ความตายของพริตตี้มีความหมาย
การเสียชีวิตของพริตตี้ น้องวาวา เมื่อ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้เขียนเศร้าสลดใจมาก นึกถึงการเสียชีวิตของ น้องลัลลาเบล เมื่อกลางปี 62
แม้จะต่างวาระ แต่ความคล้ายคลึงของเหตุการณ์ทั้งสอง ทำให้ต้องมองกว้างออกไปถึงสังคมของคนเป็นที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเธอทั้งสองผู้วายชนม์ไปอย่างไม่ปรกติ ไม่ถึงวัยอันควร
ทุกชีวิตมีความหมายเสมอกัน การเสียชีวิตของพริตตี้ทั้งสองโดยเฉพาะการเสนอข่าวสารสี่ห้าวันหลังจากนั้นทำให้ผู้เขียนนึกไปถึงความตายของอิวาน อิลลิช นวนิยายขนาดสั้นเรื่องหนึ่งของนักเขียนชาวรัสเซียนามกระเดื่องโลก ลีโอ ตอลสตอย (1826-1910 ) สิทธิชัย แสงกระจ่าง ได้แปล The Death of Ivan Ilych ภาคภาษาไทย ไว้ตั้งแต่ก่อนปี 2512 ซึ่งเป็นการพิมพ์ครั้งที่สอง
ตอลสตอยเปิดฉากนวนิยายเรื่องนี้ด้วย ความตายของผู้พิพากษา นามว่า อิวาน อิลลิช เพื่อเปิดให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมความจอมปลอมทางด้านจิตใจของสังคมรัสเซียขณะนั้นโดยแสดงผ่านผู้คนที่อยู่รอบ ๆตัวผู้วายชนม์นั้นเอง
ในงานศพวันแรก ภรรยาของผู้พิพากษานั้นหรือในใจกังวลอยู่เรื่องเดียวว่ามิตรสนิทของสามีในวงการศาลจะให้คำปรึกษาเธออย่างไรในการเขียนคำร้องขอบำเหน็จบำนาญให้กับแม่หม้ายอย่างเธอ ส่วนเพื่อนๆที่เป็นผู้พิพากษาในศาลเดียวกัน ต่างก็พากันมาเคารพศพกันถ้วนหน้า โดยปากพูดว่าเสียใจ แต่ในหัวกำลังคิดถึงตำแหน่งผู้พิพากษาที่ว่างลง...ใครหนอจะได้เลื่อนชั้นมากินตำแหน่งนี้ บ้างก็รู้สึกอยู่ในใจว่า อ้อ ดีแล้วที่ความตายครั้งนี้ยังไม่ใช่ความตายของตนเอง ฯลฯ
ด้วยความตายของอิวาน อิลลิช นี้เอง ตอลสตอยได้วิพากษ์สังคมคนรัสเซียส่วนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่อย่างจอมปลอม ไร้ความรู้สึก ไร้เมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทั้ง ๆที่ท่านผู้พิพากษาอิวาน อิลลิชถึงแก่กรรมอย่างไม่คาดฝัน เริ่มมาจากอุบัติเหตุเล็ก ๆในบ้านตอนติดตั้งซ่อมม่าน
แต่กระนั้นความตายของท่านก็ไม่ได้ทำให้ใครแปลกใจ หรือกระทบกระเทือนความรู้สึกของใครเลย ทุกคนหัวใจด้านชากับการพลัดพรากที่ตามวิสัยมนุษย์ย่อมกระทบกระเทือนจิตใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย กระทั่งว่าแม้คนครอบครัวตลอดจนในหมู่มิตรสหายของท่านผู้พิพากษา ต่างจมอยู่แต่ในปลักผลประโยชน์ตัวเอง
มีเพียงคนคอยรับใช้ดูแลอิวาน อิลลิช ตอนอาการเริ่มแย่ลงจนกระทั่งเสียชีวิตเท่านั้นที่ยังคงมีความเป็นมนุษย์ มีความรู้สึกรู้สาช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของอิวาน อิลลิช พร้อม ๆกันนั้นก็ยอมรับความตายของอิวาน อิลลิชอย่างเป็นปรกติของชีวิต ไม่มีถ้อยคำกริยาแสดงความโศกเศร้าด้วยมารยาทและความสุภาพตามแบบฉบับความจอมปลอมและศีลธรรมตกต่ำของ "ชนชั้นกลาง" ซึ่งแสดงออกมาท่วมท้นในระหว่างงานศพ
ตอลสตอยมีกำเนิดอยู่ในชนชั้นสูงก็จริง เป็นเจ้าที่ดินมีทาสติดที่ดินมากมายซึ่งก็มีที่ทาสประเภทนี้เสียชีวิตระหว่างทำงาน แต่ในช่วงที่เขาย่างสู่วัยสูงอายุ ได้กลายมาเป็นผู้วิพากษ์และรังเกียจความจอมปลอมของ "ชนชั้นสูงชนชั้นกลาง"ในรัสเซียขณะนั้นอย่างสุดโต่ง ในนวนิยายขนาดยาวเรื่อง สงครามและสันติภาพ เขาทำให้เห็นว่าแม้ความตายในสงครามทั้งหมดก็เป็นเรื่องไม่สมควรเกิดขึ้น ในวัยหนุ่มเขาเคยปล่อยทาสติดที่ดินจำนวนหนึ่งให้เป็นอิสระ
แล้วเราในสังคมไทยวันนี้ เรารู้สึกอย่างไร จะทำความเข้าใจการเสียชีวิตอย่างไม่ปรกติของผู้ประกอบอาชีพ "เอนเทอร์เทน" ในสังคมของเราอย่างไร
เราควรจะรู้สึกอย่างไรกับการที่ผู้คนกลุ่มหนึ่งมีเงินมีบ้านมีทรัพย์ซื้อสารเสพติดมาจัดงานสังสรรค์จ้างคนมาเพราะต้องการ "เอ็นเทอร์เทน" ถึงขนาดที่ในกระบวนการนี้ ผู้มา 'เอ็น' ต้องจ่ายด้วยราคาชีวิต
ความตายด้วยสาเหตุที่ไม่ปรกติดังกล่าวยังได้เปิดให้เห็นถึงการเข้ามา "ช่วยเหลือ"และ"ทำงาน" ของบุคคลอีกหลายอาชีพ เช่นทนายความอาสา ตำรวจ ผู้สื่อข่าวหลากหลายสกุลหลายสำนัก
ในขณะที่ตำรวจมีการพัฒนาขึ้นบ้างแล้วในการให้ข่าวสารเมื่อเทียบกับในอดีต แต่การ "เสนอข่าว "ของสื่อมวลชนนั้นสิ ยังล้าหลังเอามาก ๆ ส่วนใหญ่เสนอข่าวอย่างเร้าใจโดยเฉพาะทางสื่อมีภาพมีเสียง เล่ากันอย่างเมามันราวกับเป็นเรื่องมหรสพที่ต้องติดตามชม ปลุกความใคร่รู้ใคร่เห็นความตื่นเต้นแบบนิยายฆาตกรรม มีหลายภาพทั้งจากการถ่ายทำในโรงพยาบาล การใช้โลงที่บรรจุศพให้เป็นเป้าสายตาในบริเวณที่ไม่เหมาะสม
ตลอดจนการตัดต่อจากภาพจริงที่น่าจัดว่าเป็น "ทัศนะอุจาด" ที่กระทำต่อผู้วายชนม์ การที่ผู้วายชนม์ยังไม่มีญาติมิตรมาปกป้องร่างกายเธอเมื่อหาชีวิตไม่แล้ว ทำให้เธอทั้งสองตกเป็นเหยื่อความรุนแรงซ้ำสองอย่างง่ายดาย สาธารณชนสามารถดูภาพข่าวดังกล่าวได้ครั้งแล้วครั้งเล่าบนจอมือถือ
วัฏจักรความรุนแรงเช่นนี้จะดำเนินซ้ำซากต่อไปอีก หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง
๘ มีนา วันสตรีสากลปีนี้ ความรุนแรงที่กระทำต่อสตรีโดยเฉพาะร่างกายของสตรี ยังเป็นหัวข้อสำคัญในประเด็นที่องค์การสหประชาติกำหนดรณรงค์พร้อมกันทั่วโลก คือ สตรีในการเป็นผู้นำ : สู่อนาคตที่เสมอภาคในโลกหลัง โควิด 19
ยุทธวิธีและแผนปฏิบัติการเพื่อความเสมอภาคระหว่างเพศยังเป็นวาระที่ต้องค้นหาอย่างมีจินตนาการไม่รู้จบและลงมือปฏิบัติการทันทีในทุกด้าน อย่างเช่น เราควรวัดผลให้ได้ว่าการที่รัฐสภาทั่วโลกในวันนี้มีสมาชิกสตรีเพิ่มมากขึ้น ได้ส่งผลการเปลี่ยนแปลงใดบ้างในด้านความเสมอภาคทางการงาน โอกาส และการเข้าถึงทรัพยากรทั้งในยามปรกติและเนื่องจากโรคระบาดตลอดจนความรุนแรงที่กระทำต่อสตรี
สถิติของโลกในด้านความก้าวหน้าของสตรีในปี 2019 แสดงว่าโดยเฉลี่ยผู้หญิงหนึ่งในสามคนถูกกระทำความรุนแรง !