'อีสาน' สนามชี้ขาด 'ทักษิณ' ชนะพลพรรคสีส้ม
ลบคำปรามาส ‘ทักษิณ’ ตกยุคตกเทรนด์ สู้พลพรรคสีส้มไม่ได้ จับตาสมรภูมิ ‘อีสาน’ สนามพลิกฟื้นเพื่อไทยทั้งประเทศ ภาพรวมก้าวไกลที่ราบสูงยังเป็นรอง
ก่อนเลือกตั้ง 2566 โพลชี้ ‘พิธา’ มาแรงในอีสาน แต่ผลกลับได้ สส.เขต 7 ที่นั่ง เพื่อไทยยังเป็นแชมป์ ได้ 73 ที่นั่ง ที่เหลือบ้านใหญ่สายแข็งโกยไป 50 กว่าที่นั่ง
พลันที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขยับออกไปพบปะ สส. และ อดีต สส.ที่พรรคเพื่อไทย ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะนักวิเคราะห์การ เมืองหน้าจอทีวี ส่วนใหญ่พูดตรงกันว่า ‘ทักษิณตกยุค’ หรือทักษิณคืออดีต
หากกางข้อมูลผลการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 อาจกล่าวได้ว่า ทักษิณตกยุคไปแล้วในสมรภูมิเมืองหลวงและปริมณฑล รวมถึงภาคตะวันออก
สำหรับภาคอีสาน ที่มั่นอันแข็งแกร่งของทักษิณ ตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำ แม้จะได้ สส.เขตเป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็ถูกเจาะไปมากกว่า 50 เขต
สส.อีสาน พรรคก้าวไกล มีเพียง 7 ที่นั่งจาก สส.ทั้งหมด 133 ที่นั่ง ถือว่ายังห่างไกลกับพรรคทักษิณ รวมถึงพรรคบ้านใหญ่อย่างภูมิใจไทย
สแกนจำนวน สส.อีสาน แบ่งได้ดังนี้ เพื่อไทย 73 ที่นั่ง, ภูมิใจไทย 35 ที่นั่ง, พลังประชารัฐ 7 ที่นั่ง, ก้าวไกล 7 ที่นั่ง, ไทยสร้างไทย 5 ที่นั่ง, เพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง, ปชป. 2 ที่นั่งและชาติไทยพัฒนา 1 ที่นั่ง
หากมองในมุมการเมืองพื้นที่จะพบว่า เพื่อไทย 73 ที่นั่ง และรวมพรรคบ้านใหญ่ 50 ที่นั่งยึดพื้น สส.เขตในภาคอีสานกว่า 90% เหลือให้ก้าวไกลแค่ 7 ที่นั่ง
โจทย์ใหญ่ของทักษิณ ในการทวงคืนแชมป์อีสาน ไม่ใช่การต่อสู้กับก้าวไกล หากแต่เป็นการรบรากับคนกันเอง หรือ สส.บ้านใหญ่ในขั้วรัฐบาลปัจจุบัน
ดังนั้น ไม่แปลกใจที่ทีมงานเพื่อไทย จงใจปล่อยภาพ สุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร พรรคไทยสร้างไทย อยู่ในกลางวงล้อม สส.เพื่อไทย ในวันที่ทักษิณนัดพบลูกพรรค
ภาพนี้ทีมเพื่อไทย ต้องการยืนยันว่า สส.เตี้ย-สุภาพร บ้านใหญ่ยโสธร จะสวมเสื้อสีแดงลงสนามแทนอดีต สส.ยโสธร ที่สอบตก แถมคะแนนร่วงอย่างน่าใจหาย
ว่ากันว่า สส.อีสานของไทยสร้างไทยที่เหลืออยู่อีก 4 คน สุดท้ายก็ต้องย้ายสังกัด โดยธรรมชาติของ สส.บ้านใหญ่ พวกเขาเลือกข้างฝ่ายเป็นรัฐบาล
นายห้างดูไบตราใบห่อ
ยี่ห้อทักษิณ อาจถูกมองว่าเป็นสินค้าเก่า ไม่สดใหม่เหมือนยี่ห้อพิธา แต่สำหรับบางพื้นที่ สินค้ายี่ห้อนายห้างดูไบตราใบห่อ ยังเป็นที่ต้องการของผู้คน
การขยับหมากเดินเกมมวลชน ภาคอีสานเป็นเป้าหมายต่อไปในการลงพื้นที่ ซึ่งรูป แบบอาจจะแตกต่างการเดินทางไหว้บรรพบุรุษที่เชียงใหม่
มีการพูดถึงทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปเยี่ยมขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ที่สุขภาพไม่เต็มร้อย อันเนื่องจากการถูกลอบยิงช่วงต้นปี 2557
ขวัญชัย ไพรพนา เป็นสัญลักษณ์ของ ‘แดงนายใหญ่’ ที่ชัดเจน เขาเป็นแกนนำเสื้อแดงภูธรไม่กี่คน ที่สามารถต่อสายพูดคุยกับทักษิณได้ตลอดเวลา
วิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี และศราวุธ เพชรพนมพร อดีต สส.อุดรธานี คงอยากให้นายใหญ่ลงพื้นที่เมืองอุดรฯ เพราะตอนนี้ พรรคก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรฯไปแล้ว
การไปเหยียบอุดรธานีของทักษิณ น่าจะทำให้บรรยากาศเก่าๆ ในความเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดงหวนคืนกลับมาอีกครั้ง
ประเมินว่า หลังทักษิณพ้นโทษช่วงเดือน ส.ค.นี้ ทักษิณคงจัดออนทัวร์อีสานเต็มรูปแบบ ทั้งอีสานเหนือ อีสานกลาง และอีสานใต้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ สส.บ้านใหญ่ทั้งหลาย
สะท้านบ้านใหญ่สีน้ำเงิน
เลือกตั้งปี 2566 พรรคภูมิใจไทย มีหัวหน้าพรรค อย่าง เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ได้แสดงให้เห็นศักยภาพของผู้สมัคร สส.ระดับบ้านใหญ่ ที่ปักเสาเข็มได้เกินเป้าคือ 35 ที่นั่ง ขณะที่เพื่อไทย ได้ 73 ที่นั่ง
เปรียบเทียบกับปี 2554 ภาคอีสานเป็นฐานเสียงสำคัญของเพื่อไทย กวาดที่นั่ง สส.เขตไปได้ 104 ที่นั่ง จากทั้งหมด 126 ที่นั่ง ส่วนภูมิใจไทย ได้แค่ 13 ที่นั่ง
สมรภูมิสุรินทร์ ภูมิใจไทยสร้างความประหลาดใจให้เพื่อไทย เพราะก่อนหน้านี้ ปี 2554 ,2562 ค่ายเนวินได้ 1 ที่นั่ง แต่หนล่าสุด ได้ 5 ที่นั่งจากทั้งหมด 8 ที่นั่ง
โซนอีสานใต้ มีเพียงศรีสะเกษ และนครราชสีมา ที่ค่ายเนวินทำได้ไม่ตามเป้าหมาย แม้จะได้อดีต สส.หลายคนมาลงสนาม แต่พ่ายกระแสเพื่อไทย
โซนอีสานเหนือ-อีสานกลาง ค่ายสีน้ำเงินยังเจาะเขตสีแดงได้หลายจังหวัดอาทิ บึงกาฬ,มหาสารคาม,กาฬสินธุ์,นครพนม,ยโสธร,อุบลราชธานี รวมถึงชนะยกจังหวัดที่อำนาจเจริญ
ดังนั้น เป้าหมายของนายใหญ่ หนีไม่พ้นคงจะต้องทวงเก้าอี้ สส.อีสาน กลับคืนมาจากภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ไทยสร้างไทย และเพื่อไทรวมพลัง
ก้าวไกลยังไม่แกร่ง
จากผลเลือกตั้ง สส.ทั่วประเทศ พบว่า ช่องว่างระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล จำนวน 10 เสียง หากค่ายทักษิณ ไม่ถูกเบียดถูกเจาะที่อีสานไปมากกว่า 50 ที่นั่ง ก็จะขยับเป็นอันดับ 1 เหนือกว่าก้าวไกล
จากการเลือกตั้ง สส.ปี 2562 ก้าวไกล ได้ สส.อีสาน 1 ที่นั่ง แต่ปี 2566 ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 7 ที่นั่ง ก็ถือว่าพลาดเป้าไปพอสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับกระแสพิธา และพลังด้อมส้มอีสานที่ไม่น้อยหน้ากว่าภาคอื่น
นครราชสีมา ก้าวไกลเจาะพื้นที่ อ.เมือง และใกล้เคียง 3 เขตคือเขต 2 ฉัตร สุภัทรวณิชย์, เขต 2 ปิยชาติ รุจิพรวศิน และเขต 3 ศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์
ขอนแก่น คล้ายโคราช ค่ายสีส้มได้ สส.เขต อ.เมือง และใกล้เคียง 3 เขตคือเขต 1วีรนันท์ ฮวดศรี ,เขต 2 อิทธิพล ชลธราศิริ และเขต 3 ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง
อุดรธานี ค่ายส้มก็ชนะที่เขต อ.เมือง คือเขต 1 ณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ ส่วนเขตรอบนอก คะแนนรวมยังแพ้เพื่อไทย
สมัยที่แล้ว แกนนำก้าวไกล ทุ่มสรรพกำลังหวังจะเจาะอีสานให้ได้มากกว่า 10 ที่นั่ง แต่สุดท้ายก็ยังฝ่าด่านค่ายสีแดง และค่ายบ้านใหญ่ไม่ได้
นักวิชาการระดับกองเชียร์สีส้ม อาจจะหยามหยันว่า ทักษิณตกสมัย ไม่ทันคนรุ่นใหม่ แต่ประเมินสนามอีสานจากสภาพความเป็นจริงที่สนามรบแล้ว ก้าวไกลยังห่างชั้นกับพลพรรคทักษิณ