การตลาด “เนวิน” ร้อยยี่สิบ คละเกรด “งูเห่า” เหมาโหล

ภูมิใจไทยเข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้ง 3 ครั้ง “เนวิน” ไม่เคยเอาชนะพรรคนายเก่าทักษิณได้เลย อีเวนท์โชว์พลังดูด ก็แค่การตลาดการเมือง โต้กระแสแลนด์สไลด์

อีเวนท์โชว์ตัว ส.ส. 34 คน หรือตลาดนัดนักเลือกตั้ง ที่มาพร้อมกับใบลาออก ส.ส. เหมือนการขายสินค้าคละเกรด นี่คือกลยุทธ์การตลาดสไตล์ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ชาวพรรคสีน้ำเงิน

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พยายามอธิบายวาทกรรมการเมืองด้วยเสาเข็มของภูมิใจไทย แตกต่างจากแลนด์สไลด์ของเพื่อไทย แต่เมื่อเห็นใบหน้า ส.ส.เหล่านั้นที่ย้ายมาจาก 9 พรรค ก็มีทั้งเสาเข็มไม้ยูคาลิปตัส และเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง

จริงๆแล้ว กว่า 20 ส.ส.ในจำนวน 34 ส.ส. น่าจะเป็นเสาเข็มไม้ยูคาลิปตัส เจอพายุอุ๊งอิ๊งก็ซัดถอนรากถอนโคน พังราบยกจังหวัด

ย้อนไปวันที่ 4 ต.ค.2565 เป็นวันเกิดครบรอบปีที่ 64 ของเนวิน ชิดชอบ ก่อนเริ่มพิธีปะกำช้าง เนวินพูดคุยหยอกล้อกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยว่า “รอบหน้าให้ได้ 120 คน เท่ากับอายุหมอช้างที่มาทำพิธีในวันนี้”

ตัวเลข 120 ที่นั่ง จึงกลายเป็นหมุดหมายของภูมิใจไทยไปโดยปริยาย และช่างบังเอิญตรงกับฉายา “ร้อยยี่สิบ” ของเนวิน เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว

นับแต่ปี 2563 มี ส.ส.จากหลายพรรคย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ประมาณ 45 คน โดยรวมทั้ง 11 คนที่ถูกพรรคเดิมขับออกมา และย้ายช่วงที่มีการยุบพรรคอนาคตใหม่

งูเห่าสีส้ม
 

ครูใหญ่ “เนวิน” ก็รู้ดีว่า ส.ส.ที่ย้ายมากลุ่มก้อนใหญ่คือ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จำนวน 15 คน ซึ่งใครก็รู้ว่า ส.ส.เหล่านี้ ขี่กระแสธนาธรเข้าสภาฯ

ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 เป็นคนแรกที่ย้ายจากอนาคตใหม่ มาสู่ภูมิใจไทย และเป็นที่มาของฉายา งูเห่าสีส้ม

หลังเกิดเหตุยุบพรรคอนาคตใหม่ ก็มี ส.ส.อีก 9 คน แยกเป็น 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อคือ วิรัช พันธุมะผล และสำลี รักสุทธี นอกจากนั้นเป็น ส.ส.เขต ได้แก่ เอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1,กฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ เขต 2,ฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1,กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1,ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต 10,โชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม.เขต 23 และอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 

ส่วน ส.ส. 5 คน ที่ฝากเลี้ยงไว้ในพรรคก้าวไกล และเพิ่งลาออกมาคือ เกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี ,คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย

ส.ส.ที่มาพร้อมกระแสอนาคตใหม่ รู้ชะตาตัวเองดีว่า จะถูกประชาชนสั่งสอนอย่างไรบ้าง ทั้ง 15 คน ก็น่าจะทำได้แค่สะสมคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรค โอกาสจะชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.เขต ค่อนข้างยาก

บ้านใหญ่ขาสั่น

3 ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยชุดแรกๆ ที่ประกาศตัวยืนข้างพรรคภูมิใจไทย จนเกิดปฏิบัติการตอบโต้ที่เรียกว่า ยุทธการไล่หนูตีงูเห่า ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

แรงสั่นสะเทือนของอุ๊งอิ๊ง หลังยกทัพไปไล่หนู ส่งผลให้เกิดกระแสต้าน ส.ส.งูเห่ามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 และจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 สามีของอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ ต้องปรับขบวนใหม่

เดิมที เขต 4 (อ.กันทรลักษณ์) หมอจาตุรงค์ จะส่งลูกสาว เจน-จิณณพัต เพ็งนรพัฒน์ ลงสนาม ก็ต้องเปลี่ยนเป็น อุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ 

อุดมลักษณ์ เป็นน้องสาวของวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ และในการเลือกตั้งปี 2554 อุดมลักษณ์ ฝ่าพายุยิ่งลักษณ์เข้าสภาฯ ในสีเสื้อภูมิใจไทย ด้วยอาศัยฐานเสียงตระกูลไตรสรณกุลล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับพรรค

สมัยหน้า อุดมลักษณ์ต้องเจอคู่ปรับเก่า นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย จึงไม่ประมาท

ทำนองเดียวกัน เขต 5 (อ.ขุนหาญ) ธีระ ไตรสรณกุล จะส่งลูกสาว อีฟ-จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ลงสนามแข่งกับ อมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นธีระ ต้องลงสนามเอง

กระแสอุ๊งอิ๊งดีวันดีคืนในสมรภูมิศรีสะเกษ เป็นโจทย์ใหญ่โจทย์ยากของภูมิใจไทยที่วาดฝันจะชนะยกจังหวัด ขนาดผู้แทนฯ จอมเก๋าอย่างปวีณ แซ่จึง เจ้าพ่อราษีไศล ยังขาสั่น 

นกแลไร้รัง

มีผู้สังเกตว่า ส.ส.พลังประชารัฐ 13 คนที่ย้ายมาภูมิใจไทย ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.สมัยแรก และเป็น ส.ส.ประเภทนกแล 

อย่าง ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม นักการเมืองท้องถิ่นที่โชคดีได้กระแสลุงตู่ จึงเอาชนะบ้านใหญ่ อนุชา สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม หลายสมัยไปได้

สจ.เปี๊ยก-สุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี และกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี ได้รับการสนับสนุนจากนายกปราย-ชัยยะ อังกินันทน์ นายก อบจ.เพชรบุรี บวกกับกองเชียร์เสื้อเหลืองเมืองเพชร จึงโค่น ปชป.ได้

ตอนหลัง สุชาติ อุสาหะ หนีซุ้มอังกินันทน์ ไปสังกัดผู้กองธรรมนัส และวิรัช รัตนเศรษฐ เมื่อ 2 ป.แยกทางกัน สจ.เปี๊ยก จึงวิ่งไปค่ายบุรีรัมย์ 

สมัยหน้า ชัยยะ อังกินันทน์ นายก อบจ.เพชรบุรี ได้จัดทีมผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ลงแข่งกับทีม สจ.เปี๊ยก เรียบร้อยแล้ว แต่จะสังกัดพรรคไหน ต้องรอวันเปิดตัว

ประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี เขต 1  ได้รับการสนับสนุนจาก จำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี และเสียงสนับสนุนจากค่ายทหารในลพบุรี 

ต่อมา มัลลิการ์ จิระพันธุ์วาณิช ส.ส.ลพบุรี เขต 2 ภูมิใจไทย ดึงประทวนมาอยู่พรรคเดียวกัน เนื่องจาก จำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี หันไปหนุนเสี่ยหน่อง-สิทธิชัย หล่อประสงค์สุข ลงสมัคร ส.ส.ลพบุรี เขต 1 พรรคเพื่อไทย

ดังนั้น ส.ส.สมัยแรก พลังประชารัฐ ที่เป็นดาวเคราะห์ ไม่ใช่ดาวฤกษ์ จึงเสี่ยงสอบตกมากกว่า ส.ส.บ้านใหญ่ตัวจริง     

นรกในเมืองหลวง

12 ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ฉีกโพลทุกสำนักเข้าป้ายเป็น ส.ส.เพราะแคมเปญความสงบจบที่ลุงตู่ ซึ่งในชั่วโมงนี้ กระแสลุงตู่ตกวูบ จึงไม่แปลกใจที่ ส.ส.กทม.ทั้งหมด จะทิ้งลุงป้อมไปตายดาบหน้า 

พรรคภูมิใจไทย แอบหวังลึกๆ จะปักธงกลางเมืองหลวงมาแต่สมัยที่แล้ว ด้วยการระดมอดีต สก.เกรดเอ ลงสนาม แต่ก็ไปไม่รอด

เที่ยวนี้ อนุทิน ฝากความหวังไว้กับ บี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดีอีเอส และอดีตแกนนำพลังประชารัฐ ที่เคยดูแลพื้นที่เลือกตั้ง กทม. จะเข้ามาเป็นคีย์แมนภูมิใจไทย เพื่อปั้น ส.ส.กทม.ในเสื้อสีน้ำเงิน

ตอนนี้ เสี่ยบี พุทธิพงษ์ ได้ 3 ส.ส.กทม. มานำร่องสร้างฐาน กทม. อย่าง ส้ม- พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (ปทุมวัน บางรัก สาทร) ,จักรพันธ์ พรนิมิต (บางกอกน้อย บางพลัด) และกษิดิ์เดช ชุติมันต์ (ลาดพร้าว วังทองหลาง)

ใครก็รู้ว่า สมรภูมิกรุงเทพมหานครนั้น แพ้ชนะกันที่กระแสพรรค และกระแสการเมือง ในสถานการณ์ช่วงเวลานั้น เมื่อเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ จะเป็น ส.ส.มากี่สมัย ก็สอบตกได้หมด 

ภูมิใจไทย เป็นพรรคที่ไม่ได้ขายกระแสมาตั้งแต่แรก ภาพจำของผู้คนคือ พรรคบ้านใหญ่ พรรคเนวิน พรรคบุรีรัมย์ ฉะนั้น พ.ศ.นี้ แกนนำค่ายสีน้ำเงิน จึงขายวาทกรรมตอกเสาเข็มสู้แลนด์สไลด์

เนื้อแท้ของคำว่าตอกเสาเข็ม ก็คือกลยุทธ์หนึ่งในระบอบธนาธิปไตย ซึ่งพรรคการเมืองที่ไม่มีแบรนด์ ไม่มีกระแส ต้องยึดแนวทางนี้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ประชาชนจะให้คำตอบในคูหาเลือกตั้ง