จะโสดทั้งทีโสดให้สตรองกันดีกว่า

จะโสดทั้งทีโสดให้สตรองกันดีกว่า

การทำประกันชีวิตจะช่วยให้ใช้ชีวิตโสดได้อย่างอิสระ ไม่มีข้อจำกัดทางการเงิน ไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง แต่อนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และจับต้องไม่ได้ ดังนั้น การวางแผนการเงิน และมีแผนรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายได้อย่างมีความสุข เป็นคนโสดสูงวัยอย่างมีค่าไม่เป็นภาระให้สังคม

ในยุคที่คนหนุ่มสาวไม่นิยม การแต่งงาน และการมีลูก หลักๆ ที่มักจะถูกยกมาเป็นเหตุผล คือ รายได้ ค่าใช้จ่าย ค่านิยม (รักชีวิตอิสระ) และสภาพสังคมความเป็นอยู่

รายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 กล่าวถึง “สถานการณ์คนโสด” ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ (ช่วงวัยที่มีอายุ 15-49 ปี) ระบุว่าคนโสดทั้งหมดมีถึง 40.5% ซึ่งสูงกว่าภาพรวมในประเทศเกือบเท่าตัว และเพิ่มขึ้นจากปี 2560 โดยในจำนวนดังกล่าวกว่าครึ่งอยู่ในช่วงอายุ 15-25 ปี ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง และ 1 ใน 3 ส่วนมากเป็นผู้หญิงที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป อยู่ที่ร้อยละ 42.0 ซึ่งสูงกว่าผู้ชายเกือบเท่าตัว (ร้อยละ 25.7) 

นอกจากนี้ หากพิจารณาในกลุ่มคนมีคู่ ยังพบว่ามีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตร่วมกันมากขึ้น สะท้อนได้จากคนที่แต่งงานแล้ว ที่มีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 57.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 52.6 และจำนวนการหย่าร้างเพิ่มขึ้น ร้อยละ 22.0 จากปี 2560

ดังนั้น จะเป็นการดีกว่าไหมสำหรับคนที่มีแผนในอนาคต ว่าจะครองตัวเป็นโสด หรือไม่คิดจะมีลูกไว้ค่อยดูแล จะมองหาแผนรองรับชีวิตที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยไร้เรี่ยวแรงในอนาคตไว้บ้าง เพราะหากคุณเป็นคนโสดที่ยังมีพ่อแม่ พี่น้องต้องดูแล นั่นหมายความว่าคุณเป็นเสาหลักของครอบครัวพ่วงมาอีก 1 ตำแหน่ง และถ้าในอนาคตคุณป่วย หรือโชคร้ายเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นทั้งตัวคุณ และคนที่อยู่ในความดูแลจะเป็นอย่างไร จะส่งผลกระทบต่อการเงิน หรือชีวิตความเป็นอยู่ของคนรอบข้างอย่างไรบ้าง

ฉะนั้น หากคนโสดจะทำตัวให้โสดอย่างเข้มแข็ง และมีค่า ด้วยการวางแผนทางการเงิน และบริหารความเสี่ยง โดยโอนความเสี่ยงเหล่านั้นให้บริษัทประกันชีวิตดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินออมต้องพร้อม เพราะประกันชีวิตจะต้องออมอย่างมีวินัยเก็บออมทุกเดือน หรือทุกปี ออมกันไปเลยระยะยาวๆ ควรให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรงมีไว้อย่าให้พร่อง เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น หมายถึงสภาพร่างกายที่เสื่อมโทรมลง โอกาสที่โรคภัยจะมาเยือนจึงมีมาก ซึ่งมีเคล็ดลับนิดหน่อยว่าให้ซื้อเพิ่มเติมจากสัญญาประกันชีวิตโดยเลือกระยะยาวเข้าไว้ พิจารณาความคุ้มครองให้เพียงพอ และเหมาะสม พร้อมมองระยะยาวของการชำระเบี้ยประกันที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ถ้ามีกำลังซื้อทั้งในวันนี้ และอนาคต ควรเลือกแบบเหมาจ่าย เพราะค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นทุกวัน นอกจากนี้แล้วในอนาคตหากเจ็บป่วย ร่างกายมีตำหนิจะซื้อเพิ่มคงยาก ที่สำคัญการมีประกันสุขภาพจะช่วยให้เงินออมที่คุณมีอยู่ไม่สูญสลาย หายวับหากเจอวิกฤติสุขภาพโดยไม่ตั้งใจ

“ประกันแบบบำนาญ” อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่คนโสดควรมี และควรทำตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อว่าเมื่อเกษียณแล้วจะยังมีเงินใช้ดำรงชีพ ทั้งในเรื่องปัจจัย 4 และการดูแลตัวเองให้ชีวิตมีความสุข ประกันชีวิตแบบบำนาญจะให้เราจ่ายเบี้ยประกันภัยไปจนถึงอายุ 55 หรือ 60 ปี หลังจากที่เราเกษียณแล้วก็จะได้รับเงินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบกำหนดอายุที่ได้เลือกทำไว้ เช่น 85 ปี หรือหากเลือกรับเป็นบำเหน็จเงินก้อนก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์

ซึ่งเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระในรอบปีสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดระยะเวลาคุ้มครอง ตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป หากมีการจ่ายเงินคืนระหว่างสัญญา และเงินที่ได้รับคืนต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตรายปี จะสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระมาลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุดถึง 100,000 บาท และหากทำประกันภัยสุขภาพยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยสุขภาพตามจำนวนที่จ่ายจริงมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนประกันชีวิต แบบบำนาญสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท โดยต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้ ที่ต้องเสียภาษี 

อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป สามารถใช้สิทธิลดหย่อนประกันชีวิตแบบบำนาญได้สูงสุด 300,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ เมื่อนำไปรวมกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ ตามที่สรรพากรให้สิทธิ์

แต่ก่อนจะซื้อประกันก็ควรจะศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนถึงรูปแบบผลิตภัณฑ์ ความคุ้มครอง ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกัน ระยะเวลาเอาประกันภัย และเงื่อนไขกรมธรรม์ ซึ่งการเลือกแบบประกันต้องเลือกให้ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้แล้วควรซื้อประกันชีวิตกับช่องทางจัดจำหน่ายที่บริษัทกำหนด เช่น ตัวแทน หรือโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต เท่านั้น จากนั้นกรอกใบคำขอเอาประกันภัย และลงชื่อด้วยตัวเอง พร้อมแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาระสำคัญของการพิจารณาทำประกันภัย เช่น เรื่องสุขภาพ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีโต้แย้งในภายหลัง เมื่อชำระเบี้ยประกันภัยต้องเรียกรับใบเสร็จรับเงินทุกครั้ง และสุดท้ายเมื่อได้รับกรมธรรม์ประกันชีวิตแล้วให้ตรวจสอบข้อมูล ชื่อ สกุล วันที่รับประกันภัย ระยะเวลาความคุ้มครอง จำนวนเบี้ยประกันภัย ทุนประกันภัย เงื่อนไขความคุ้มครอง ซึ่งจะมีใบสรุปสาระสำคัญปะหน้าเล่มกรมธรรม์ จึงควรอ่าน และทำความเข้าใจก่อนเซ็นรับกรมธรรม์ หากกรมธรรม์ฉบับดังกล่าวไม่ตรงกับความต้องการสามารถยกเลิกได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ ซึ่งอาจจะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายคืนบ้าง เช่น ค่าตรวจสุขภาพ เป็นต้น

ขอขมวดสั้นๆ ให้เข้าใจกันง่ายๆ ว่า การทำประกันชีวิตจะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตโสดได้อย่างอิสระ ไม่มีข้อจำกัดทางการเงิน ไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง แต่อนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และจับต้องไม่ได้ ดังนั้น การวางแผนการเงิน และมีแผนรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายได้อย่างมีความสุข เป็นคนโสดสูงวัยอย่างมีค่าไม่เป็นภาระให้สังคม จะโสดทั้งทีโสดให้สตรองกันดีกว่าใช่ไหมคะ