โควิด เงินเฟ้อ รัสเซีย : ลงทุนอย่างไรในยุควิกฤติ
วันนี้พฤหัสที่ 24 ก.พ. ปี 2565ผมมีนัดเอาคอมพิวเตอร์มาซ่อมที่ร้าน Apple ใกล้บ้าน ชานเมืองด้านเหนือของแอตแลนต้า พนักงานทุกคนเป็นหนุ่มสาว ส่วนใหญ่เป็นผิวสี บุคลิกร่าเริงคล่องแคล่ว
สวมหน้ากากทุกคน ส่วนลูกค้าในร้านประมาณ 75% สวมหน้ากาก บางคนเลือกที่จะไม่ใช้หน้ากากแล้ว เพราะนโยบายรัฐบาลท้องถิ่นเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวด ทั้งที่สถานการณ์โควิดยังน่าเป็นห่วงอยู่
พรุ่งนี้ CDC จะประกาศเป็นทางการผ่อนคลายการสวมหน้ากากทั้งสหรัฐฯ จากเหตุใหญ่คือต้องการลดความกดดัน และความเครียดของประชาชน ซึ่งบางส่วนยังปรับตัวยากอยู่เพราะคิดว่าโดนบังคับ และตัวเลขการติดเชื้อ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมาลดลงมาก
ขณะนี้ผู้ติดเชื้อในอเมริกาโดยเฉลี่ยต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา 77,673 คน ลดลง 39.5% จากสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เสียชีวิตโดยเฉลี่ยต่อวัน 1,926 คนลดลงมาจากสัปดาห์ที่แล้ว 17.4% ชาวอเมริกันที่รับวัคซีนไปแล้วสองเข็ม 64.8% และความกระตือรือร้นที่จะรับเข็มสามเริ่มซาลง
ธนาคารกลางของอเมริกา (FED) เคยส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ประมาณกลางเดือนมีนาคมเพื่อต่อกรกับเงินเฟ้อ 7.5% ต่อปี นักลงทุนและบริษัทใหญ่ต่างๆปรับตัวไปล่วงหน้า ราคาหุ้นทั้งตลาดในปี2565 ลดฮวบลงเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
APPLEเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหุ้นสูงสุดในโลก ที่ 2.66ล้านล้านดอลลาร์ ใครลงทุน1,000 ดอลลาร์ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว จะซื้อหุ้นของ Apple ได้ 321.62 หุ้น ซึ่งปัจจุบันจะมีมูลค่า 52,182 ดอลลาร์หรือคิดเป็นผลกำไรตอบแทนโดยเฉลี่ย 30.08% ต่อปี
พนักงานของAPPLEที่ต้อนรับดูแลเรื่องการซ่อมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรานัดหมายกันไว้ และไปถึงมีบริการทันทีโดยไม่ต้องรอ จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยวินิจฉัยปัญหา สรุปว่ายังอยู่ในช่วงประกันคุ้มครองและการซ่อมทุกอย่างจะฟรี ต้องใช้เวลาห้าถึงเจ็ดวัน และจะส่งคอมพิวเตอร์ไปให้ที่บ้าน พนักงานถามว่ามีอะไรจะให้บริการอีกหรือไม่ ผมยื่น iPhone ให้ดู บอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ เขาหยิบไปจัดการทำความสะอาด บริเวณช่องเสียบ และแนะนำวิธีการป้องกันเพื่อเลี่ยงปัญหาในอนาคต
จากการสนทนาเพิ่มเติม ทราบว่าตั้งแต่โควิดเริ่มต้นมา ช่วงไหนที่มีการระบาดอย่างรุนแรงทางบริษัท APPLEจะปิดร้านทันที พนักงานทุกคนสามารถทำงานจากบ้านได้ และบริษัทจัดงบประมาณบริการทุกอย่าง เรื่องโต๊ะทำงานและระบบสื่อสาร จัดสรรเวลาให้มีความยืดหยุ่นคล้องจองกับภารกิจในครอบครัว รายได้ไม่โดนตัดและสิ้นปียังมีโบนัสเพิ่ม
เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ร้านเปิดก็มีการเตรียมหน้ากากคุณภาพดี และชุดตรวจหาเชื้อให้พนักงานทุกคนใช้ และเอากลับบ้านได้โดยไม่จำกัดจำนวน การสื่อสารชัดเจน พนักงานทุกคนมีความรู้สึกว่าหัวหน้างานมีความใส่ใจและเป็นห่วง รับฟังความคิดเห็นของทุกคน และพวกเขารู้สึกว่าวัฒนธรรมของทั้งบริษัทเน้นถึงความสำคัญของคน มากกว่าเทคโนโลยีและผลงานทางธุรกิจ
ในฐานะผู้ถือหุ้นAPPLEมาเป็นระยะเวลานาน ผมออกจากร้านมาด้วยความภูมิใจ และถือโอกาสเขียนจดหมายถึงประธานกรรมการบริษัทและผู้บริหารบริษัท ระบุชื่อพนักงานทุกคนและหัวหน้าในร้านนั้น อยากให้ข้อมูลจากประสบการณ์จริงจากลูกค้าและผู้ถือหุ้น เป็นกำลังใจให้รักษามาตรฐานและพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติมตลอดเวลา
ตอนเช้าตรู่ของวันนี้ข่าวเขย่าโลกและสะเทือนตลาดหุ้นเรื่องรัสเซียบุกเข้ายูเครน ส่งผลให้ตลาดหุ้นดิ่ง ดาวโจนส์ตกไปกว่า 859จุด แต่ปิดตลาดที่เพิ่มขึ้น90จุด Nasdaq ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 3.3% ตามที่ร่วงไปตอนเช้า 3.5% ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแล้วก็ลดลง นักลงทุนบางคนตกใจ ขายก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง
สงครามระเบิด หุ้นร่วง แล้วทำไมฟื้นกลับคืนภายในวันเดียว ?
อาจเป็นไปได้ว่าวันนี้นักลงทุนสถาบันใหญ่ต่างๆเริ่มออกมาปรับท่าทีใหม่ว่า FEDคงจะไม่กล้าขึ้นดอกเบี้ย 0.5% แน่นอน และน่าจะเป็น 0.25% มากกว่า เพราะสถานการณ์ภูมิศาสตร์การเมืองตึงเครียดอย่างนี้ อีกครั้งหากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นผู้บริโภคก็จะมีกำลังการซื้อน้อยลง ซึ่งจะเป็นตัวคานเงินเฟ้อโดยอัตโนมัติ
และกำลังมีข่าวลือหนาหูว่า รัฐบาลจีนกำลังจะเพิ่มเงินเยียวยาอัดฉีดเศรษฐกิจ
สถาบันการเงินและบริษัทเทคโนโลยีในรัสเซีย กำลังโดนมาตรการลงโทษจากทางตะวันตก เงินทุนหนีจากบริเวณนั้นหาที่พึ่งใหม่ ตลาดหุ้นอเมริกาน่าจะได้ผลตอบแทน
ชาวยูเครนและผู้ที่ห่วงเรื่องความมั่นคงในระบบวิ่งหาที่พึ่งในคริปโต ทำให้แล้ววันนี้ราคาคริปโตพรุ่งขึ้น
ยากที่จะประเมินว่าเรื่องรัสเซียยูเครนจะลงเอยที่ไหน ผลจะเป็นเพียงแค่ปัญหาชั่วคราวในภูมิภาค หรือจะขยายวงกว้างสร้างอันตรายระดับโลก เพราะปัจจัยในปัจจุบันมีสิ่งแปลกใหม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ครั้งนี้เราได้เห็นสงครามเปิดเผยทางการทหาร เสริมกับกลยุทธ์แทรกทำลายทางดิจิตัล ในทางลับ และที่น่ากังวลที่สุดคือรัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์พร้อมที่จะใช้ หากเข้าตาจน
ภาวนาครับว่าการทูต ความมีเหตุผล มีสติและลดทิฏฐิ จะเข้ามาช่วยทันท่วงที ความเครียดของผู้บริโภคเริ่มตั้งแต่โควิดมาจนถึงเศรษฐกิจที่เปราะบาง การใช้โซเชียลมีเดียในทางลบ การยึดติดกับอุดมการณ์บางอย่างมากเกินไป ฯลฯ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดหลายประเด็น นอกจากลงทุนเรื่องสุขภาพกายและใจ เพิ่มเติมความรู้ ทักษะและความสมดุลย์ในครอบครัวและสังคมแล้ว การเลือกซื้อหุ้นในบริษัทที่มีมาตรฐานสูง โดยเฉพาะบริษัทซึ่งให้ความสำคัญกับคน และบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ไกล ปรับตัวทันกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย รู้จักใช้เทคโนโลยีเหมาะสม ระยะนี้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำราคาหุ้นกำลังถูก เป็นโอกาสเหมาะในการจัดแต่งปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอ เลือกบริษัทให้ถูกต้อง จิตใจหนักแน่น และมองผลระยะยาวครับ