กลยุทธ์ค้นหาโอกาสลงทุนในตลาดหุ้น
3 ธีมคัดเลือกหุ้น เพื่อโอกาสลงทุนหุ้นที่มีศักยภาพที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย 1.หุ้นปันผล สร้างรายได้สม่ำเสมอ 2.หุ้น under value คุณค่าที่ซ่อนอยู่ และ 3.หุ้น new economy จับเทรนด์อนาคต
การลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้นยังไม่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นหรือยังไม่มีทิศทางชัดเจนเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโอกาสในการลงทุนจะไม่มีเลย หากแต่การลงทุนอาจต้องทำด้วยความระมัดระวังซึ่งแนวคิดหนึ่งในสภาวการณ์เช่นนี้คือ การปรับพอร์ตและคัดสรรหุ้นรายตัวจากกลุ่มที่มีศักยภาพ หรือเป็นหุ้นพื้นฐานดีแต่มีราคาต่ำเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน และอาจต้องมองการลงทุนในระยะที่ยาวขึ้น ในครั้งนี้ จึงขอรวบรวม 3 ธีมในการคัดเลือกหุ้น เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้สนใจนำไปศึกษาหาโอกาสลงทุนหุ้นที่มีศักยภาพที่อยู่ในตลาดหุ้นไทยต่อไป
‘หุ้นปันผล สร้างรายได้สม่ำเสมอ’ ข้อดีของการมีหุ้นปันผลอยู่ในพอร์ตลงทุน คือ จะช่วยสร้างกระแสเงินสดให้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งนี้ หลักสำคัญในการค้นหาหุ้นปันผล คือ เลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอและมีปัจจัยพื้นฐานดี เพื่อให้แน่ใจว่าการจ่ายปันผลนั้นมีความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำและเผยแพร่รายชื่อ “กลุ่มหุ้น Dividend Universe” ต่อเนื่องมาหลายปี เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลเป็นตัวช่วยในการเลือกหุ้นปันผลได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยได้คัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่มีการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง มีผลประกอบการดี มีกำไรสุทธิ มีสภาพคล่องในการดำเนินงาน และมีบรรษัทภิบาลที่ดี โดยเมื่อดูข้อมูลจากรายชื่อกลุ่มหุ้น Dividend Universe ปี 2567 ที่ใช้ชุดข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี (ปี 2562 - 2566) พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 141 บริษัท โดยกลุ่มหุ้นนี้มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 4.11% หรืออาจพิจารณาเบื้องต้นจากรายชื่อหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET High Dividend (SET HD) ก็ได้
‘หุ้น under value คุณค่าที่ซ่อนอยู่’ คือ หุ้นปัจจัยพื้นฐานดี ที่มีราคาซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน เรียกได้ว่าเป็นของดีที่ยังถูกมองข้าม สาเหตุที่ราคายังไม่สะท้อนมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานอาจเกิดได้จากหลายปัจจ้ย เช่น สภาวะตลาด บรรยากาศการลงทุน เป็นต้น การลงทุนในหุ้น under value นั้น จะมีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างราคา เมื่อราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จึงอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายการลงทุนระยะยาวด้วยราคาหุ้นอาจใช้ระยะเวลาในการปรับตัวสูงขึ้น สำหรับการคัดสรรหุ้น under value อาจพิจารณาได้จากหลายปัจจัย เช่น P/E (Price-to-Earnings ratios) P/B (Price-to-Book ratio) เป็นต้น โดยแต่ละปัจจัยก็จะมีข้อควรพิจารณาประกอบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการวิเคราะห์ด้วยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงและความคุ้มค่าของการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
‘หุ้น new economy จับเทรนด์อนาคต’ ธุรกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจยุคใหม่ หากพูดถึงหุ้นกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่อาจนึกถึงหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในต่างประเทศเป็นอย่างแรก แต่ที่จริงแล้ว มีบริษัทจดทะเบียนไทยไม่น้อยที่มีการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยมีจำนวนถึง 165 บริษัท หรือคิดเป็นประมาณ 20% ที่มีรายได้มาจากธุรกิจ new economy โดยในจำนวนนี้มี 44% ที่เป็นการดำเนินงานที่อยู่ในธุรกิจหลัก (core business) ของบริษัท จากการศึกษาข้อมูลการดำเนินของบริษัทจดทะเบียนพบว่า ธุรกิจ new economy ที่บริษัทจดทะเบียนไทยเข้าไปรุกดำเนินการส่วนใหญ่จะเป็นในด้าน Digital & E-Commerce รองมาคือ Medical for Future, Biofuels & Biochemical, Next-gen Automotive และเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ซึ่งการศึกษาข้อมูลลักษณะการประกอบธุรกิจและโครงสร้างรายได้ของบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้ อาจทำให้ผู้ลงทุนมีความเข้าใจและสามารถค้นหาหุ้นศักยภาพได้
ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลบริษัทจดทะเบียนได้จากรายงานประจำปีหรือ One report รวมถึงข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.set.or.th และ www.settrade.com และหากสนใจรับฟังผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าวพร้อมกับการวิเคราะห์และให้ข้อมูลในเชิงลึกสำหรับการลงทุนทั้ง 3 ธีมนี้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในมหกรรมลงทุน SET in the City 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง 15-16 มิถุนายน 2567 เวลา 10:00-19:00 น. ที่สามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งในงานจะมีสัมมนา เวิร์คชอป และบูธให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน และพันธมิตรอื่นๆ ที่จะนำเสนอแนวคิด “หาโอกาสในตลาดหุ้น สร้างพอร์ตลงทุนให้เติบโต” ให้กับผู้สนใจ สำหรับรายละเอียดติดตามได้ที่ www.setinvestnow.com/th/setinthecity2024