Apple Watch หรือ Smart Watch รุ่นใหม่ ๆ สามารถตรวจสอบชั่วโมงในการนอนของเราว่าเป็นอย่างไร แถมรุ่นใหม่ ๆ สามารถบอกปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายได้รับได้อีกต่างหาก จะทำให้เรารู้ว่าเรานอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
นี่แหละครับ เทคโนโลยีใกล้มือคุณมาก มีอยู่หลากหลายที่สามารถแฮกช่วยชีวิตคุณได้เยอะ อยากให้ลองใช้ดู ใช้ไม่อยาก สามารถศึกษาวิธีใช้ได้ง่ายมาก ผมว่าลองค้นดูจะเจออีกหลายอย่างที่จะทำให้คุณตกใจว่าทำไมถึงไม่เอามาใช้ อยู่ใกล้มือมากขนาดนี้