24 ปี บนทางการเมืองวิบาก 'ชนม์สวัสดิ์'

‘ชนม์สวัสดิ์’ เปิดศักราชใหม่ บ้านใหญ่อัศวเหม ยุค ‘บ้านขาว’ ในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า วางตัวทายาทการเมืองรุ่น 3 ทั้งหลานพ่อ และลูกพี่ชาย ให้ก้าวเข้ามานำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง 66 

นับแต่ วัฒนา อัศวเหม ออกจากเมืองไทยไปพำนักอยู่ในต่างแดน บ้านม้าทองคำ ถนนศรีนครินทร์ ก็เงียบเหงา ตรงกันข้าม ‘บ้านขาว’ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนท้ายบ้าน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจท้องถิ่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า บ้านใหญ่ปากน้ำ 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เสียชีวิต หลังหมดสติจากฮีทสโตรก

• เปิดประวัติ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ทายาทตระกูลม้าทองคำแห่งสมุทรปราการ

• จัดบ้านขาว รับศพ 'เอ๋ ชนม์สวัสดิ์' - ผู้นำชุมชนช็อก ชี้ทำให้สมุทรปราการเจริญ

• เพื่อนๆคนสนิทร่วมอาลัย 'เอ๋ ชนม์สวัสดิ์' เป็ก สัณณ์ชัย รับทำใจไม่ได้

 

ประวัติ

เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ปัจจุบันอายุ 55 ปี ทายาทตระกูลบ้านใหญ่ม้าทองคำ เป็นบุตรของ วัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง กับ จันทร์แรม อัศวเหม มีพี่ชาย 2 คนคือ พิบูลย์ อัศวเหม และ พูลผล อัศวเหม

ด้านการศึกษาจบปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เป็นที่รู้จักในนามของนักธุรกิจและนักการเมือง เคยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และเป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในชุดของพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก

ชีวิตคู่ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ แต่งงานครั้งแรกกับ ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องคนดัง และมีทายาท 1 คนคือ เพลง ชนม์ทิดา แต่อย่างไรก็ตาม เอ๋ มีข่าวความสัมพันธ์กับนักแสดงหญิงหลายคน อาทิ ใหม่ เจริญปุระ เมทินี กิ่งโพยม ชลดา เมฆราตรี ยศวดี หัสดีวิจิตร กระทั่งต่อมาเมื่อหย่าขาดจาก ตู่ นันทิดา ก็ได้แต่งงานอีกครั้งกับ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นักแสดงชื่อดัง

แต่ก็ยังปรากฏภาพความสัมพันธ์ในครอบครัวของชนม์สวัสดิ์ นันทิดา และบุตรสาว รวมทั้งในปี 2563 เขายังสนับสนุนให้ นันทิดา แก้วบัวสาย ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการด้วย ในปี 2564 นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ลูกพี่ลูกน้อง​ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25

ตำแหน่งสุดท้ายก่อนจากไปอย่างกระทันหัน ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เป็นประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ แต่ก็มีสถานะเป็นผู้นำ ‘กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า’ องค์กรการเมืองของตระกูลอัศวเหม

ครอบครัวอัศวเหม

60 ปีที่แล้ว วัฒนา อัศวเหม ลงเล่นการเมืองท้องถิ่น ก่อนจะได้รับเลือกเป็น ส.ส.สมุทรปราการ สมัยแรกปี 2518 จากนั้น วัฒนากลายเป็น สส. สมุทรปราการ 10 สมัย และเป็นรัฐมนตรี 6 กระทรวงในหลายรัฐบาล ก่อนที่จะลี้ภัยไปอยู่ต่างแดน 

วัฒนา อัศวเหม มีลูกชาย 3 คนคือ พิบูลย์ ดูแลธุรกิจน้ำมันของครอบครัว , พูนผล อดีต ส.ส.สมุทรปราการ เสียชีวิตเมื่อปี 2558 และชนม์สวัสดิ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ 

ว่ากันว่า วัฒนา วางตัว พูนผล เป็นทายาททางการเมืองระดับชาติ และให้ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เล่นการเมืองท้องถิ่น แต่เมื่อพี่ชายเสียชีวิต และพ่อต้องลี้ภัยในต่างแดน เอ๋จึงกระโจนเข้ามานำทัพบ้านใหญ่เต็มตัว 

วิบากกรรมการเมือง

การเลือกตั้งปี 2539 วัฒนา และลูกชาย พูนผล นำทัพพรรคประชากรไทย ยึดเก้าอี้ ส.ส.ปากน้ำ ได้เกือบยกจังหวัด และปี 2542 วัฒนา ส่งลูกชายคนเล็ก เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ 

แม้เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ จะได้รับชัยชนะ แต่ก็มีการร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เรียกว่า คดีโคตรโกงเลือกตั้งปากน้ำ ซึ่งคดีนี้ ต่อสู้กันมาสิบกว่าปี ในที่สุดศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุกเอ๋-ชนม์สวัสดิ์ เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2558 

ต่อมา วันที่ 7 ก.ย. 2559 ชนม์สวัสดิ์ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ได้ลดวันต้องโทษ 1 ใน 4 ของโทษที่เหลือ จึงได้รับการปล่อยตัวคืนสู่อิสรภาพ

ดังที่ทราบกัน ช่วงชีวิตเอ๋ จากปี 2542 จนถึงวันที่ต้องเข้าสู่เรือนจำปี 2558 มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องส่วนตัวและการเมือง 

การเมืองสมุทรปราการ จากการเลือกตั้งปี 2544 จนถึงการเลือกตั้งปี 2554 วัฒนา อัศวเหม พยายามตั้งพรรคการเมืองสู้กับพรรคไทยรักไทย ,พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย แต่ก็ปราชัยทุกครั้ง

ภารกิจทางการเมืองครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจหนีคุกของวัฒนา คือการนำนัก การเมืองบ้านใหญ่ปากน้ำเข้าร่วมก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน โดย ชนม์สวัสดิ์ ได้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน
การเลือกตั้งทั่วไปปี 2550 ชนม์สวัสดิ์นำทีมบ้านใหญ่ปากน้ำ ลงสมัคร ส.ส.สมุทรปราการ แต่ก็พ่ายพลังประชาชนทุกเขต ตัวชนม์สวัสดิ์เอง สมัคร ส.ส.หนแรกก็สอบตก

ปี 2551 วัฒนาหลบหนีออกจากประเทศไทย ก่อนที่ศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตที่ดินคลองด่าน โดยทุกวันนี้ วัฒนาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองจีน

ยุคฟื้นฟูบ้านใหญ่

หลังประมุขบ้านม้าทองคำ ไม่อยู่ในแผ่นดินไทย พูนผล อัศวเหม และชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ได้ร่วมกันขับเคลื่อนกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ

ที่สำคัญ การเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ 22 พ.ค. 2554 เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เอาชนะกำนันอำนวย รัศมิทัต บ้านใหญ่พระประแดงไปได้แค่หลักพันแต้ม

ชัยชนะของเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ทำให้กับบ้านใหญ่ม้าทองคำ มีความหวังจะกอบกู้ชื่อเสียงในการเมืองระดับชาติ แต่การเลือกตั้ง 4 ก.ค. 2554  ทีมบ้านใหญ่ปากน้ำ สวมสีเสื้อพรรคมาตุภูมิ ลงสมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ปรากฏว่า สอบตกยกทีม รวมถึงอัครวัฒน์ อัศวเหม หลานชายวัฒนา และพูลผล อัศวเหม ลูกชายวัฒนา

บ้านใหญ่ปากน้ำคืนชีพ

เกือบ 20 ปีที่ทำเนียบ ส.ส.สมุทรปราการ ไม่มีชื่อคนในตระกูลอัศวเหม กระทั่งการเลือกตั้ง 22 มี.ค.2562 ผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มบ้านใหญ่ปากน้ำ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกเป็น ส.ส.สมุทรปราการ 5 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน

ชนม์สวัสดิ์รู้ดีว่า ชัยชนะของบ้านใหญ่ครั้งนี้มาพร้อม กับสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในสมุทรปราการ การทำงานการเมืองของบ้านใหญ่ปากน้ำต้องปรับตัว เพื่อความอยู่รอด

ช่วงปี 2563-2564 ถือว่าเป็นยุคทองของ สะใภ้อัศวเหม โดย ประภาพร อัศวเหม ภรรยาพูลผล อัศวเหม เป็นนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ และนันทิดา แก้วบัวสาย คู่ชีวิตชนม์สวัสดิ์ เป็นนายก อบจ.สมุทรปราการ 

รวมถึง พิม อัศวเหม ลูกสาวประภาพร เป็น ส.อบจ.สมุทรปราการ เขต อ.พระสมุทรเจดีย์  และชนม์ทิดา อัศวเหม ลูกสาวชนม์สวัสดิ์-นันทิดา เป็นเลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ

อัศวเหมรุ่นที่ 3

สมัยที่ตระกูลอัศวเหม เข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ชนม์สวัสดิ์ ส่ง ประภาพร อัศวเหม ภรรยาของพูลผล เข้าเป็นกรรมการบริหารพรรค และมอบให้ อัครวัฒน์ อัศวเหม หลานชายวัฒนา นำทีมลงสมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เมื่อปี 2562

ช่วงหลัง คนปากน้ำจะทราบดีว่า เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ พยายามปั้นหลานสาว พิม อัศวเหม ลูกสาวของประภาพร เป็นทายาททางการเมือง คู่กับเพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม

ไม่น่าแปลกใจ ในการเลือกตั้งปี 2566 พิม อัศวเหม จึงมีชื่ออยู่ในลำดับที่ 8 ของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และเพลง ชนม์ทิดา ก็อยู่ในลำดับที่ 5 ของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

ส่วนอัครวัฒน์ อัศวเหม , ต่อศักดิ์ อัศวเหม และวรพร อัศวเหม หลานชายวัฒนา ก็ดูแลทีม ส.ส.ปากน้ำ สวมเสื้อพลังประชารัฐ ลงสนามป้องกันแชมป์สมัยหน้า

การเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรปราการ ครั้งใหม่ จะเป็นบททดสอบพลังบ้านใหญ่ปากน้ำ ในวันที่ไม่มีเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว