ศึกช้างชนช้าง 'ทักษิณ' VS 'เนวิน'
ศึกเมืองช้าง “ทักษิณ” ทวงคืนที่มั่นสุรินทร์ หลังพ่ายกลยุทธ์ “เนวิน” ฝ่ากระแสเสื้อแดง ยึดพื้นที่ สส. และ อบจ. ปักธงชัยสีน้ำเงิน
ครูใหญ่เซราะกราว ใช้เวลา 12 ปี ซ่อนกร่อนอิทธิพลทักษิณ แผ่บารมีจากบุรีรัมย์ถึงสุรินทร์ ปั้น สส.เสาเข็มสีน้ำเงิน เอาชนะ สส.เสาไฟฟ้าสีแดง
วันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.2567 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานโครงการบรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่วัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ก่อนถึงวันงานบวชเฉลิมพระเกียรติฯ ชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดบ้านพักต้อนรับแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด พูดคุยเรื่องทิศทางการเมืองของพรรคในภาคอีสาน
รุ่งเช้าวันอาทิตย์ สส.ชูชัย จึงนำขบวนคนเสื้อแดงไปต้อนรับทักษิณ ชินวัตร ที่วัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
บรรยากาศการต้อนรับทักษิณที่เมืองช้างในวันนี้ ค่อนข้างเรียบง่าย ต่างจากวันที่ไปงานบวชลูกชายนายกเบี้ยว อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
สมรภูมิการเมืองในเมืองช้าง พ.ศ.นี้ เปลี่ยนไป หลังเลือกตั้งปีที่แล้ว พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ยึดครองพื้นที่ สส.สุรินทร์ ไว้ทั้งจังหวัดเหมือนในอดีต
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย กลายเป็นพรรคที่มี สส.มากเป็นอันดับ 1 คือ 5 คน จากทั้งหมด 8 คน และล่าสุด ผลการเลือก สว. ปรากฏว่า สว.สุรินทร์ 6 คน ล้วนแต่เป็น สว.สีน้ำเงิน
บารมี เนวิน ชิดชอบ เบ่งบานเหนือเมืองช้าง หลังเพียรพยายามขยายพื้นที่การเมืองจากบุรีรัมย์มาสุรินทร์ ใช้เวลานานถึง 12 ปี เนื่องจากก่อนหน้านี้ คนเมืองช้างแอนตี้ตระกูลชิดชอบ
ย้อนวันวานที่เคยหวาน
คอการเมืองสุรินทร์อาจจะยังภาพ ทักษิณ ชินวัตร นั่งหลังช้างชื่อ พลายบัว ลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร สส.สุรินทร์ พรรคไทยรักไทย เมื่อการเลือกตั้ง สส.ปี 2549 โดยมี เนวิน ชิดชอบ เป็นผู้จัดหาช้างและเดินขนาบข้าง คอยกำกับช้าง
เลือกตั้งปลายปี 2550 เนวินกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ พรรคพลังประชาชน ดูแลภาคอีสาน เฉพาะที่สนามเมืองช้าง พลังประชาชน ได้ 7 ที่นั่ง และมัชฌิมาธิปไตย ได้ 2 ที่นั่ง
ปีนั้น ปกรณ์ มุ่งเจริญพร ได้รับเลือกเป็น สส.สุรินทร์ สมัยแรก พรรคมัชฌิมาธิปไตย แต่ก็สังกัดกลุ่มเพื่อนเนวิน
ปี 2554 เนวิน นำภูมิใจไทย ลงสนามสุรินทร์ มีอดีต สส.สุรินทร์ ร่วมทีมเพียบ แต่ก็แพ้เรียบ มีรอดคนเดียวคือ ปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส่วนเพื่อไทย กวาดไป 7 ที่นั่ง
ฝ่าแรงต้านชิดชอบ
30 กว่าปีมานี้ ตระกูลการเมืองใน จ.สุรินทร์ มีอยู่ 3 ตระกูลคือ เรืองกาญจนเศรษฐ์, รุ่งธนเกียรติ และมุ่งเจริญพร
ปกรณ์ มุ่งเจริญพร เล่นการเมืองเหมือนเครือญาติอย่าง ธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ ,ชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และพรชัย มุ่งเจริญพร นายก อบจ.สุรินทร์ เครือข่ายภูมิใจไทย
ตระกูล “มุ่งเจริญพร” ในการเมืองระดับชาติแยกเป็น 2 สีคือ ชูชัย-ธงชัย สังกัดค่ายสีแดง ส่วน ปกรณ์-พรชัย อยู่ค่ายสีน้ำเงิน แต่การเมืองท้องถิ่น พวกเขารวมเป็นสีเดียว สีแห่งวงศาคณาญาติ
หลังความพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่สนามเมืองช้าง เนวิน วางยุทธศาสตร์ “สุรินทร์-บุรีรัมย์” เป็นเมืองคู่แฝดในทุกด้าน มอบให้ปกรณ์ เป็นแม่ทัพ
ปี 2555 เนวินเอาคืนในสังเวียนท้องถิ่น หนุน “เสี่ยติ่ง” กิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ หรือกิตติเมศว์ รุ่งธนเกียรติ กลับมาเป็นนายก อบจ.เมืองช้าง สมัยที่ 3
นอกจากนี้ เนวินยังกลับมาบ้านเกิดบิดา-ชัย ชิดชอบ หนุนปกรณ์ นั่งประธานสโมสรฟุตบอล สุรินทร์ ซิตี้ หวังแจ้งเกิดเหมือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
คนเมืองช้างกลับมองเนวินในเชิงลบ คล้ายตระกูลชิดชอบจะมาครอบงำคนสุรินทร์ จึงทำให้ทีมสุรินทร์ ซิตี้ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนท้องถิ่น และปกรณ์ต้องปล่อยมือให้คนอื่นทำทีมลูกหนังแทน
ปกรณ์ปรับแผนใหม่ เดินหน้าโครงการต้นกล้ามวยไทย ปั้นเยาวชนเข้าสู่วงการมวย และหันไปปั้นลูกหนังนักเรียน อย่างปีนี้ ปกรณ์ เปิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการภูมิใจไทย เพื่อนปกรณ์คัพ ครั้งที่ 1
รวมบ้านใหญ่เมืองช้าง
ดังที่ทราบกัน การเมืองท้องถิ่นสุรินทร์ ไม่ต่างจากจังหวัดอื่น สีเสื้อพรรคเป็นแค่อาภรณ์ประดับกาย ความเป็น “พวก” สำคัญกว่า
ปี 2563 กลุ่มสุรินทร์รวมใจ ศูนย์รวมบ้านใหญ่เมืองช้างทุกสีเสื้อ ได้มติเสนอชื่อ พรชัย มุ่งเจริญพร อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย ลงสมัครนายก อบจ.สุรินทร์
พรชัย จึงเอาชนะ มานพ แสงดำ อดีตนายก อบต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่ลงสนามในนามคณะก้าวหน้าแบบสบายๆ
สมัยหน้า พรชัย มุ่งเจริญพร จะลงสนามนายก อบจ.อีกสมัย เพื่อเชื่อมต่อ อบจ.สีน้ำเงิน 3 จังหวัด 3 ตระกูลอีสานใต้คือ ตระกูลไตรสรณกุล ศรีสะเกษ, ตระกูลมุ่งเจริญพร สุรินทร์ และตระกูลชิดชอบ บุรีรัมย์
เสาเข็มสีน้ำเงิน
เลือกตั้งปี 2566 เนวิน ใช้โมเดลเสาเข็ม เน้นผู้สมัคร สส.หน้าใหม่ ใจถึงพึ่งได้ บ้านใหญ่ระดับตำบล ปรากฏว่า ค่ายสีน้ำเงินปักธงได้ 5 เขต จากทั้งหมด 8 เขต
เขต 1 (อ.เมืองสุรินทร์) ปกรณ์ มุ่งเจริญพร เป็น สส.สวมเสื้อสีน้ำเงินคนเดียวในสุรินทร์มา 2 สมัย พอถึงสมัยนี้ มีเพื่อนเพิ่มมาอีก 4 คน
เขต 3 (อ.จอมพระ) ผกามาศ เจริญพันธ์ ลูกสาว สมศักดิ์ เจริญพันธ์ อดีตรองนายก อบจ.สุรินทร์ ชนะคุณากร ปรีชาชนะชัย สส.สุรินทร์ 2 สมัย เพื่อไทย
เขต 6 (อ.สังขะ) ล้ำเลิศ พัวพัฒนโชติ อดีตนายก อบต.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ชนะ อนุชา วัชรศีขร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลศีขรภูมิ เพื่อไทย
เขต 7 (อ.ปราสาท) เรืองวิทย์ คุณวัฒนาพงษ์ เจ้าของโรงสีไฟคูเป็งเส็ง อ.ปราสาท โค่น ชูศักดิ์ แอกทอง สส.สุรินทร์ 5 สมัย เพื่อไทย
เขต 8 (อ.กาบเชิง) ปทิดา ตันติรัตนานนท์ อดีต ส.อบจ.สุรินทร์ คว่ำ สมบัติ ศรีสุรินทร์ สส.สุรินทร์ 7 สมัย เพื่อไทย
ส่วนพรรคเพื่อไทย เคยกวาด สส.สุรินทร์ เกือบยกจังหวัดในการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 แต่สมัยที่ผ่านมา เพื่อไทยได้รับเลือกแค่ 3 เขต
เขต 2 (อ.เมืองสุรินทร์) ชูชัย มุ่งเจริญพร ขวัญใจเสื้อแดงสุรินทร์ ชนะ ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ อดีต สส.สุรินทร์ ที่ย้ายจากพลังประชารัฐ มาสังกัดภูมิใจไทย
เขต 4 (อ.รัตนบุรี) พรเทพ พูนศรีธนากูล น้องชาย ตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล อดีต สส.สุรินทร์ เพื่อไทย ที่เสียชีวิตก่อนการเลือกตั้ง ชนะสบายๆ และค่ายสีน้ำเงินที่ผู้สมัคร สส.หน้าใหม่แบบไม่คาดหวัง
เขต 5 (อ.ศรีขรภูมิ) ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ 3 สมัย ไม่เหนื่อยมาก เพราะค่ายสีน้ำเงิน ส่งผู้สมัครโนเนมลงแข่งด้วย
เป็นที่รู้กันในแวดวงการเมืองสุรินทร์ ครูมานิตย์และตี๋ใหญ่ พี่ชายของพรเทพ เป็นพันธมิตรกับค่ายสีน้ำเงินเมืองช้างมานานแล้ว
