โดนใจ "คนละครึ่งแสนล้าน" ประชาชน 25 ล้านคน ควักตังจ่าย 5.3 หมื่นล้าน
เปิดมุมมอง โดนใจ "คนละครึ่งแสนล้าน" ประชาชน 25 ล้านคน ควักตังจ่าย 5.3 หมื่นล้าน
มาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์เพื่อแก้วิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น
ต้องยอมรับว่า โครงการ "คนละครึ่ง" สามารถช่วยให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายและพยุงร้านค้าให้มีรายได้ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจจากภาวะโรคระบาด
ดังที่ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อกรณี มาตรการช่วยเหลือของรัฐในช่วงโควิด-19 กลุ่มตัวอย่างระหว่างวันที่ 18-21 ตุลาคม 2564
พบว่าภาพรวม ประชาชนพอใจมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ คิดเป็น 49.81% โดยพึงพอใจมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 มากที่สุด คิดเป็น 78.66%
สวนดุสิตโพล ระบุด้วย ผลการสำรวจ ประชาชนเทใจให้มาตรการ “คนละครึ่ง” มากที่สุด เพราะเป็นเงินที่เข้ากระเป๋าโดยตรงเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรการอื่น ๆ
ถึงจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายมากนัก แต่ก็ช่วยประคับประคองให้มีระดับการบริโภคเท่าเดิม เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่แน่นอนทำให้ประชาชนต้องวางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาจึงนับว่าเป็นการเยียวยาประชาชนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้อยู่บ้าง
อ่านข่าว : สวนดุสิต โพล เผย "ประชาชน" ชอบ "คนละครึ่ง" หนุน "รัฐ" เร่งคุมราคาสินค้า
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมองว่า รัฐบาลประเมินความต้องการของประชาชนตรงกับผลโพลสำรวจ โดยก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 42,000 ล้านบาท สำหรับ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3
โดยประชาชนได้รับสิทธิสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าและบริการทั่วไป รวมทั้งสามารถซื้ออาหาร และเครื่องดื่มจากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ผ่านผู้ให้บริการระบบ ขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน อีกจำนวน 1,500 บาทต่อคน โดยจะสนับสนุนเพิ่มในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม รวมรัฐสนับสนุนวงเงินให้ทั้งสิ้น 4,500 บาท/คน
สำหรับการใช้จ่ายตลอดระยะเวลาโครงการ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป สัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนไม่เกิน 28 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ลงทะเบียนใหม่และผู้ที่เคยได้รับสิทธิแล้ว
มาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ (23 ต.ค. 64) โครงการคนละครึ่ง มีผู้ใช้สิทธิสะสม 25.32 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 105,444 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 53,587 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 51,856 ล้านบาท
แน่นอนว่า คนละครึ่ง เป็นมาตรการที่ประชาชนสามารถจับจ่ายซื้อของอุปโภคบริโภคของใช้ในชีวิตประจำวัน จากร้านค้าตลาดสด ซึ่งต้องซื้ออยู่แล้ว แต่จ่ายถูกลงโดยรัฐช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง
ถือว่าเป็นมาตรการกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 25 ล้านคนจากเป้าหมายคนละครึ่ง เฟส 3 อยู่ที่ 28 ล้านคน
ขณะที่ รัฐบาลกำลังเดินหน้าเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายหนุนกำลังซื้อในประเทศ รวมถึงการจะกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด
ดังนั้น มาตรการคนละครึ่งที่โดนใจผู้มีรายได้น้อยจนถึงผู้มีรายได้ปานกลางแล้ว ควรต้องเร่งมาตรการที่เทียบเคียงกัน กระตุ้นผู้มีรายได้สูงให้ออกมากระตุ้นการจ้างงานในประเทศด้วย.