"ศูนย์สิริกิติ์" ชี้ประชุมเอเปค-อีเวนท์ ดันอัตราใช้พื้นที่ 4 เดือนท้าย 70%
“เอ็น.ซี.ซี.” คาดคนตบเท้าร่วมงานประชุม “เอเปค 2022” กว่า 3 หมื่นคน ประเดิมเปิด “ศูนย์สิริกิติ์” โฉมใหม่ รับเปิดประเทศเต็มตัว ด้านธุรกิจจัดเอ็กซิบิชั่น “นีโอ” ลุยงานแฟร์ท่องเที่ยว “กอล์ฟ-ดำน้ำ-เอาต์ดอร์” พ.ค.นี้ รับเทรนด์คนไทยแห่ตีกอล์ฟ ดำน้ำ จัดแคมปิ้ง โตสวนโควิด-19
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ NCC กล่าวว่า หลังจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค (APEC) ประจำปี 2022 ในเดือน พ.ย.นี้ ต้อนรับผู้นำประเทศ รัฐมนตรี ผู้ติดตาม ตัวแทนภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจาก 21 เขตเศรษฐกิจ และสื่อมวลชนทั่วโลก คาดมีผู้เข้าร่วมงานนี้มากกว่า 3 หมื่นคน
APEC 2022 ถือเป็นงานใหญ่ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และเป็นการประเดิมใช้ศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่เต็มรูปแบบ ในช่วงจังหวะกลับมาเปิดประเทศเต็มรูปแบบและเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นปลายปีนี้ หลังต้องเจอวิกฤติโควิด-19 ที่เริ่มระบาดหนักเมื่อต้นปี 2563 โดยทางศูนย์ฯสิริกิติ์ไม่ได้รับผลกระทบเชิงธุรกิจจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดปรับปรุงตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.2562 เป็นต้นมา
นอกเหนือจากงาน APEC 2022 ที่เป็นไฮไลต์ของศูนย์ฯสิริกิติ์แล้ว ยังมีงานแสดงสินค้า (เอ็กซิบิชั่น) ระดับนานาชาติอื่นๆ ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.) เช่น งาน Food & Hospitality Thailand 2022 ตั้งแต่วันที่ 21-24 ก.ย.นี้ งาน ASEAN Sustainability Energy Week วันที่ 14-16 ก.ย. และอื่นๆ มีส่วนผลักดันอัตราการใช้พื้นที่ของศูนย์ฯสิริกิติ์ในช่วง 4 เดือนดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 70%
นายศักดิ์ชัย กล่าวในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ NEO ด้วยว่า บริษัทฯจะมีรายได้ปี 2565 ที่ 400 ล้านบาท จากการจัดงานแสดงสินค้า 12 งาน และในปี 2566 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 450 ล้านบาท จาก 14 งาน โดย 2 งานใหม่ คืองาน Fruit Process Expo เดือน มี.ค.2566 และงาน Outdoor Travel Fair ซึ่งจะแยกออกมาจัดในเดือน ต.ค.2566 ส่งเสริมตลาดท่องเที่ยว กิจกรรม และกีฬากลางแจ้งกับผจญภัย จากที่ปีนี้จัดรวมกับงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟและดำน้ำ ภายใต้ชื่องาน “Thailand Golf & Dive Expo Plus Traveler and Outdoor Expo 2022” กำหนดจัดวันที่ 5-8 พ.ค.นี้ ที่ไบเทค บางนา มีผู้ประกอบการกว่า 500 รายร่วมออกบูธนำเสนอแพ็คเกจและสินค้าท่องเที่ยว คาดมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 50,000 คน เม็ดเงินสะพัดภายในงานไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท
“ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา คนไทยสนใจกิจกรรมท่องเที่ยวและกีฬาทางน้ำกับเอาต์ดอร์เป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนไทยไม่สามารถออกไปเที่ยวต่างประเทศได้ ประกอบกับทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะทางทะเลของไทยได้รับการฟื้นฟูจนกลับมาสวยงามมากกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ทำให้ตลาดนี้เติบโตดีมาก สวนทางวิกฤติ”
โดยข้อมูลจาก PADI Course ระบุว่ามีคนไทยไปเรียนดำน้ำจำนวนมาก มีการมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านฝึกอบรมดำน้ำในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-19 เม.ย. เพิ่มขึ้น 109% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เกิดนักดำน้ำหน้าใหม่สูงมาก มีส่วนหนุนตลาดทริปดำน้ำฟื้นตัว 60-70% ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนไทยนิยมไปทริปดำน้ำทะเลภาคใต้จำนวนมาก ชดเชยการไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงโควิด-19 ระบาด จึงคาดว่าปีนี้ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำน้ำจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10-20%
ด้านกิจกรรมท่องเที่ยวเอาต์ดอร์ เป็นอีกตลาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากความสนใจเรื่องรถบ้านในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ ซึ่งมีการนำรถตู้และรถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถบ้านเพื่อรองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวที่ต้องการจัดแคมปิ้ง โดยคาดว่าปีนี้ตลาดแคมปิ้งเอาต์ดอร์จะเติบโตก้าวกระโดดเกิน 100% จากการขยายตัวของกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่นิยมการเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ ทำให้ธุรกิจลานกางเต็นท์เอกชนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเพื่อรองรับความต้องการ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คาดว่ามีลานกางเต็นท์เอกชนเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 500 แห่ง