ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

ปักธงกลางใจคนเสื้อแดง “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” ขึ้นเวทีปราศรัยกลางแจ้งครั้งแรกที่อุดรธานี ส่งสัญญาณกวาด ส.ส.อีสาน 132 ที่นั่ง

นับแต่ยุคไทยรักไทย จนมาถึงเพื่อไทย ยังไม่มีพรรคใดมาแย่งแชมป์ ส.ส.อีสาน จากทักษิณ ชินวัตร ไปได้

การเลือกตั้งสมัยหน้า อุ๊งอิ๊งหรืออิงค์ กำลังเดินตามรอย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างกระแสนารีขี่ม้าขาวภาคใหม่ ยึดแชมป์อีสานไปครองอีกสมัย

เย็นวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค.2566 แพทองธาร ชินวัตร ยกทัพครอบครัวเพื่อไทย ไปเปิดเวทีปราศรัยที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี ท่ามกลางคนเสื้อแดงอุดรฯ เรือนหมื่นที่มาจากทุกเขตทุกอำเภอ

การปรากฏตัวของ “อิ๊งค์” ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยบนเวทีปราศรัยกลางแจ้งสอดรับกับกระแสข่าวจากพรรคเพื่อไทย ที่วางแผนเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในช่วงเดือน ก.พ.หรือ มี.ค.นี้ โดยพรรคจะส่งรายชื่อครบทั้ง 3 คน

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

ที่ชัดแล้วคือ แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน ส่วนคนที่ 3 กำลังพิจารณาจะเลือกใคร ระหว่างชัยเกษม นิติสิริ กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว 

สาเหตุที่พรรคเพื่อไทย ประเดิมเวทีปราศรัยใหญ่ที่อุดรธานี ก็เพราะที่นี่เป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง สัญลักษณ์ทางการเมืองอันทรงพลัง

เหนืออื่นใด การเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 ตามกติกาใหม่ มี ส.ส. 400 เขตใหม่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี ส.ส.เพิ่มขึ้น จากเดิม 116 คน เป็น 132 คน เพิ่มขึ้นถึง 16 คน 

การเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ใช้กติกาบัตรใบเดียว ส.ส.ลดเหลือ 350 คน เฉพาะภาคอีสาน ส.ส.ลดเหลือ 116 คน ตอนนั้น พรรคเพื่อไทย ชูคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ยังเป็นแชมป์อีสาน ได้ ส.ส. 83 คน

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

สำหรับการเลือกตั้งปี 2566 กลับไปใช้กติกาบัตร 2 ใบ ส.ส. 400 เขต 400 คน ทำให้หลายคนนึกถึงการเลือกตั้งปี 2554 เพราะใช้กติกาเดียวกัน ซึ่งปีนั้น ภาคอีสาน มี ส.ส.จำนวน 126 คน พรรคเพื่อไทย กวาด ส.ส.มาได้มากถึง 104 คน

ที่เหลือพรรคภูมิใจไทย ได้ 13 คน, พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 4 คน, พรรค ปชป. 4 คน และพรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน

การเลือกตั้งครั้งใหม่ ส.ส.ภาคอีสาน จะเพิ่มขึ้นเป็น 132 เขต 132 คน ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังเป็นเต็งแชมป์อีสาน และมีแนวโน้มจะได้ ส.ส.มากกว่า 100 คนเหมือนปี 2554

อีสานเหนือลอยลำ

สมัยหน้า โซนอีสานเหนือ มี ส.ส.จำนวน 35 คน แยกเป็น อุดรธานี(9) ,หนองคาย (3) ,บึงกาฬ(3),หนองบัวลำภู(3),เลย(4),สกลนคร(7),นครพนม(4) และมุกดาหาร(2)

อีสานเหนือเป็นโซนแดงทั้งแผ่นดิน เพื่อไทยชนะยกจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ สมัยที่แล้ว มี ส.ส.ภูมิใจไทย แทรกเข้ามาได้แค่ 2 คนคือ ศุภชัย โพธิ์สุ นครพนม เขต 1 และธนยศ ทิมสุวรรณ เลย เขต 3

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ มีอยู่ 2 จังหวัดที่ภูมิใจไทย ทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ หวังชนะยกจังหวัดได้แก่ นครพนม และบึงกาฬ

เฉพาะสนามบึงกาฬ ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย แทบจะปักหลักอยู่ที่หัวเมืองชายโขงแห่งนี้ หลังดันภรรยา-แว่นฟ้า ทองศรี เป็นนายก อบจ.บึงกาฬสำเร็จ

แลนด์สไลด์สะดุด

โซนอีสานกลาง มี ส.ส.จำนวน  31 คน แยกเป็นขอนแก่น (11), กาฬสินธุ์(6),ร้อยเอ็ด(8) และมหาสารคาม(6)

จะว่าไปแล้ว โซนนี้ก็สีแดงเกือบทุกจังหวัด แต่สมัยที่แล้ว เพื่อไทยพลาดท่า ถูก พลังประชารัฐ ,อนาคตใหม่ และชาติไทยพัฒนา เบียดเจาะได้ 4 คน

ประเมินว่า เพื่อไทยจะมากวาด ส.ส.โซนอีสานกลางได้เป็นกอบเป็นกำอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตระกูลช่างเหลา ที่ย้ายไปอยู่ภูมิใจไทย ก็ไม่น่ารอด

ยกเว้น ส.ส.ฐานแน่น 2 คนคือ สมศักดิ์ คุณเงิน ขอนแก่น เขต 1 พลังประชารัฐและอนุรักษ์ จุรีมาศ ร้อยเอ็ด เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา น่าจะสอบผ่านอีกสมัย

ส่วนไทยสร้างไทยนั้น มีโอกาสได้ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 จาก วันเพ็ญ เศรษฐรักษา บ้านใหญ่ อ.ยางตลาด ที่ลงสนามมา 2 ครั้ง แพ้เพื่อไทย เพราะได้สีเสื้อไม่ดี หนนี้ ได้แบรนด์คุณหญิงหน่อย มีเสียงตอบรับดีกว่า ส.ส.อายุเยอะ ค่ายอุ๊งอิ๊ง

ท้าพิสูจน์เสาเข็ม
 

โซนอีสานใต้ ตอนบน มี ส.ส.จำนวน 25 คน แยกเป็นยโสธร(3), ศรีสะเกษ(9), อำนาจเจริญ(2) และอุบลราชธานี(11) 

สมรภูมิอีสานใต้ตอนบน ไม่ว่าพายุแลนด์สไลด์ปี 2548 หรือปี 2554 สนามอุบลฯ และศรีสะเกษ ทักษิณก็ไม่เคยกวาด ส.ส.ได้ยกจังหวัด

สมัยที่แล้ว ภูมิใจไทย,ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ ช่วงชิง ส.ส.ได้ 5 คน โดยเลือกตั้งครั้งหน้า ภูมิใจไทย น่าจะได้ ส.ส.โซนนี้ 8 คน

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

สนามอุบลฯ 3 คนคือ แนน-บุณย์ธิดา สมชัย (อ.พิบูลมังสาหาร), สุทธิชัย จรูญเนตร(อ.ตระการพืชผล) และเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ (อ.ศรีเมืองใหม่)

สนามศรีสะเกษ 4 คนคือ สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ (อ.เมืองศรีสะเกษ) , ปวีณ แซ่จึง (อ.ราษีไศล) , อุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ (อ.กันทรลักษณ์) และธีระ ไตรสรณกุล(อ.ขุนหาญ) 

สนามอำนาจเจริญ 1 คนคือ สุขสมรวย วันทนียกุล (อ.เมืองอำนาจเจริญ) เลขานุการ รมว.คมนาคม      

จุดอ่อนเพื่อไทย
 

สำหรับโซนอีสานใต้ ตอนล่าง จำนวน 41 คน แยกเป็นนครราชสีมา (16), ชัยภูมิ(7), บุรีรัมย์ (10) และสุรินทร์(8) 

การเลือกตั้งหนที่แล้ว เพื่อไทยเสียหายมากที่สุด ได้ ส.ส.แค่ 10 คน และครั้งหน้า ก็เจอทั้งภูมิใจไทย,พลังประชารัฐ และชาติพัฒนากล้า ที่จะเข้าแย่ง ส.ส.ในโซนนี้ไปให้มากที่สุด

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

สนามนครราชสีมา มี ส.ส. 16 คน เพื่อไทยมีความหวังมากขึ้น เมื่อเสี่ยแป้งมัน-วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล วางมือ แต่ปล่อยลูก-หลาน สังกัดเพื่อไทย และเตรียมลงสมัคร ส.ส.ในเขต อ.เสิงสาง และ อ.ปักธงชัย

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการเพื่อไทย ก็จัดทีมผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ เสริมทีม ส.ส.เก่า 3 คน ถ้ากระแสอุ๊งอิ๊งแรงจัด เพื่อไทยอาจได้ ส.ส.โคราช มากถึง 8 คน เหมือนปี 2554

วิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพลังประชารัฐ ตั้งความหวังที่จะได้ ส.ส.เพิ่มจากสมัยที่แล้วเพราะได้กำนันประนอม โพธิ์คำ เจ้าพ่อวังน้ำเขียว มาเสริมทัพ

ภูมิใจไทยของอนุทิน ชาญวีรกูล พบปัญหาใหญ่ เมื่อเสี่ยแป้งมัน ถอดใจไม่ขอร่วมวงไพบูลย์กับค่ายเดิม จากเดิมที่เคยมี ส.ส.โคราช 3 คน ก็สุ่มเสี่ยงเหลือแค่คนเดียว

สนามบุรีรัมย์ ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ คงต้องทำสถิติชนะยกจังหวัดอีกครั้ง และเที่ยวนี้ ส่งลูกชาย ไชยชนก ชิดชอบ ลงสมัคร ส.ส.เขต ยิ่งจะแพ้ไม่ได้

สนามสุรินทร์ ภูมิใจไทย มีโอกาสเพิ่มจำนวน ส.ส.ที่เคยได้แค่ 1 คน เป็น 2-3 คน เนื่องจากมีการคัดตัวนักการเมืองท้องถิ่นระดับบ้านใหญ่ลงสู้กระแสอุ๊งอิ๊ง

ทรงอย่าง “อิ๊งค์” ชิงยึด “อีสานแดง” 132 ที่นั่ง

ภาพรวมสมรภูมิภาคอีสาน มองในแง่กระแสความนิยมของประชาชน พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ได้เปรียบพรรคอื่น แต่จุดอ่อนของก้าวไกลคือ ตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ยังตกเป็นรองพรรคคู่แข่ง ฉะนั้น โอกาสก้าวไกล จะได้ ส.ส.เขตในภาคอีสาน คงเกิดขึ้นยาก

หากกระแสอุ๊งอิ๊งจุดติด เหมือนยุคนารีขี่ม้าขาว-ยิ่งลักษณ์ แดงทั้งแผ่นดิน โอกาสที่ ส.ส.ประเภทบ้านใหญ่ หรือเสาเข็ม จะสอบตกก็มีสูงยิ่ง