แจ็ค หม่า ดารา และการเมือง
นโยบาย “ก้งถงฟู่ยู่” (共同 富裕) หรือ “รุ่งเรืองร่วมกัน” ที่ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ต่างดาหน้ากันออกมาส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่องนั้น อาจกล่าวได้ว่าผู้ที่ถูกหวยไปก่อนใครเพื่อน น่าจะเป็น แจ็ค หม่า แห่ง Alibaba Group เจ้าพ่อ e-commerce คนดังของจีน
ซึ่งแต่เดิมนั้น เข้าใจกันว่าเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความปากกล้า แต่ทำไปทำมา Tencent ของอภิมหาเศรษฐีหม่า ฮั่วเถิง ซึ่งเป็นคนที่แสนจะเก็บเนื้อเก็บตัว และอีกหลายบริษัทขนาดใหญ่ก็ทยอยโดนหางเลขตามกันมาเป็นทิวแถว
แม้ว่าจะมีเหตุผลและที่มาที่ไปที่แตกต่างกันในรายละเอียด แต่โดยรวมแล้ว ก็คือ นโยบายการลดอิทธิพลของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก ลดการเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยการกระตุ้นให้บริษัทเอกชนปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในการทำงาน เพิ่มสวัสดิการและความปลอดภัย รวมถึงสนับสนุนให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายนำผลกำไรกลับคืนสู่สังคมผ่านการบริจาคเงิน และจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
นอกจากภาคธุรกิจ และตลาดหุ้นจะสั่นสะเทือนอย่างที่เราเห็นกันก่อนหน้านี้แล้ว ภาคการเมืองก็เกิดแรงสั่นสะเทือนในระดับสูงด้วยเช่นกัน โดยเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการแถลงว่า นายโจว เจียงหย่ง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประจำมณฑลเจ้อเจียง (ซึ่งมีเมืองหางโจว อันเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มอาลีบาบา และบริษัทเอกชนจีนขนาดใหญ่อื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก) อยู่ระหว่างการถูกสอบสวนในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายและวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์อย่างร้ายแรง ข่าวนี้ทำเอาช็อคกันไปทั่วทั้งประเทศจีน เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าหางโจวเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นของประธานาธิบดี สี่ และนายโจว ก็ถือเป็นสายตรงและวงในด้วย
หลายคนคาดการณ์ว่าการที่นายโจว ครองตำแหน่งสำคัญของเจ้อเจียง อันเป็นฐานที่มั่นของแจ็ค หม่า ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองคนต้องมีความรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดียิ่ง มักคุ้นกันจนถูกกล่าวหาจากสื่อฮ่องกงว่าคนในครอบครัวของเขาได้รับหุ้นของ Ant Group ก่อนเข้า IPO ซึ่งทาง Ant ก็ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธอย่างทันควัน ซึ่งไม่ว่าผลการสอบสวนจะเป็นอย่างไร ก็อาจถือได้ว่านายโจวได้รับกรรมจากการเป็นเพื่อนแจ็ค หม่า ไปเป็นรายแรก
ถัดมาอีกไม่เกินสัปดาห์ เจ้าเหว่ย ดาราเจ้าบทบาทระดับเจ้าแม่ของวงการบันเทิงจีนที่นอกจากจะโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนไทยในละครโทรทัศน์เรื่อง “องค์หญิงกำมะลอ” และภาพยนตร์ขึ้นหิ้ง “สามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ” รวมถึงหนังดังระดับเอเซียอีกจำนวนมากแล้ว เธอยังเป็นนักลงทุนรายแรกๆที่เข้าถือหุ้น Alibaba Pictures Group และมีการลงทุนอื่นๆร่วมกับแจ็ค หม่า อีกด้วย ปลายเดือนที่ผ่านมา ผลงานของเจ้าเหว่ยถูกลบออกจากสตรีมมิ่ง แพลตฟอร์มจีนทุกช่องทาง ชื่อก็ถูกลบออกจากรายชื่อผู้แสดง (แม้แต่ในผลงานที่ตนเองเป็นผู้แสดงนำก็ตาม) โดยไม่มีการแถลงถึงสาเหตุที่แน่ชัด ปล่อยให้จีนมุงคาดเดากันไปต่าง ๆนา ๆ
อันที่จริงเจ้าเหว่ยเองมีชื่อเสียงในแวดวงการเงินที่ไม่ค่อยดีนัก โดยในปี 2561 เธอเคยถูกตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 5 ปี แต่เธอก็ยังคงใช้ชีวิตในวงสังคมอย่างเป็นปกติจนมาถึงครั้งนี้ และกลายเป็นอีกรายที่ถูกซุบซิบว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากการเป็นเพื่อนแจ็ค หม่า รายล่าสุด
นักวิเคราะห์บางรายมองว่านี่อาจไม่ใช่เรื่องของการเช็คบิลใครคนใดคนหนึ่ง แต่น่าจะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู แต่เผอิญว่าไก่ที่ถูกเลือกมาบูชายัญเพื่อแสดงความเอาจริงของรัฐบาลกับนโยบาย “รุ่งเรืองร่วมกัน” นั้นเป็นไก่ e-commerce (รวมถึงไก่เรียกรถ ไก่ส่งอาหาร ไก่กวดวิชา ไก่เล่นเกมส์ ฯลฯ)
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ครั้งนี้วงการบันเทิงจีนก็ถูกสังคายนาไปพร้อม ๆกัน และมีผลใช้บังคับแบบสายฟ้าแลบ เช่น ห้ามจัดการแข่งขัน Idol ห้ามการเรียก Vote จากแฟนคลับหรือเรียกให้ซื้อของที่ระลึกนักแสดง ห้ามจัดอันดับดารายอดนิยม ห้ามการออกโทรทัศน์ของนักแสดงชายที่แต่งหน้า หรือมีกริยาคล้ายหญิง ห้ามการอวดรวย ความรุนแรง ประหลาด ของเน็ตไอดอล เป็นต้น
ใครหลายคนที่เคยคิดว่าตนเองเข้าใจจีนดี หนนี้อาจต้องกลับไปคิดทบทวนกันใหม่อีกครั้ง