“อังกินันทน์” ผูกขาด อบจ.เมืองเพชร(ไม่)เดือด

วัวลาน เป็นกีฬาพื้นบ้านของชาวนาหลังฤดูเก็บเกี่ยว นี่คือวิถีลูกผู้ชายเมืองเพชร และมนต์เสน่ห์เพชรบุรี

ระยะหลัง การแข่งวัวลาน มีเดิมพันสูง บางครั้งมีการก่อเหตุอาชญากรรม จึงมีกฎกระทรวงมหาดไทยห้ามแข่งในเวลากลางคืน ภายหลัง มีการเรียกร้องให้แก้กฎกระทรวงมหาดไทย 

วันที่ 10 ต.ค.2567 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่กฎกระทรวง ฉบับที่ 46 (พ.ศ. 2567) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ให้การแข่งวัวลาน เป็นการพนันที่เล่นได้ในเวลาที่กำหนด ในเวลา 18.00 น. ถึง 6.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับประเพณีการเล่นแข่งวัวลานที่เล่นในเวลากลางคืน

เบื้องหลังการแก้กฎกระทรวงดังกล่าว ปฏิเสธไม่ได้ว่า “กระแต” ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ มีส่วนในการผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.สัญจร เมื่อเดือน พ.ค.2567

ถ้าจำกันได้ วันที่ 13 พ.ค.2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ได้นำรัฐมนตรีสวมเสื้อต้นตาลโตนดวัวลาน ชมการชมสาธิตแข่งวัวลาน ที่ทุ่งนาด้านหลัง สภ.บ้านลาด ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

ผู้อยู่หลังฉากการแข่งวัวลานโชว์ ครม.สัญจรในวันนั้นคือ ชัยยะ อังกินันทน์ อดีตนายก อบจ.เพชรบุรี สามี สส.กระแต นั่นเอง

ช่วงปลายเดือน ก.ย.2567 ชัยยะ อังกินันทน์ ได้ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ และนายกปราย ได้เดินทางมาสมัครนายก อบจ.เพชรบุรี ในนาม “กลุ่มรวมใจเพชร” โดยหนนี้มีคู่แข่งคือ กฤษณ์ แก้วอยู่ อดีต สส.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา 

“ทนายกฤษณ์” ประธานสภาทนายความจังหวัดเพชรบุรี 4 สมัย เคยเป็น สส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ และการเลือกตั้งปีที่แล้ว ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ก็สอบตก ได้แค่หมื่นแต้ม

ปัจจุบัน ทนายกฤษณ์ เป็นสมาชิกพรรคประชาชน จึงพยายามใช้สีส้มในป้ายหาเสียง ด้วยหวังเก็บคะแนนจากด้อมส้มเมืองเพชร ซึ่งการเลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.2567

ชัยยะ อังกินันทน์ ลูกชายคนโตของ “เดอะแป๋ง” ปิยะ อังกินันทน์ อดีต สส.เพชรบุรี ซึ่งเป็นนายก อบจ.เพชรบุรี มา 4 สมัย

สมัยที่แล้ว “นายกปราย” หัวหน้ากลุ่มรวมใจเพชร ลงสมัครนายก อบจ.เพชรบุรี แบบไร้คู่แข่ง ได้ 184,888 คะแนน คิดเป็น 63.46 % 

สองทศวรรษที่ผ่านมา ตระกูลอังกินันทน์ สาย “เดอะแป๋ง” ปิยะ อังกินันทน์ ลงสมัคร สส.ในสีเสื้อพรรคของทักษิณ ตั้งแต่ไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทย แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ

อย่างเช่นการเลือกตั้ง สส.เพชรบุรี ปี 2550 เดอะแป๋ง-ปิยะ อังกินันทน์ จัดทีมผู้สมัคร สส.เพชรบุรี สังกัดพรรคพลังประชาชน ซึ่งเดอะแป๋ง ก็มีลูกสะใภ้ ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ลงสนาม ปรากฏว่า สอบตกยกทีม

เนื่องจากคนเมืองเพชรส่วนใหญ่ ไม่ชอบทักษิณ จึงเทใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ชนะยกจังหวัดติดต่อกัน 4 สมัย

ปี 2562 การเมืองเพชรบุรีเปลี่ยนโฉมหน้า ด้วยกระแสลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อพรรคพลังประชารัฐ ชนะยกจังหวัด คว้า 3 เก้าอี้ สส.เมืองเพชร

ผู้เบื้องหลังชัยชนะของ พปชร.คือ “นายกปราย” ชัยยะ อังกินันทน์ ที่ได้รับการติดต่อจาก สุชาติ ชมกลิ่น และ “เสธ.อ้น” พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา ให้จัดทีมผู้สมัคร สส.เพชรบุรี ประกอบด้วยเขต 1 กฤษณ์ แก้วอยู่, เขต 2 สาธิต อุ๋ยตระกูล, เขต 3 สุชาติ อุสาหะ 

การเลือกตั้งปี 2566 สส.เปี๊ยก-สุชาติ อุสาหะ พาทนายกฤษณ์ แก้วอยู่ ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ฝั่ง “นายกปราย” ก็จัดทีมใหม่ ภายใต้สีเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ

ทีมใหม่ของนายกปราย ประกอบด้วยเขต 1 “กระแต” ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เขต 2 สาธิต อุ๋ยตระกูล อดีต สส.เพชรบุรี และเขต 3 จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล

ผลการเลือกตั้ง สส.เพชรบุรี ปี 2566 ทีม รทสช.สายนายกปราย คว้าไป 2 ที่นั่ง และภูมิใจไทย สายธานี ยี่สาร เพื่อนรักของเนวิน ได้ 1 ที่นั่ง 

สำหรับ 2 สส.เพชรบุรี พรรค รทสช. ล้วนเป็นวงศาคณาญาติเดียวกันคือกระแต-ธิวัลรัตน์ ภรรยาของชัยยะ อังกินันทน์นั้นเป็นลูกสาวของ อันธีร์ อักษรนันทน์ อดีต สส. เพชรบุรี ปี 2529

อันธีร์ อักษรนันทน์ เริ่มเล่นการเมืองท้องถิ่น เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเพชรบุรีสังกัดกลุ่มผาด จึงสนิทสนมกับเพิ่มพล พลบุตร บิดาของอลงกรณ์ พลบุตร 

จะว่าไปแล้ว ตระกูลอังกินันทน์ ,พลบุตร และอักษรนันทน์ ก็เริ่มมาจากรากเหง้าเดียวกันคือ “กลุ่มผาด” โดยผาด อังกินันทน์ เมื่อถึงรุ่นลูก ก็แข่งขันกันเองตามวิถีการเมือง

ปัจจุบัน สส.อันธีร์ ยังมีชีวิตอยู่ และมีลูกสาว 2 คน ที่รับมรดกการเมืองคือ กระแต-ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1 และอาภัสสยา แก้วโกศลนายกเทศมนตรีตำบลบ้านลาด อ.บ้านลาด ภรรยาของ จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3 

พูดง่ายๆ นายกปราย-ชัยยะ อังกินันทน์ และ จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล ต่างเป็นคู่เขยของตระกูลอักษรนันทน์ ซึ่งเป็นตระกูลหนึ่งในยุทธจักรเมืองเพชร 

พ.ศ.นี้ ภูมิทัศน์การเมืองเพชรบุรีเปลี่ยนไป จากยุคเสียงปืนและหีบบัตรเลือกตั้ง สู่ยุคการเมืองเรื่องกระแส
 
ในการเมืองระดับชาติ เมื่อตระกูลอังกินันทน์ สลัดทิ้งเสื้อแดง(ทักษิณ) มาสวมเสื้อลุงตู่ จึงได้รับชัยชนะ ส่วนตระกูลพลบุตร ก็ตกต่ำพร้อมกับกระแสพรรค ปชป.

ส่วนการเมืองท้องถิ่น คนเมืองเพชรยังยึดติดกับตัวบุคคล “นายกปราย” ทายาทเดอะแป๋ง และทีม สจ.รวมใจเพชร จึงผูกขาด อบจ.เพชรบุรี และมีแนวโน้มจะเป็นนายก อบจ.ต่ออีกสมัย.