“จุรินทร์” ประชุม JTC ไทย- วียดนาม ขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน
“จุรินทร์” ประชุม JTC ไทย- เวียดนาม ขอเวียดนามช่วยเจรจาเปิดด่านจีน 24 ชม.ดันส่งออกผลไม้ผ่านด่านไปจีน พร้อมปลดล็อคยกเลิกนำเข้า”เนื้อไก่ เงาะ มะม่วง” หนุนไทยลงทุนพลังงานสะอาด ด้านเวียดนามขอไทยลดการขาดดุลการค้า -ออกใบอนุญาตนำเข้าผลไม้ 5 ชนิด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 4 ร่วมกับนายเหวียน ห่ง เซียน (H.E. Mr. Nguyen Hong Dien) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของประเทศเวียดนาม โดยมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม เมื่อปีที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 25,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งการประชุม JTC มีการหารือในหลายประเด็น
ในส่วนของไทยได้ขอให้ทางเวียดนาม ช่วยเจรจากับรัฐบาลจีนในฐานะประเทศที่มีติดกัน เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งผลไม้ไทยผ่านด่านเวียดนามไปจีน เช่น 1.ด่านโหย่วอี้กวานของจีน ที่อยู่ตรงข้ามกับด่านหวูหงิของเวียดนาม ปัจจุบันเปิดทำการตั้งแต่ 8.00-19.00 น. ขอให้เวียดนามช่วยเจรจากับจีนให้เปิดเป็น 24 ชั่วโมง 2.ด่านรถไฟผิงเสียงกับด่านรถไฟด่งดังของเวียดนาม เปิดทำการ 8.30-18.00 น. ขอให้ขยายเป็น 24 ชั่วโมง 3.ด่านตงซิงของจีนกับด่านหม่องก๋ายของเวียดนามซึ่งขณะนี้ปิดทำการขอให้ทางเวียดนามช่วยเจรจาอีกครั้งให้เปิดด่านต่อไป
รวมทั้งขอให้เวียดนามและจีนช่วยเพิ่มช่องทางกรีนเลน (Green Lane)อำนวยความสะดวกส่งสินค้าไทย ที่ผ่านกระบวนการปลอดโควิดตามมาตรฐานเข้าจีนให้เร็วขึ้น และขอให้ช่วยเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกมากขึ้น ท่านรัฐมนตรีเวียดนามแจ้งว่าเวียดนามยินดีที่จะส่งเสริมกรีนเลนให้กับฝ่ายไทย แต่การเจรจากับจีนต้องหารือกันต่อไปเพราะเป็นนโยบายซีโร่โควิดของจีน โดยตนทำหนังสือถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับด่านของจีนแล้ว ขอโอกาสในการหารือเพราะผลไม้ไทยกำลังเริ่มออกในเดือนพ.ค.นี้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังขอให้ทางการเวียดนามยกเลิกการระงับการนำเข้าสินค้า 3 ตัวจากไทย คือ 1.เนื้อไก่ 2.เงาะ และ3.มะม่วง ที่ห้ามนำเข้ามาตั้งแต่ปี 58 รวมทั้งการส่งออกยาของไทยไปเวียดนาม ซึ่งได้มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมนอกเหนือจากข้อตกลงอาเซียน ขอให้ทางเวียดนามช่วยปรับปรุงให้เป็นไปตามข้อตกลงอาเซียน ยกเลิกเอกสาร มาตรการที่เกินข้อตกลง ทางรัฐมนตรีเวียดนามรับจะเข้าไปปรับปรุงแก้ไขให้ต่อไป รวมทั้งให้ช่วยประชาสัมพันธ์การจัดงานแสดงสินค้าไทยในเวียดนาม โดยเฉพาะงาน Mini Thailand Week ที่จะจัดขึ้นกลางปีนี้ ที่นครเกิ่นเทอและเมืองกว่าง และสนับสนุนให้ไทยใช้แพลตฟอร์มของเวียดนามเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคต่อไป ไม่ว่าจะเป็น Shopee Lazada เวียดนาม TIKKI และ Sendo โดยไทยจะสนับสนุนให้สินค้าเวียดนามเข้ามาขายในแพลตฟอร์มไทยด้วยเช่นเดียวกัน
ด้านการลงทุนนั้นไทยขอให้เวียดนามสนับสนุนนักลงทุนไทยไปลงทุนด้านพลังงานสะอาดโดยเร่งเปิดการประชุมร่วมในการส่งเสริมพลังงานสะอาดเพื่อเพิ่มการลงทุนระหว่างกันโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นควรดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 2 หรือ 3 เป็นอย่างช้าในปีนี้และขอให้เปิดแรงงานเพิ่มเติมจากปัจจุบัน ประมงกับก่อสร้าง ขอให้เพิ่มอีก 2 สาขาคือ แม่บ้านและผู้ใช้แรงงานและเเร่งขึ้นทะเบียนจีไอ สำหรับลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูนของไทยที่ไปขอขึ้นทะเบียนไว้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะที่ทางเวียดนามขอให้ไทยเร่งแก้ปัญหาการขาดดุลการค้ากับไทย เร่งออกใบอนุญาตนำเข้าผลไม้ 5 ชนิด คือ ส้มโอน้อยหน่า เสาวรส ลูกน้ำนมและเงาะ ซึ่งตนเสนอให้เวียดนามใช้ช่องทาง MoU ที่ทำกับกระทรวงเกษตรฯของไทยเป็นเวทีหารือต่อไป ส่วนปัญหาความล่าช้าในการตรวจสินค้าที่ท่าเรือนั้นทางเวียดนามขอให้ท่าเรือของเราลดขั้นตอนการตรวจสินค้า รวมทั้งช่วยตรวจเอกสารให้เร็วขึ้น ทางกระทรวงการคลังและคมนาคม รับเรื่องนี้ไปปรับปรุงอำนวยความสะดวกให้ ทั้งนี้ไทยยินดีที่จะสนับสนุนจัดงานแสดงสินค้าของเวียดนามในประเทศไทยในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ด้วย
สำหรับประเด็นที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีความเป็นห่วงคือปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการค้าของทั้ง 2 ประเทศ และมีผลกระทบต่อเกือบทุกประเทศในโลก ไทยกับเวียดนามจำเป็นที่จะต้องจับมือกันให้แน่นแฟ้น รวมทั้งประเทศสมาชิกอาเซียน เพราะจะมีส่วนช่วยทำให้เราร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ปัญหาต่างๆทางการค้าการลงทุนร่วมกันได้อย่างมีน้ำหนักยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการประชุม นายจุรินทร์ได้เดินชมกิจกรรมที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ ( OBM) ซึ่งจัดคู่ขนานการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 4 มีคู่เจรจา 47 คู่ จากผู้นำเข้า 12 ราย ผู้ส่งออก 31 ราย คาดมูลค่าซื้อขาย 30 ล้านบาท โดยสินค้าไทยที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ อาหารและผลไม้แปรรูป เครื่องดื่ม ของขบเคี้ยว ซอสปรุงรส เครื่องสำอาง สปา ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แชมพู ของเล่นเด็ก และ น้ำมันเครื่อง เป็นต้น นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะมีการจัดงานแสดงสินค้า Mini Thailand Week 2022