BBL เผยไตรมาส 1/65 กำไรสุทธิ 7.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8%
“ธนาคารกรุงเทพ” โชว์ไตรมาส 1 ปี 65 กำไรสุทธิ 7.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% เหตุรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินให้สินเชื่อ
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า มีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2565 จำนวน 7,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงไตรมาส1 ปี 2564 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 10.4% จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินให้สินเชื่อ ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.11% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 16.1% ส่วนใหญ่จากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมลดลงตามสภาวะตลาด
รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิลดลงจากธุรกิจบัตรเครดิต และบริการประกันผ่านธนาคาร และกองทุนรวม ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง 1.6% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 49.8% ทั้งนี้ ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 6,489 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากผลกระทบอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกรอบ รัฐบาลจึงต้องเข้มงวดเรื่องการเข้าเมืองอีกครั้ง ทำให้การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศชะลอลง
ขณะเดียวกัน สงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน นำไปสู่การปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน และพลังงานโลก ตลอดจนราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภท ด้วยเหตุนี้อัตราเงินเฟ้อจึงได้ปรับเพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ทำให้การบริโภคของภาคเอกชนภายในประเทศชะลอตัว
นอกจากนี้ ยังทำให้ธนาคารกลางในบางประเทศต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการค้าโลก ทำให้ภาคการส่งออกของไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัวได้เพียง 12.2% จากเดิมที่เคยขยายตัวได้ถึง 22.1% ในไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ ในระยะข้างหน้าความผันผวนของตลาดการเงิน และเศรษฐกิจโลกจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย มีแนวโน้มว่าจะใช้เวลานาน และไม่เท่ากัน โดยแต่ละธุรกิจใช้เวลาในการปรับตัวที่แตกต่างกันออกไป บางธุรกิจฟื้นตัวได้รวดเร็วเช่นกิจการส่งออกไปต่างประเทศ ในขณะที่บางธุรกิจฟื้นตัวช้ากว่าเช่นกิจการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และสันทนาการ
ธนาคารกรุงเทพ ได้ดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าในแต่ละภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบในแต่ละช่วงที่ลูกค้าประสบปัญหา โดยเน้นให้การสนับสนุนสภาพคล่องทั้งในระยะสั้นเพื่อประคับประคองให้ธุรกิจอยู่รอด และสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนเมื่อธุรกิจกลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้ธนาคารดำเนินธุรกิจด้วยเจตนารมณ์ของการเป็น “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” พร้อมแบ่งปันความรู้ และความเชี่ยวชาญเพื่อสนับสนุนลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ด้วยการให้คำแนะนำในการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจตามแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ในขณะเดียวกันธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์